Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน7 ตุลาคม 2551
บาทอ่อนยวบแตะ34.40-ธปท.ยันไม่พบเก็งกำไร             
 


   
search resources

Currency Exchange Rates




ค่าเงินวานนี้ปิดที่ 34.40 บาทต่อดอลลาร์ อ่อนค่าจากวันศุกร์ถึง 25 สต. แบงก์ชาติระบุการซื้อขายเป็นปกติ ยังไม่พบเก็งกำไร ด้านบอร์ดแบงก์ชาติชุดรักษาการแต่งตั้ง กนง.เสร็จแบบฉุกละหุกนาทีสุดท้าย แถมยังติดเงื่อนไขบางรายต้องไปลาออกจากหน่วยงานเก่า เพื่อไม่ให้มีตำแหน่งที่ซับซ้อน

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) (BAY) กล่าวถึงการเคลื่อนไหวค่าเงินบาทวานนี้ (6 ต.ค.) ว่าช่วงเช้าเปิดตลาดที่ระดับ 34.25 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ เป็นการเปิดที่อ่อนค่าพอสมควรเมื่อเทียบกับช่วงสุดสัปดาห์ก่อนที่ปิดตลาดในระดับ 34.14-34.16 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ และอ่อนค่าลงต่อเนื่องจนกระทั่งปิดตลาดในช่วงเย็นที่ระดับ 34.40-34.42 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ โดยมีระดับแข็งค่าสุดของวันที่ระดับเปิดและอ่อนค่าสุดของวันที่ระดับปิดตลาด

ปัจจัยหลักที่ทำให้เงินบาทอ่อนค่านั้น มาจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับทุกสกุล หลังจากที่รัฐสภาสหรัฐฯ มีมติเห็นชอบแผนการฟื้นฟูสถาบันการเงิน 7 แสนล้านเหรียญสหรัฐเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ในขณะที่ประเทศอื่นๆ ในยุโรปยังไม่มีความคืบหน้าเกี่ยวกับแผนการแก้ปัญหาออกมา จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้นักลงทุนหันมาถือครองดอลลาร์มากขึ้น อย่างไรก็ตาม ปัจจัยในประเทศโดยเฉพาะในส่วนของการเมืองนั้น ก็มีส่วนกดดันเงินบาทให้อ่อนค่าลงเช่น เนื่องจากตั้งแต่ช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาสถานการณ์การเมืองมีแนวโน้มที่จะทวีความรุนแรงขึ้นอีก

"เงินบาทได้รับปัจจัยทั้งจากภายในและต่างประเทศ แม้อาจจะเป็นปัจจัยชั่วคราว แต่น้ำหนักทางปัจจัยต่างประเทศจะมากกว่า เงินบาทที่อ่อนค่าลงก็พอจะเห็นสัญญาณการเข้ามาดูแลของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) อยู่บ้าง ซึ่งน่าจะเป็นตรงจุดประมาณ 34.40 บาท"

สำหรับทิศทางของเงินบาทวันนี้ (7 ต.ค.) จากแนวโน้มเงินดอลลาร์สหรัฐที่ยังคงแข็งค่าอยู่ ก็จะทำให้เงินบาทยังอ่อนค่าสวนทาง โดยคาดว่าน่าจะอยู่ในกรอบ 34.30-34.50 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ปัจจัยที่ยังต้องจับตามองอยู่คือวิกฤตสถาบันการเงินของต่างประเทศหยุดหรือจะยังมีสถาบันการเงินแห่งไหนได้รับผลกระทบอยู่

นักบริหารเงินจากธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เงินบาทอ่อนค่าลงตามสกุลอื่นๆในภูมิภาค ซึ่งเป็นการอ่อนค่าตามปัจจัยทางเทคนิคและค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่แข็งค่าขึ้นมา อย่างไรก็ตามค่าเงินบาทของไทยยังถือว่าอ่อนค่าน้อยกว่าภูมิภาค เพราะโดยรวมค่าเงินสกุลอื่นๆ ในภูมิภาคถือว่าอ่อนค่ากว่าค่าเงินบาทค่อนข้างมาก

สำหรับวันนี้คาดว่าค่าเงินบาทจะยังอ่อนค่าต่อเนื่อง โดยต้องจับตาดูที่แนวต้าน 34.50 บาท ดอลลาร์สหรัฐ ว่าจะสามารถผ่านได้หรือไม่ ซึ่งถ้าหากผ่านได้ก็อาจ
จะอ่อนค่าได้อีก


แบงก์ชาติเผยยังไม่พบเก็งกำไร

นางผ่องเพ็ญ เรืองวีระยุทธ์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายตลาดการเงินและบริหารเงินสำรอง ธปท. กล่าวว่า ขณะนี้ ธปท.ยังไม่พบการเก็งกำไรเงินบาท และการซื้อขายเงินบาทในตลาดก็ยังคงเป็นไปตามปกติ โดยไม่ได้มีการเร่งซื้อมากขึ้น และผู้นำเข้าก็ยังมีการซื้อขายปกติเช่นกัน ขณะที่ผู้ส่งออกเองก็มีการขายเงินดอลลาร์ออกไปบ้าง แต่ก็เป็นเรื่องปกติตามฤดูกาลที่ในช่วงไตรมาสที่ 4 ของทุกปี เมื่อผู้ส่งออกมีรายได้ก็ย่อมมีการขายเงินดอลลา เพื่อแลกเงินบาท

"ค่าเงินบาทยังคงเป็นไปตามทิศทางเดียวกับค่าเงินของประเทศแถบภูมิภาคเอเชีย ซึ่งส่วนใหญ่อัตราแลกเปลี่ยนค่อนข้างอ่อนค่า ยกเว้นค่าเงินเยนของญี่ปุ่น เมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น หลังจากสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐผ่านร่างแผนฟื้นฟูสถาบันการเงินวงเงิน 700,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ อย่างไรก็ตาม ธปท.ได้มีการติดตามอยู่ทุกวันและเข้าไปดูแลบ้างเมื่อเงินบาทมีความผันผวนมากเกินไปตามความจำเป็น"

ตั้งบอร์ด กนง.นาทีสุดท้าย

หลังจากนายพรชัย นุชสุวรรณ จำเลยคดีหวยบนดินและอดีตที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี (พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร) ยังไม่ได้รับการโปรดเกล้าฯ ปรากฏว่าวานนี้ (6 ต.ค.) บอร์ด ธปท.ชุดรักษาการ เรียกประชุมฉุกเฉินเพื่อแต่งตั้ง กนง. เพื่อให้ กนง.ประชุมเพื่อวางนโยบายการเงินในวันพรุ่งนี้ (8 ต.ค.) ปรากฏว่าได้มีการแต่งตั้งแต่ยังไม่แล้วเสร็จเนื่องจากกรรมการบางรายติดขัดเรื่องคุณสมบัติ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าบรรยากาศภายหลังการประชุม บอร์ด ธปท.มีสีหน้าเคร่งเครียด โดยนายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ หนึ่งในบอร์ด ธปท.รักษาการ กล่าวว่า "ที่ประชุมได้มีมติแต่งตั้งบอร์ด กนง.ชุดใหม่แล้ว แต่ผู้ว่าแบงก์ชาติจะเป็นผู้ให้รายละเอียด" ส่วนนายนนทพล นิ่มสมบูรณ์ กรรมการ ธปท. ยอมรับว่าแม้จะมีการตั้งบอร์ด กนง.แล้ว แต่ก็ยังคงติดเงื่อนไขหลายอย่าง ส่วนหนึ่งมีบุคคลที่ได้รับการแต่งตั้ง ต้องไปลาออกจากหน่วยงานเก่า เพื่อไม่ให้มีตำแหน่งที่ซับซ้อนในการทำหน้าที่หรือได้รับประโยชน์จากข้อมูลนโยบายการเงิน

“การแต่งตั้งจะทันการประชุมวันที่ 8 ต.ค.นี้หรือไม่ ก็ต้องพยายามให้ทัน หากยังไม่ได้ก็ต้องตั้งใหม่ เพื่อให้มีคนทำหน้าที่” นายนนทพลกล่าว

สำหรับการประชุมครั้งนี้ประกอบด้วยนางธาริษา วัฒนเกส ผู้ว่าการฯ นายบัณฑิต นิจถาวร รองผู้ว่าการ ด้านเสถียรภาพสถาบันการเงิน นางอัจนา ไวความดี รองผู้ว่าการ ด้านเสถียรภาพการเงิน น.ส.นิตยา พิบูลย์รัตนกิจ รองผู้ว่าการ ด้านบริหาร นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ นายอำพน กิตติอำพน นายนนทพล นิ่มสมบุญ นางพรทิพย์ จาระ นายอรรคบุษย์ ไกรฤกษ์ ผู้ช่วยผู้ว่าการ ฝ่ายสนับสนุนงานบริหาร ธปท. ในฐานะเลขานุการ และนางวันทนา เฮงสกุล ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายสนับสนุนการบริหาร ธปท.และในฐานะผู้ช่วยเลขานุการ ยกเว้นนางพรรณี สถาวโรดม ผู้อำนวยการ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ที่เกษียณอายุ   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us