|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
แบงก์รัฐเปิดศึกชิงเงินฝากหลังสนองนโยบายรัฐจนสภาพคล่องตึงตัว ธ.ก.ส.ออกบัตรเพิ่มทรัพย์ 5 พันล้าน ดอกเบี้ย 1.5% อายุ 3 ปี ฉลองครบรอบ 42 ปี หวังดึงประชาชนลดซื้อหวยมีโอกาสลุ้น 36 งวดแถมได้ทุนพร้อมดอกเบี้ยคืนขณะที่รางวัลที่ 1 มีถึง 5 รางวัล ด้านแบงก์ออมสินเตรียมขายพันธบัตรออมสินคุ้มครองสุขภาพอายุ 2 ปี จ่ายดอกเบี้ย 3.5% หวังระดมเงินฝากเข้าพอร์ต 1 หมื่นล้านบาท
นายธีรพงษ์ ตั้งธีระสุนันท์ ผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า ธ.ก.ส. เตรียมออกพันธบัตรออมทรัพย์รุ่น "บัตรเพิ่มทรัพย์" วงเงิน 5 พันล้านบาท จำนวน 50 ล้านหน่วย ราคาหน่วยละ 100 บาท อายุ 3 ปี อัตราดอกเบี้ยไม่รวมเงินรางวัลเท่ากับ 1.5% ต่อปี โดยจะนำเงินที่ได้มาสำรองเพื่อการปล่อยสินเชื่อ และใช้เป็นเงินหมุนเวียน ตลอดจนรองรับสลากประเภทอื่นที่ใกล้ครบอายุ แล้วยังเพิ่มโอกาสให้ประชาชน โดยเฉพาะเกษตรกร ในการออมเงินมากขึ้นด้วย ซึ่งจะเปิดจำหน่ายครั้งแรกในวันที่ 3 พฤศจิกายน 2551 ในโอกาสธ.ก.ส.ครบรอบ 42 ปี
สำหรับบัตรเพิ่มทรัพย์ สามารถตรวจรางวัลได้ 36 งวด มีรางวัลที่ 1 จำนวน 5 รางวัล รางวัลละ 1 ล้านบาท ผู้ที่ซื้อบัตรเพิ่มทรัพย์จำนวน 5 แสนบาท หรือเท่ากับ 5 พันหน่วย จะมีโอกาสถูกรางวัลเลขท้าย 3 ตัวทุกงวด และได้รับผลตอบแทนเบื้องต้นจะเท่ากับ 2.70% ต่อปี และยังมีโอกาสถูกรางวัลอื่นๆ เพิ่มขึ้น ซึ่งจะทำให้ได้รับผลตอบแทนเพิ่มขึ้นด้วย
"บัตรเพิ่มทรัพย์จะมีลักษณะคล้ายกับบัตรทวีสิน แต่ราคาต่อหน่วยจะถูกกว่าจากหน่วยละ 500 บาท เหลือหน่วยละ 100 บาท โอกาสในการถูกรางวัลที่ 1 ก็เพิ่มมากขึ้น เพราะมีถึง 5 รางวัล ส่วนบัตรทวีสินมีเพียง 1 รางวัล แล้วผู้ที่ซื้อบัตรเพิ่มทรัพย์จำนวน 5 แสนบาท จะได้รับประโยชน์ตอบแทนสูงกว่าผู้ที่ซื้อบัตรทวีสินในจำนวนเงินที่เท่ากัน ส่วนการตรวจรางวัลก็จะใช้ตัวเลขกลุ่มเดียวกันกับเลขรางวัลทวีสิน ซึ่งจะออกทุกวันที่ 16 ของทุกเดือน ทั้งนี้การออกบัตรเพิ่มทรัพย์เป็นการเพิ่มทางเลือกในการออม ไม่ได้มาแย่งส่วนแบ่งของบัตรทวีสิน แม้ว่าจะเป็นตลาดเดียวกันและยังส่งเสริมให้ประชาชนรู้จักการออมแทนการซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลเพราะสามารถลุ้นได้ถึง 36 งวดและได้เงินต้นและดอกเบี้ยคืนด้วย"
ผู้จัดการ ธ.ก.ส. กล่าวอีกว่า อีกส่วนหนึ่งที่น่าสนใจของบัตรเพิ่มทรัพย์ก็คือ รูปแบบของบัตรที่ธนาคารได้ให้ อาจารย์ปรีชา เถาทอง ศิลปินแห่งชาติ อดีตคณะบดี คณะจิตรกรรม ปฏิมากรรมและภาพพิมพ์ มหาวิทยาลัยศิลปากร เป็นผู้ออกแบบภาพวาดที่จะใช้พิมพ์เป็นบัตรเพิ่มทรัพย์ ซึ่งจะเป็นรูปภาพของป่าไม้ 4 ภาค ขณะนี้อยู่ระหว่างกระบวนการจัดทำ คาดว่าจะเสร็จในเร็วๆ นี้
ออมสินออกพันธบัตรคุ้มครองสุขภาพ
ด้านนายเลอศักดิ์ จุลเทศ ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน กล่าวว่า ธนาคารออมสินในฐานะที่เป็นสถาบันเพื่อการออมของประเทศได้มีการคิดค้น และพัฒนาผลิตภัณฑ์เงินฝากเพื่อส่งเสริมและสร้างวินัยการออมมาอย่างต่อเนื่องกว่า 95 ปี ล่าสุดธนาคารฯ ได้เปิดให้บริการเงินฝากในรูปแบบพันธบัตรออมสิน เพื่อจูงใจให้ประชาชนได้ออมเงินอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกันยังได้รับความคุ้มครองสุขภาพ โดยกำหนดเปิดจองซื้อ พันธบัตรออมสิน (คุ้มครองสุขภาพ) ในระหว่างวันที่ 13-24 ตุลาคม 2551 นี้
พันธบัตรออมสิน (คุ้มครองสุขภาพ) ธนาคารออมสิน เปิดวงเงินจองซื้อ จำนวน 1 หมื่นล้านบาท อายุพันธบัตร 2 ปี จองซื้ออัตราหน่วยละ 1 หมื่นบาท ผู้สนใจสามารถจองซื้อได้ในวงเงินขั้นต่ำ 1หมื่นบาท ชำระเงินในวันจองซื้อ โดยธนาคารให้ผลตอบแทนอัตราดอกเบี้ย 3.5% ต่อปี จ่ายดอกเบี้ยทุก 6 เดือน สำหรับผู้มีสิทธิ์จองซื้อคือ บุคคลธรรมดาสัญชาติไทยที่มีอายุ 7 ปีขึ้นไป หรือบุคคลธรรมดารวมกันไม่เกิน 3 รายซื้อร่วมกันต่อ 1 บัญชี หรือจะเป็นนิติบุคคลก็ได้ โดยผู้จองซื้อก่อนมีสิทธิ์ได้รับการจัดสรรก่อน และจะได้รับพันธบัตรได้ภายใน 15 วัน นับจากวันที่ 27 ตุลาคม 2551 เป็นต้นไป
นายเลอศักดิ์ กล่าวว่า นอกเหนือจากการได้รับผลตอบแทนข้างต้นแล้ว ธนาคารออมสิน มอบสิทธิประโยชน์พิเศษให้แก่ผู้จองซื้อ พันธบัตรออมสิน (คุ้มครองสุขภาพ) โดยร่วมกับ บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน)TIP ด้วยการ มอบความคุ้มครองสุขภาพให้แก่บุคคลธรรมดาฟรีทันทีโดยไม่ต้องชำระเบี้ยประกัน เมื่อจองซื้อพันธบัตรวงเงินตั้งแต่ 500,000 บาทแต่ไม่เกิน 1,500,000 บาท จะได้รับการคุ้มครองสุขภาพตามแผน 1 คือ กรณีผู้ป่วยใน ได้รับวงเงินรักษาพยาบาลสูงสุดถึง 140,000 บาทต่อการรักษา 1 ครั้ง ส่วนกรณีผู้ป่วยนอกสามารถใช้สิทธิรักษาพยาบาลปีละ 30 ครั้งวงเงินรักษาครั้งละ 600 บาท หากจองซื้อพันธบัตรวงเงินตั้งแต่ 1,500,000 บาทขึ้นไป จะได้รับการคุ้มครองสุขภาพในแผน 2 สำหรับผู้ป่วยในได้รับวงเงินรักษาพยาบาลสูงสุดถึง 272,800 บาทต่อการรักษา 1 ครั้ง ส่วนกรณีผู้ป่วยนอกสามารถใช้สิทธิรักษาพยาบาลปีละ 30 ครั้งวงเงินรักษาครั้งละ 800 บาท ซึ่งความคุ้มครองดังกล่าวเป็นไปตามเงื่อนไขในระบุไว้ในกรมธรรม์
"ผู้สนใจสามารถติดต่อจองซื้อในช่วงวันที่กำหนดได้ที่ ธนาคารออมสิน ทุกสาขา หน่วยให้บริการของธนาคารออมสินในรูปแบบต่างๆ หรือ ดูรายละเอียดได้ที่เว็บไซต์ www.gsb.or.th หรือ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ Call Center โทร.1115" นายเลอศักดิ์กล่าว
|
|
|
|
|