|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
วิกฤตสหรัฐฯเริ่มลุกลามกระทบต่อธุรกิจในไทย คาดเงินทุนยังไหลออก ดุลการค้ากับสหรัฐฯลดลง ค่ายพฤกษาฯเบรกออกหุ้นกู้พันล้านไปรอปีหน้า เหตุจังหวะไม่เหมาะสม ต้นทุนดอกเบี้ยเพิ่ม รักษาภาพลักษณ์บริษัท สมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร ชี้ไทยควรเรียนรู้วิกฤตสหรัฐฯ เพื่อคุมความเสี่ยง "อิสระ บุญยัง"ดึงระบบพรีแฟบสร้างบ้านให้ลูกค้าได้อยู่เร็ว
วิกฤตการเงินในสหรัฐฯ ซึ่งมีผลต่อเนื่องมาจากปัญหาสินเชื่อซัปไพรม์ และก่อผลกระจายเป็นวงกว้างถึงวงการการเงินในสหรัฐฯ โดยการล่มละลายของวาณิชธนกิจอันดับต้นๆ เลห์แมน บราเธอร์ส เป็นสัญญาณร้ายแรงที่ทำให้รัฐบาลสหรัฐ ต้องพยายามเข้ามาอุ้มสถาบันการเงินของตนเอง ล่าสุดสภาผู้แทนราษฎร์ของสหรัฐ ได้ล้มแผนการอัดฉีดเม็ดเงินมหาศาล 7 แสนล้านเหรียญ ที่จะเข้าโอบอุ้มการเงินไม่ให้ล่มจนกลายเป็นลูกโซ่กระทบเศรษฐกิจสหรัฐให้ถดถอยมากกว่าที่เป็นอยู่
แหล่งข่าวในวงการอสังหาฯ กล่าวยอมรับว่า วิกฤตการเงินในสหรัฐฯน่าจะกระทบเป็นวงกว้าง ซึ่งหากพิจารณาในส่วนของการค้าแล้ว สหรัฐฯน่าจะมีการนำเข้าลดลง ซึ่งจะมีผลต่อตัวเลขดุลการค้าของไทยได้ เพราะที่ผ่านมาไทยได้ดุลการค้ามานาน ขณะเดียวกัน จีน ญี่ปุ่น และกลุ่มอียู หลักๆมีการค้ากับสหรัฐ นั่นหมายความว่า เศรษฐกิจของประเทศเหล่านี้จะชะลอตัวลงเช่นกัน ในภาพของการลงทุนในไทย คงจะชะลออกไป เพราะในตอนนี้มีการถอนเงินทุนของกองทุนต่างๆ รวมถึงนักลงทุนต่างประเทศ เนื่องจากต้องการถือเงินสดเพื่อรอจังหวะในการลงทุนอีกครั้ง
" คิดว่าคงต้องใช้เวลาประมาณ 2 ปี เงินทุนจะไหลกลับเข้ามาในไทย อย่าลืมว่า วิกฤตนี้ใหญ่ และนี้เป็นเพียงแค่หนังตัวอย่าง คงต้องติดตามหนังม้วนยาวกันต่อไป ทั้งนี้ เหตุผลที่เชื่อ ว่าทุนจะไหลกลับ เพราะทุนที่เข้าสู่สหรัฐนั้น ไม่ได้ก่อประโยชน์ แต่เศรษฐกิจจะถดถอยลงมา สุดท้าย เงินเหล่านี้ก็จะไหลกลับออกสู่ภูมิภาคต่างๆ ขณะที่เศรษฐกิจของจีน ไม่น่าจะได้รับผลรุนแรง อย่าลืมว่า10กว่าปีที่ผ่านมา จีนมีการสะสมทุน สะสมกำไร สะสมทรัพย์สิน"แหล่งข่าวกล่าว
นายสมบูรณ์ วศินชัชวาล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการฝ่ายบัญชีและการเงินบริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ PS กล่าวถึงความคืบหน้าในการออกหุ้นกู้ของบริษัทฯว่า ฝ่ายบริหารได้ตัดสินใจเมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ให้ชะลอการขายหุ้นกู้ออกไปก่อน ซึ่งคาดว่าในปีนี้คงจะระดมทุนไม่ทัน ทำให้ต้องเลื่อนไปเป็นปีหน้า ทั้งนี้ ตามแผนของบริษัท จะมีการขายหุ้นกู้วงเงินไม่เกิน 1,000 ล้านบาท และยังมีรองรับความต้องการส่วนเกิน(กรีนชู ออปชั่น)อีก 500 ล้านบาท โดยมีอายุหุ้นกู้อายุ 3 ปี ซึ่งทุนที่ระดมได้ จะนำไปคืนหนี้เงินกู้และใช้ขยายธุรกิจ
"สาเหตุที่เลื่อนขายหุ้นกู้ดังกล่าว เนื่องจากได้มีการสอบถามนักลงทุนสถาบันพบว่า ส่วนใหญ่ตัดสินใจที่จะหยุดการลงทุน ขณะที่ฝ่ายบริหารของบริษัทมีการทบทวนเรื่องดังกล่าว หลังจากเกิดปัญหาของเลห์แมน บราเธอร์ส รวมถึงกรณีที่สภาคองเกรส ไม่อนุมัติแผนช่วยเหลือสถาบันการเงิน วงเงิน 7 แสนล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งอาจทำให้นักลงทุน ไม่สนใจที่จะซื้อหุ้นกู้ของบริษัท " นายสมบูรณ์กล่าวและว่า
หากออกหุ้นกู้ในสถานการณ์เช่นนี้ อาจจะต้องให้อัตราดอกเบี้ยสูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ 5.2-5.3% รวมทั้งคาดว่า จะมีผลกระทบต่อภาพพจน์ของบริษัท หากมีการออกและเสนอขายหุ้นกู้ไม่หมด ตามเป้าหมายที่คาดไว้ ซึ่งขณะนี้ บริษัทได้ปรับแผน หันมาใช้กระแสเงินสดและการกู้ยืมเงิน จากวงเงินที่เหลืออยู่ของธนาคารพาณิชย์ เพื่อขยายธุรกิจแทนการออกหุ้นกู้ ซึ่งการเลื่อนการออกหุ้นกู้ดังกล่าว ไม่มีผลกระทบต่อแผนการดำเนินธุรกิจของบริษัทแต่อย่างใด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงที่ผ่านมา พฤกษา ได้มีการปรับแผนธุรกิจอย่างรวดเร็ว เพื่อรองรับกับสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้น ขณะที่ด้วยความได้เปรียบในเรื่องของการก่อสร้าง และความสามารถในการส่งมอบบ้านให้ลูกค้าได้เร็ว ได้ส่งผลต่อกระแสเงินสดที่สูงขึ้น มีผลต่อกำไร และตัวเลขหนี้สินต่อทุน(D/E)อยู่ในระดับต่ำที่สุดในระบบ โดยในช่วงไตรมาส 2 บริษัทรักษาอัตรากำไรขั้นต่ำไว้ที่ระดับ 25.3% ส่วนรายได้ในช่วง 2 เดือนของไตรมาส 3 บริษัทฯสามารถสร้างยอดขายได้กว่า 3,800 ล้านบาท ไม่ว่าสถานการณ์ทางการเมืองจะเป็นอย่างไร บริษัทยังคงแผนดำเนินงานคงเดิม โดยตั้งเป้าทั้งปีเปิด 46 โครงการ ปัจจุบันเปิดไปแล้ว 30 โครงการและจะทยอยเปิดอีก 16 โครงการที่เหลือมูลค่ารวม 9,000 ล้านบาท ให้ครบภายในสิ้นปีนี้
นายอิสระ บุญยัง เลขาธิการสมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร แสดงความเห็นว่า วิกฤตทางเศรษฐกิจในสหรัฐฯไม่น่าจะมีอะไรกระทบถึงภาคอสังหาในไทย แต่ทุกฝ่ายต้องเรียนรู้และเตรียมตัวไว้บ้าง ก็ดี อย่างไรก็ตามสถานการณ์ทางการเมืองในบ้านเราขณะนี้ได้เริ่มคลี่คลายไปในทิศทางที่ดีขึ้นแล้ว เมื่อเปรียบเทียบสถานการณ์ของธุรกิจภาคอสังหา ระหว่างปี 50 กับ ปี 51 ปรากฏว่าปี 51 ดีตลอดปี แม้ว่าบ้านเป็นสินค้าที่คนซื้อรอได้ก็ตาม แต่เมื่อเสถียรภาพทางการเมืองนิ่งก็จะส่งผลให้การประกอบการในภาคอสังหาและภาคธุรกิจอื่นๆขยับตัวสูงขึ้นแน่นอน
"จากสภาวะเศรษฐกิจของประเทศโดยรวมที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการเมือง ความผันผวนของราคาน้ำมัน ราคาวัสดุก่อสร้าง และปัจจัยแวดล้อมอื่นๆ ซึ่งกระทบต่อธุรกิอสังหาฯในบ้านเราระดับหนึ่ง มีผลทำให้เกิดการปรับตัวกันทั้งระบบไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการบริหารจัดการโครงการของผู้ประกอบการ มาตรฐานการปล่อยสินเชื่อด้านที่อยู่อาศัยของธนาคารพาณิชย์ และวินัยการใช้เงินของประชาชน ปัจจัยดังกล่าวมีผลทำให้เกิดการสร้างความสมดุลย์ระหว่างกันได้อย่างพอเหมาะพอสม แม้ว่าจะมีบางส่วนอาจเกินสัดส่วนไปบ้าง ”
นายอิสระ ในฐานะกรรมการผู้จัดการ บริษัท กานดาพร็อพเพอร์ตี้ จำกัด กล่าวถึงการบริหารโครงการที่อยู่ในสภาพน้ำมันแพง ว่า การนำระบบก่อสร้างสำเร็จรูป(พรีแฟบ)มารองรับการพัฒนาโครงการ จะช่วยลดระยะเวลาการก่อสร้างบ้านจากระบบเดิมได้ถึง 4 เดือน ผลดี คือทำให้การส่งมอบและการโอนบ้านให้ลูกค้าทำได้รวดเร็วขึ้น สามารถควบคุมและรักษาคุณภาพมาตรฐานการก่อสร้างให้ลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพและถูกใจผู้ซื้อบ้านในโครงการของกานดามาโดยตลอด
ในส่วนของกลยุทธ์ส่งเสริมการขายนั้น นายอิสระกล่าวว่า ทางบริษัทฯได้ขยายแคมเปญ " อยู่ฟรี 1 ปี กู้ 100 %” ที่ร่วมกับธนาคารนครหลวงไทย (SCIB) ไปสิ้นสุดเดือนธ.ค. ซึ่งผลของแคมเปญตั้งแต่เดือนมิ.ย.-ก.ย.ที่ผ่านมา สามารถสร้างยอดขายได้ 500 ล้านบาท
|
|
|
|
|