ความเคลื่อนไหวเชิงนโยบายของรัฐบาลทักษิณ ชินวัตร มิใช่เพียงความเคลื่อนไหวเชิงการเมืองที่ผู้คนในแวดวงใช้โครงความคิดเดิมอรรถาธิบายเท่านั้น
หากเป็นความเคลื่อนไหวทางยุทธศาสตร์ของอิทธิพลใหม่ของสังคมที่มาจากรากฐานทางเศรษฐกิจ
มาจากการพัฒนาของสังคมธุรกิจไทยที่ขยายปริมณฑลเข้าถึงชุมชน ในระดับลึกและกว้างอย่างไม่เคยมีมาก่อน
ความสัมพันธ์ระบบอุปถัมภ์ดั้งเดิมของชนบทกำลังถูกทำลายด้วยโครงสร้างเศรษฐกิจปัจจุบัน
รวมไปถึงโครงสร้างทางการเมือง โดยการนำของตัวแทนธุรกิจสมัยใหม่ในรัฐบาลชุดนี้
กำลังฌาปนกิจความสัมพันธ์ทางการเมืองแบบเก่าไปด้วย
ผมเคยวิเคราะห์เรื่องที่มีความคิดต่อเนื่องเหล่านี้มาบ้าง ยังไม่เคยปะติดปะต่อให้เป็นภาพการเปลี่ยนถ่าย
อิทธิพลในยุคใหม่นี้อย่างชัดเจน ว่าไปแล้วในยุคใกล้ๆ นี้มียุคของการปรับโครงสร้างเช่นนี้มาแล้วหลายยุค
ยุคสงครามเวียดนาม
"เหตุการณ์ที่สหรัฐอเมริกาเข้าร่วมสงครามเวียดนาม การส่งกองทหารหลายหมื่นคนทำสงครามแบบแผน
ถือเป็นประวัติศาสตร์และบทเรียนสำคัญในเชิงการเมืองของสหรัฐฯ ในขณะเดียวกัน
มีการเคลื่อนตัวของอิทธิพลทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ เข้ามาอย่างจริงจังในภูมิภาคนี้และต่อมาขยายไปทั่วโลก
ได้กระตุ้นโดยตรงให้กลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่ของโลก เคลื่อนตัวออกจากฐานเดิม
แสวงหาโอกาสใหม่ในขอบเขตทั่วโลกด้วย"
"ประเทศไทยได้รับอิทธิพลโดยตรงจากปรากฏการณ์ครั้งสำคัญนี้ ในทางเศรษฐกิจเกิดการพัฒนาอย่าง
มากในด้านสาธารณูปโภค ที่เน้นระหว่างเมืองกับหัวเมืองและชนบทบางพื้นที่
การเข้ามาของการลงทุนจากต่างประเทศ และการเติบโตของธุรกิจท้องถิ่นเปิดโอกาสให้เกิดกลุ่มธุรกิจใหม่ๆ
เป็นการผลิตสินค้าทดแทนการนำเข้า เพื่อสนองพฤติกรรมการบริโภคของคนไทยที่เริ่มเปลี่ยนแปลงในวงกว้าง
(Critical Mass) ใช้สินค้าเพื่อความสะดวกสบายแบบตะวันตกมากขึ้น กระแสการตื่นตัวรับสินค้าสมัยใหม่กว้างขวางกลายเป็นการตลาดที่คุ้มต่อการลงทุน
ดูเหมือนเป็นกระแสที่มาพร้อมกับการตื่นตัวทางการเมืองอย่างกว้างขวาง กระแสการลงทุนจากตะวันตก
โดยเฉพาะสหรัฐฯ มาลงทุนโดยตรงในเมืองไทย โดยมองว่าแปซิฟิกริมเป็นย่านความเจริญใหม่ทางเศรษฐกิจ"
(อ่านรายละเอียดจากเรื่อง Critical Mass นิตยสารผู้จัดการ ตุลาคม 2544)
ยุค Globalization
"ความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจที่ต่อเนื่องของไทย ทำให้ฐานผู้บริโภคสินค้าสมัยใหม่ขยายตัวต่อเนื่อง
แม้จะเกิดวิกฤติการณ์ของตลาดหุ้นไทยอันเป็นผลมาจากวิกฤติการณ์ตลาดหุ้นในฮ่องกง
ก็เกิดในวงแคบ และจำกัดวงอยู่ในภาคการเงินเป็นหลัก ขณะที่ผู้มาใหม่ในภาคการเงินล้มไป
แต่ผู้มาใหม่ในภาคการผลิตแม้จะต้องปรับตัว ปรับโครงสร้างธุรกิจ แต่ส่วนใหญ่พวกเขายังคงอยู่
นี่คือข้อเท็จจริงอีกประการหนึ่งที่ผู้คนให้ความสนใจน้อย
อีกมิติหนึ่งของวิกฤติการณ์โครงสร้างเศรษฐกิจได้เปลี่ยนโครงสร้างสัมพันธ์กับระบบเศรษฐกิจมากยิ่งขึ้น
มากกว่ายุคก่อนหน้านั้น โอกาสของผู้มาใหม่ก็คือคนที่มองโอกาสนี้อย่างเจาะลึกในเชิง
Strategy มากกว่าการแสวงหาผู้ร่วมทุนจากต่างประเทศ เช่นในยุคก่อนหน้านั้น
โดยเฉพาะความเคลื่อนไหวและพัฒนาการเทคโนโลยีใหม่ของโลก ที่มุ่งเพื่ออำนวยความสะดวกระดับบุคคล
พัฒนาต่อเนื่องกลายเป็นสินค้าใหม่ของผู้บริโภคระดับโลก จากเครือข่ายการสื่อสารที่พัฒนาไปมากขึ้น
ผู้ขายสินค้าสมัยใหม่เหล่านี้ในประเทศไทยจึงเติบโตอย่างมาก โดยเฉพาะกรณี
ทักษิณ ชินวัตร (จากเรื่อง New Model Newcomer นิตยสารผู้จัดการ กรกฎาคม
2545)
ความจริงในยุคบรรหาร ศิลปอาชา เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมและต่อเนื่องมาในยุคชาติชาย
ชุณหะวัณ การสร้างเครือข่ายถนนระหว่าง ชุมชนทั่วประเทศเป็นจุดขายทางการเมือง
เป็นพื้นฐานของระบบสื่อสารยุคใหม่ที่ซับซ้อนมากขึ้นในเวลาต่อมา ไม่ว่าจะเป็นระบบที่จะต้องวางโครงข่ายสาย
และระบบสื่อสารไร้สาย ไปจนถึงอิทธิพลของ "เนื้อหา" ที่อาศัยเครือข่ายเหล่านั้น
โดยเฉพาะทีวี
"ที่สุดแล้วทีวีไทยทุกช่องเริ่มพัฒนาเครือข่ายทั่วประเทศที่ทำให้ความเสียเปรียบได้เปรียบลดลงอย่างเด่นชัด
ในราวปี 2531-2533 อันเป็นช่วงเบิกร่อง เศรษฐกิจไทยพองโตอย่างมากในเวลาต่อมา
จากนี้โครงสร้างความหลากหลายของชุมชนหัวเมืองต่างๆ ของไทยลดลงในช่วง 20
ปีมานี้ ไม่มีผู้ประกอบการรายใหม่ที่มาจากหัวเมืองแล้วเติบโตขึ้นระดับชาติแม้แต่รายเดียว
ขณะเดียวกับเครือข่ายธุรกิจของธุรกิจระดับชาติแผ่ขยายออกสู่ต่างจังหวัดอย่างขนานใหญ่
ความใหญ่ที่เป็นบุคลิกธุรกิจไทยเดิม ได้มีขนาดความใหญ่มากขึ้น น่ากลัวมากขึ้นอย่างไม่เคย
ปรากฏมาก่อน ไม่ใช่ความใหญ่ในเครือข่ายธุรกิจของกลุ่มธนาคารไทยที่หนังสือแนวเศรษฐศาสตร์การเมืองสมัย
14 ตุลาคม กล่าวถึง ซึ่งเป็นการโยงผลประโยชน์ธุรกิจย่อยๆ หลายกลุ่มมารวมกัน
โดยการถือหุ้นข้ามกัน หากแต่วันนี้ ความเป็นเจ้าของการบริหารตกอยู่ในมือ
เจ้าของกลุ่มเดียวอย่างเข้มข้น อาทิ เครือเจริญโภคภัณฑ์ หรือกลุ่มเจริญ สิริวัฒนภักดี
อิทธิพลของทีวีพัฒนาควบคู่ไปกับระบบสื่อสารของไทย ซึ่งถูกแรงกระตุ้นอย่างมากในช่วง
10 ปีมานี้ ให้สร้างเครือข่ายระดับประเทศ ด้วยการลงทุนเชิงโครงสร้างครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์
ในการสร้างระบบสาธารณูปโภคของสังคมไทย (แม้ว่ารัฐจะได้ลงทุนโดยตรงทั้งหมดก็ตาม)
ขณะเดียวกัน ทีวีกลายเป็นเครือข่ายทรงพลังของสินค้าที่เชื่อมโยงกับวิถีชีวิตสมัยใหม่
ที่ถูกถ่ายทอดมาจาก Globalization ด้วย เป็นการเชื่อมโยงไปถึงฐานรากของชุมชนไทยเลยทีเดียว
การลงทุนดำเนินธุรกิจยุคใหม่ของธุรกิจระดับโลก ในระดับท้องถิ่นในเมืองไทย
มีต้นทุนที่ถูกลง และเจาะตลาดได้ง่ายขึ้นอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน" (จากเรื่อง
Consumer Contract นิตยสารผู้จัดการ สิงหาคม 2545)
แนวของเรื่องผมเคยเขียนต่อความคิดนี้ไว้นานแล้วเมื่อประมาณสิบกว่าปีที่แล้ว
ที่ว่าด้วยการล่มสลายของกลุ่มธุรกิจท้องถิ่น หรือการถอยร่นของธุรกิจเหล่านี้
เพราะบทบาทตัวแทนการค้าประจำท้องถิ่นของสินค้าระดับชาติหมดไป เมื่อเครือข่ายธุรกิจส่วนกลางขยายไปถึง
และโอกาสของกลุ่มธุรกิจท้องถิ่นเติบโตเป็นธุรกิจระดับชาติก็หมดไปด้วย
การถอยร่นของธุรกิจท้องถิ่น ย่อมรวมถึงธุรกิจที่ใช้อิทธิพลดั้งเดิมสร้างและขยายตัวมานาน
อิทธิพลในระบบอุปถัมภ์ในท้องถิ่น มีอำนาจที่ไม่สอดคล้องกับระบบระเบียบ กฎหมายของสังคมยุคใหม่มานานแล้ว
ความจริงกลุ่มอิทธิพลท้องถิ่นกับโมเดลธุรกิจแบบอำนาจนิยมแบบท้องถิ่น เพิ่งเติบโตอีกครั้งหลังเหตุการณ์ทางการเมืองครั้งสำคัญของสังคมไทยในช่วงปี
2516-2519 นี่เอง การต่อสู้ของนักศึกษาและประชาชน เพื่อสร้างการเมืองแบบกระจายอำนาจ
ด้วยการเลือกตั้ง ในสิ่งที่เรียกกันว่า ประชาธิปไตย ด้วยการทำลายโครงสร้างอำนาจส่วนกลางที่อยู่ในเมืองของรัฐบาลทหาร
และเทคโนแครต ทำให้ตัวแทนอำนาจดั้งเดิมของท้องถิ่นเติบโตขึ้น เข้ามามีอิทธิพลทางการเมืองอย่างเปิดเผย
แม้พวกเขาจะไม่สามารถขยายอำนาจธุรกิจสู่ระดับชาติ ด้วยโมเดลธุรกิจสมัยใหม่
และพวกเขาก็สร้างโอกาสในการรักษาอิทธิพลของพวกเขาไว้ได้ในระดับหนึ่ง พร้อมทั้งก่อกวนระบบเศรษฐกิจสมัยใหม่ไปด้วย
โมเมนตัมด้วยระบบเศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนด้วยทุนขนาดใหญ่ พัฒนาการด้านบริหารในการปรับกระบวนการผลิต
และการตลาดให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ส่งผลให้แนวคิดการสร้างเครือข่ายตลาดจากฐานประเทศ
บริษัท จนถึงผู้บริโภคระดับบุคคล จากบางขอบเขตไปสู่ขอบเขตทั่วโลก พิจารณาเฉพาะประเทศ
การเข้าถึงตลาดชุมชนด้วยการตลาดสมัยใหม่ จึงกลายเป็นยุทธศาสตร์สำคัญในการรักษาความมั่นคงและแข็งแกร่งของธุรกิจเป็นทอดๆ
ไป
สินค้าระดับโลกเข้าถึงชุมชนได้แล้ว ไม่ว่าจะเป็นสินค้าเกษตร เช่น แครอท
ไปจนถึงสินค้าสื่อสาร เช่น โทรศัพท์มือถือ เป็นปรากฏการณ์ที่กำลังจะส่งผลต่อการเปลี่ยนความสัมพันธ์ทางสังคมเดิมครั้งใหญ่
สังคมไทยมีผู้มีอิทธิพลแบบใหม่ยึดอำนาจแกนกลางไว้แล้ว และอำนาจนี้กำลังพยายามกำจัดผู้มีอิทธิพลแบบเก่า
เพื่อทำลายอุปสรรคในการเข้าถึงตลาดทางเศรษฐกิจไปจนถึงการเคลื่อนไหวทางการเมือง
การเปลี่ยนแปลงครั้งใหม่กำลังเกิดขึ้นและก้าวไปสู่การเปลี่ยนแปลงที่ไม่อาจขัดขวางได้
ขณะเดียวกันก็จะทำให้ผู้มีระบบคิดแบบดั้งเดิมกำลังจะกลายเป็น "ความคิด" ที่เข้าสู่พิพิธภัณฑ์ในไม่ช้าด้วย