Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน3 ตุลาคม 2551
ห้ามนมถูกอายัดส่งกลับดัชมิลล์ล้มร่วมทุนในจีน             
 


   
www resources

โฮมเพจ ดัชมิลล์

   
search resources

ดัชมิลล์, บจก.
Dairy Product




อย.โต้ “ดัชมิลล์” ห้ามนำนมผงจากจีนที่ถูกอายัดส่งกลับประเทศจีน โดยไม่ได้รับอนุมัติใบรับรองสินค้าจากอย.และศุลกากร ขณะที่ข้อสรุปวอร์รูมเมลามีนเตรียมเผยข้อมูลผลิตภัณฑ์ที่ได้ใบรับรองทุก 15.00 น. ด้าน “เฉลิม” ย้ำไม่ได้พกความโง่มาจากบ้านจะได้เซ็นลงนามก่อนแถลงนโยบายรัฐบาล ด้านดัชมิลล์ ระงับนำเข้านมผงจีนทั้งหมด พร้อมส่งสินค้า 120 ตัน คืนซัปพลายเออร์ เล็งอินเดียแหล่งวัตถุดิบใหม่ พับแผนร่วมทุนโรงงานนมในจีน-เวียดนาม เตรียมอัดแคมเปญพิเศษเรียกความเชื่อมั่นผู้บริโภคในช่วงไตรมาส 4

วานนี้ ( 2 ต.ค.) ที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) นพ.พิพัฒน์ ยิ่งเสรี เลขาธิการอย. กล่าวว่า แม้ทางบริษัท ดัชมิลล์ จำกัด จะยืนยันว่า นมผงที่นำเข้าจากประเทศจีนที่อยู่ระหว่างการนำเข้าพิธีการทางศุลกากรที่ท่าเรือปท.10 จ.สมุทรปราการจำนวนประมาณ 100 ตันโดยได้ตรวจสอบนมผงดังกล่าวโดยห้องปฏิบัติการของบริษัท ซึ่งไม่มีสารเมลามีนแต่ก็ยืนยันที่จะส่งนมผงล็อตดังกล่าวกลับไปยังประเทศต้นทางคือประเทศจีน ซึ่งทางอย.ไม่ยอมรับการกระทำดังกล่าว โดยขั้นตอนการส่งคืนวัตถุดิบใดๆ จะต้องมีใบรับรองสินค้าจากอย.และศุลกากร จึงจะสามารถถอนการอายัดและส่งสินค้าออกจากท่าเรือได้

“ขณะนี้อย.อยู่ระหว่างการรอผลตัวอย่างนมผงล็อต 100 ตันและ 22 ตันของบริษัทดัชมิลล์ก่อนหน้านี้ไปตรวจสอบยืนยันอีกครั้งหนึ่งที่ห้องปฏิบัติการของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ซึ่งใช้เวลาในการตรวจประมาณ 2 วัน และไม่ว่าจะผ่านการตรวจวิเคราะห์จากห้องปฏิบัติการแห่งใด อย.ก็จะนำตัวอย่างสินค้ามาตรวจสอบซ้ำอีกครั้งหนึ่ง โดยยึดผลแล็บจากกรมวิทยาศาสตร์ฯเป็นมาตรฐาน ทั้งนี้กรมวิทยาศาสตร์ฯได้พัฒนาชุดตรวจสารเมลามีนในเบื้องต้นสำเร็จ โดยจะกระจายไปให้ศูนย์วิทยาศาสตร์ฯในภูมิภาคต่างๆทั่วประเทศเพื่อตรวจสอบตัวอย่างแล้ว”

นพ.พิพัฒน์กล่าวว่า ขณะนี้มีการวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับกรณีที่ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.สาธารณสุขออกมาแสดงความคิดเห็นว่าอย่าให้กระพือข่าวเรื่องสารเมลามีน เพราะเกรงว่าจะกระทบกับเศรษฐกิจระหว่างประเทศนั้น ความจริงแล้วตนเองได้ให้ข้อมูลกับร.ต.อ.เฉลิม ถึงมาตรการป้องกันการปนเปื้อนสารเมลามีนว่า ใช้วิธีการคุมเข้มโดยการตรวจสอบ แต่ยังไม่ถึงขั้นห้ามนำเข้าสินค้าจากประเทศจีนโดยตรงเหมือนกับที่หลายประเทศดำเนินการแล้ว ซึ่งร.ต.อ.เฉลิมก็เห็นด้วยในเรื่องดังกล่าว ดังนั้นจึงไม่ใช่การห้ามดำเนินการตามมาตรการที่ทำอยู่

นอกจากนี้ข้อสรุปของคณะทำงานเฉพาะกิจเกี่ยวกับการปนเปื้อนเมลามีนในอาหารและผลิตภัณฑ์นมหรือวอร์รูมเมลามีนมีข้อสรุปว่าในเวลา 15.00 น. ของทุกวันจะเผยแพร่ข้อมูลสินค้าที่ได้รับการรับรองจากอย.ผ่านสื่อมวลชนเพื่อให้ประชาชนทราบและไม่ตื่นตระหนก รวมทั้งจะเก็บตัวอย่างเพิ่มเติมในสินค้าที่นำเข้าทางด่านอาหารและยาพร้อมรายงานการอายัดสินค้าว่ามีจำนวนเท่าไหร่ด้วย ส่วนกรณีที่ประเทศฮ่องกงพบว่า มีการพบสารเมลามีนในกูลิโกะ ก็จะมีการตรวจวิเคราะห์สารเมลามีนเพื่อความมั่นใจ แม้จะไม่มีข้อมูลว่ามีการนำเข้ากูลิโกะจากประเทศจีนก็ตาม

“เวลานี้เป็นเรื่องความซื่อสัตย์ของผู้ค้า มิฉะนั้นผู้ผลิตจะเสียหายเอง แต่ไม่อยากให้ตื่นตระหนกจนเกินไป เพราะจะส่งผลกระทบกับเกษตรกรโคนมในประเทศ จึงขอยืนยันว่าขณะนี้นมในตลาดส่วนใหญ่มีความปลอดภัยสามารถรับประทานได้”นพ.พิพัฒน์กล่าว

ทราบผล 89 ตัวอย่างแล้ว

นพ.นรังสันต์ พีรกิจ รองเลขาธิการอย.กล่าวว่า อย.ได้เก็บตัวอย่างผลิตภัณฑ์อาหารทั้งที่ผลิตในประเทศและนำเข้าจากต่างประเทศจำนวน 103 ตัวอย่าง ขณะนี้ทราบผลแล้ว 89 ตัวอย่าง และรอผลการวิเคราะห์ 14 ตัวอย่าง ขณะนี้ได้ออกใบรับรองแล้วจำนวน 31 รายการ ซึ่งส่วนหนึ่งเจ้าหน้าที่อย.เป็นผู้เก็บตัวอย่าง และอีกส่วนหนึ่งบริษัทเป็นผู้เก็บตัวอย่าง ดังนั้น จึงต้องมีการตรวจซ้ำในล็อตที่บริษัทเป็นผู้ตรวจวิเคราะห์ด้วย

“ผลิตภัณฑ์นมผงของบริษัทดัชมิลล์ จำนวน 100 ตัน ยืนยันว่าขณะนี้ยังไม่ได้ส่งกลับประเทศจีน หรือหายไปไหน แต่ยังคงอยู่ที่ท่าเรือ ด่านศุลกากร โดยมีการย้ายสถานที่จัดเก็บเพื่อความเหมาะสมเท่านั้น อย่างไรก็ตามหากบริษัทจะส่งคืนก็เป็นเรื่องของบริษัทแต่อย.มีหน้าที่ตรวจสอบสินค้าทั้งหมดที่จะนำเข้า”นพ.นรังสันต์กล่าว

ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.สาธารณสุข กล่าวว่า หนังสือพิมพ์บางฉบับรายงานว่าตนไม่เซ็นลงนามในประกาศกระทรวงสาธารณสุขเรื่อง กำหนดอาหารที่ห้ามผลิต นำเข้า หรือจำหน่าย ซึ่งเป็นกฎหมายที่ออกมาควบคุมสารเมลามีนในอาหารนั้น ตนทราบว่าอยากให้เซ็นประกาศดังกล่าวไวๆ แต่ไม่สามารถทำอย่างนั้นได้ เนื่องจากรัฐบาลยังไม่ได้แถลงนโยบายต่อรัฐสภา อำนาจรัฐมนตรีจึงยังไม่มีสิทธิเต็มในการลงนามคำสั่งใดๆ

“หากผมพกความโง่มาจากบ้านก็คงจะเซ็นไปเรียบร้อยแล้ว ส่วนเรื่องที่ผมจะใช้ความสัมพันธ์ส่วนตัวกับนายกสมาคมไหหลำ ฮกเกี้ยน แต้จิ๋ว ไม่ได้ทำเป็นทางการแต่เป็นการพบกันแบบส่วนตัว ซึ่งผมกับนายกสมาคมเหล่านี้ ก็ชอบกันมานาน และยืนยันว่าหากแถลงนโยบายเรียบร้อยจะลงนามทันที”ร.ต.อ.เฉลิมกล่าว

นพ.พิพัฒน์ ยิ่งเสรี เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยาเปิดเผยว่า วานนี้(2 ต.ค.) อย.ได้ออกหนังสือรับรองผลิตภัณฑ์แก่บริษัทผู้ผลิต/น้ำเข้าที่ผลตรวจไม่พบการปนเปื้อนสารเมลามีนอีก 4 รายการ จำนวน 2 บริษัทดังนี้ 1.ผลิตภัณฑ์เอมโปรเบบี้ช้อยส์ ซึ่งเป็นอาหารเสริมบิสกิตจากธัญพืชสำหรับทารกและเด็กเล็ก อายุ 8 เดือนถึง 3 ปี ของ บ.มาร์เก็ตติ้ง อินเทลลิเจ้นท์ จำกัด 2.โยเกิร์ตพร้อมดื่ม ของ บ.ดัชมิลล์จำกัด 3-4.โยเกิร์ตธรรมชาติ เลขสารบบอาหาร 73-1-17929-1-0021 และเลขสารบบอาหาร 773-1-17929-1-0002 ของ บ.ดัชมิลล์ จำกัด

ดัชมิลล์ล้มร่วมทุนจีน

จากการเกิดวิกฤตการปนเปื้อนของสารเมลามีนในนมผงจีน ทำให้เด็กเสียชีวิต 4 ราย ล้มป่วยไปแล้วกว่า 60,000 คน และอีก 150 รายเกิดอาการไตวาย โดยทางคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ได้เข้ามาตรวจสอบโรงงานดัชมิลล์เมื่อวันที่ 22 กันยายน และอายัดนมผงที่นำเข้าจากจีนจำนวน 20 ตัน พร้อมทั้งสุ่มตัวอย่างผลิตภัณฑ์นมสดและโยเกิร์ต 11 รายการ อาทิ นมพลาสเจอร์ไรส์ตราดัชมิลล์ และโยเกิร์ต ดัชชี่ จำนวน 11 รายการ เพื่อตรวจวิเคราะห์หาสารเมลามีนและสารในกลุ่มเดียวกัน กระทั่งวันเมื่อวันที่ 30 กันยายน ที่ผ่านมา อย.ได้แจ้งว่าผลิตภัณฑ์ดัชมิลล์ มีความปลอดภัยต่อการบริโภค สามารถจำหน่ายผลิตภัณฑ์ได้ต่อไป

นายธีระยุทธ ฉายสว่างวงศ์ ประธานกรรมการกลุ่ม บริษัท ดัชมิลล์ จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายนมเปรี้ยวพร้อมดื่มดัชมิลล์ ได้กล่าวชี้แจ้งว่า แม้ว่าผลิตภัณฑ์ดัชมิลล์จะปลอดภัยต่อการบริโภค แต่บริษัทฯก็ได้ระงับการใช้นมผงจากจีนในการผลิตนมพาสเจอร์ไรส์ทั้งหมดตั้งแต่วันที่ 18 กันยายนที่ผ่านมา และแม้ว่าผลการตรวจจะผ่านมาตรฐานจากทางยุโรปก็ตาม โดยบริษัทจะส่งนำนมผงคืนแก่ซัปพลายเออร์ในจีนทั้งหมดจำนวน 120 ตัน โดยอยู่ในโรงงาน 20 ตัน และท่าเรือ 100 ตัน ซึ่งคิดเป็นมูลค่ากว่า 18 ล้านบาท จนกว่าอย.ออกมาตรฐานที่ชัดเจน และผู้บริโภคมีความเชื่อมั่น ซึ่งต้องเฝ้าติดตามในช่วง 3-6 เดือน

นมผงที่นำเข้าจากประเทศจีนของดัชมิลล์ ไม่ได้ผลิตจากโรงงาน 22 แห่งที่ประสบปัญหาการปนเปื้อนสารเมลามีน ทั้งนี้หากย้อนเวลาได้ บริษัทคงไม่นำเข้านมผงจากจีนเข้ามาใช้อย่างเด็ดขาด โดยบริษัทเพิ่งนำเข้านมผงจากจีนมาใช้เมื่อ 15 เดือนที่ผ่านมา จากเดิมนำเข้าจากฮอล์แลนด์ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ เป็นต้น แต่เนื่องจากในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาเกิดภาวะโลกร้อน ทำให้เกิดปัญหาขาดแคลนวัตถุดิบ ดังนั้นเราจึงต้องหาแหล่งวัตถุดิบสำรองแหล่งใหม่ เพื่อรองรับการขยายตลาดต่างประเทศ ประกอบกับเราเป็นบริษัทคนไทย อำนาจการต่อรองหรือหาแหล่งวัตถุดิบไม่มีเท่ากับบริษัทข้ามชาติ อาทิ โฟร์โมสต์ ดาน่อน เมจิ ในขณะที่จีนสามารถผลิตนมผงได้ถึง 4 หมื่นตัน เป็นอันดับ 2 ของโลกรองอินเดีย

อย่างไรก็ตาม นายธีระยุทธ กล่าวว่า ขณะนี้บริษัทได้ชะลอการลงทุนช่วงนี้ จากเดิมจะซื้อหุ้นในโรงงานนมในประเทศจีน โดยจะเข้าไปถือหุ้น 55% และขยายกำลังการผลิตในประเทศเวียดนามและฟิลิปปินส์ โดยในเวียดนามคาดว่าจะไปถือหุ้น 5% ในโรงงานวินนามิลค์ แผนการชะลอการลงทุน ส่วนหนึ่งเพราะบริษัทไม่มั่นใจในแผนกู้วิกฤติเศรษฐกิจระบบการเงินสหรัฐฯมูลค่า 7 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือมากกว่า 23 ล้านล้านบาท อีกทั้งภาวะภายในประเทศ การเมืองยังไม่นิ่ง ต้องให้เวลานายกรัฐมนตรีที่เพิ่งเข้ามารับตำแหน่ง

นายเขมทัต กรัยวิเชียร ในฐานะที่ปรึกษากลุ่มบริษัท ดัชมิลล์ กล่าวว่า บริษัทฯคงต้องหาแหล่งวัตถุดิบใหม่ทดแทนการนำเข้าจากประเทศจีน โดยมีความเป็นไปได้ที่จะนำเข้าจากประเทศอินเดีย อย่างไรก็ตามคงต้องมีการตรวจสอบคุณภาพว่าผ่านเกณฑ์มาตรฐานหรือไม่ โดยขณะนี้นมพาสเจอร์ไรส์ที่ผลิตสู่ตลาดเป็นสินค้าล็อตใหม่ ซึ่งไม่ได้ใช้นมผงที่มาจากประเทศจีน

งัดแคมเปญพิเศษเรียกความเชื่อมั่น

นายพรชัย สวัสดิ์สุขสบชัย กรรมการผู้จัดการ กล่าวว่า หลังจากข่าวแพร่ออกไปขณะนี้บริษัทฯยังไม่ได้รับผลกระทบด้านยอดขาย ส่วนหนึ่งเพราะเป็นแบรนด์ที่อยู่ในตลาดมานานร่วม 25 ปี อย่างไรก็ตามในช่วงไตรมาสสุดท้ายบริษัทฯจะจัดแคมเปญพิเศษออกมาสร้างความเชื่อมั่นแก่ผู้บริโภค จากงบการตลาดในช่วงปลายปีนี้ 50-60 ล้านบาท ที่บริษัทฯวางไว้เพื่อกระตุ้นยอดขายในช่วงโค้งสุดท้าย เนื่องจากตลาดนมพร้อมดื่มมีอัตราการเติบโต 0.8% ในช่วงเดือนพฤษภาคม-มิถุนายน ที่ผ่านมา และผลประกอบการโต 2% จากเป้าหมายทั้งปีโต 10% จากการมีรายได้ปีที่ผ่านมากว่า 8,000 ล้านบาท ทั้งนี้สาเหตุที่ตลาดเติบโตมาจากการปรับราคาของนมพร้อมดื่ม และกำลังการซื้อของผู้บริโภคที่ลดลง

บิ๊กซีรับกระทบยอดขาย

นางสาวจริยา จิราธิวัฒน์ รองประธานฝ่ายการตลาดและการสื่อสาร บริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ผลกระทบจากสารเมลามีนปนเปื้อนในนมผง ทำให้ยอดขายลดลงบ้าง โดยในกลุ่มสินค้านมคิดเป็นสัดส่วน 5-6% ของรายได้ของบิ๊กซี ทั้งนี้การที่ยอดขายลดลง เนื่องจากบิ๊กซีได้ถอดสินค้าที่มีวัตถุดิบการผลิตจากนมทั้งหมด จนกว่าซัปพลายเออร์จะนำใบรองรับผลจากทางอย. ซึ่งขณะนี้ได้ทยอยนำสินค้าเข้ามาจำหน่ายตามปกติเกือบ 50% แล้ว อย่างไรก็ตามหลังจากถอนนมพร้อมดื่มจากชั้นวาง ส่งผลให้ผู้บริโภคหันไปซื้อนมถั่วเหลืองดื่มมากขึ้น   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us