"ในอีก 2-3 ปีข้างหน้า รายได้หลัก 55 เปอร์เซ็นต์ของธนาคารสินเอเซียจะมาจากต่างจังหวัด เพราะตัวตนของธนาคารกลายเป็นธนาคารภูมิภาคครึ่งหนึ่งไปแล้ว"

คำพูดหนักแน่นของกรรมการผู้จัดการใหญ่ธนาคารสินเอเซียที่กล่าวถึงเป้าหมาย และให้ความสำคัญในการบริหารสาขาเป็นอย่างมาก

การขยายสาขาอย่างต่อเนื่องเป็นภาระหน้าที่หลักของ ไชยวัฒน์ ตันชีวะวงศ์ วัย 50 ปี ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายธุรกิจสาขาที่ได้ขยายสาขาไปแล้ว 11 แห่ง

ในช่วงระยะเกือบ 2 ปีที่ผ่านมา ไชยวัฒน์ใช้ชีวิตการทำงานอยู่ในต่างจังหวัดมากกว่าอยู่สำนักงานใหญ่ในกรุงเทพฯ

เขาเริ่มต้นเดินทางออกต่างจังหวัด และเลือกตั้งสาขาแห่งแรกที่จังหวัดขอนแก่น ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เพราะ

หลังจากลงพื้นที่และศึกษาตลาดอย่างจริงจัง เขาเห็นโอกาสยังมีอีกมากในภูมิภาคนี้ เพราะลูกค้าเริ่มบ่นเบื่อหน่ายกับธนาคารเดิมๆ โดยเฉพาะบริการที่มีขั้นตอนการปล่อยสินเชื่อยุ่งยากมากขึ้น และลูกค้าต้องการทางเลือกใหม่

หลังจากที่ไชยวัฒน์เลือกเปิดสาขาแห่งแรกที่จังหวัดขอนแก่น ในปี 2549 ธนาคารสามารถปล่อยสินเชื่อได้ 1 พันล้านบาท ภายในเวลา 2 เดือน

นอกเหนือจากการแสวงหาทำเลที่ตั้งสำหรับสาขาใหม่ ไชยวัฒน์ยังมีบทบาทในการสรรหาผู้จัดการสาขา ซึ่งเขาต้องเลือกด้วยตัวเอง

วิธีการเสาะหาผู้จัดการของไชยวัฒน์ เริ่มสอบถามคนที่รู้จัก หรือสมาคมการค้าระดับจังหวัด หลังจากนั้นเขาก็จะติดต่อ และพูดคุยกับคนที่เขาเลือก

โจทย์ที่เขากำหนดไว้ ผู้จัดการสาขาต้องเป็นคนท้องถิ่น รู้จักลูกค้าในจังหวัดที่อยู่และจังหวัดใกล้เคียง มีทัศนคติเป็นบวก ไม่จำเป็นต้องมีประสบการณ์ทางด้านการเงิน ไม่จำกัดอายุ

การเน้นคัดเลือกคนท้องถิ่นให้เป็นผู้จัดการสาขา เป็นหัวใจการให้บริการของธนาคารเป็นอย่างมาก เพราะผู้จัดการสาขาต้องมีทักษะในการบริหารความสัมพันธ์ และต้องรู้แม้กระทั่งเบื้องลึกเบื้องหลังธุรกิจไปจนถึงอุปนิสัยใจคอของลูกค้า

พองาม ปรีดาสันติ์ วัย 49 ปี ผู้อำนวยการสาขา สาขาอุบลราชธานี เป็นตัวอย่างหนึ่งที่ไชยวัฒน์คัดเลือกเข้ามาทำงานเมื่อปลายปี 2549

พองามเป็นคนอุบลราชธานี มีประสบการณ์ทำงานในธนาคารใหญ่แห่งหนึ่งกว่าสิบปีในจังหวัดเดียวกัน หน้าที่การงานของเธอในขณะนั้นเจริญเติบโตและไปได้ดี แต่เธอตัดสินใจที่จะมาทำงานในธนาคารสินเอเซีย เพราะธนาคารที่ทำอยู่ในตอนนั้นได้ปรับนโยบายการให้บริการไปเป็น Universal Banking ที่เธอจะต้องขายประกันชีวิต บัตรเครดิต กองทุนรวม นอกเหนือจากเงินฝากและสินเชื่อ เธอมองว่าบริการแบบใหม่ไม่เหมาะกับเธอ

จึงกลายเป็นจุดหักเหของชีวิตที่เธอไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นและได้ตั้งใจไว้ว่าจะทำงานที่ธนาคารเดิมจนเกษียณอายุ แต่หลังจากที่ไชยวัฒน์ได้เริ่มทาบทามให้เธอมาร่วมงานกับธนาคารสินเอเซีย จึงเป็นเรื่องเหลือเชื่อสำหรับเธอที่จะมีโอกาสเปลี่ยนงานในช่วงอายุ 49 ปีเพราะมองว่ามีโอกาสน้อยมากที่จะเปลี่ยนงานใหม่และเป็นงานที่พึงพอใจมากกว่าเดิม

ธนาคารสินเอเซียเปิดโอกาสที่ท้าทายให้กับเธอให้สามารถทำงานเป็นเหมือนกรรมการผู้จัดการ วางแผนธุรกิจการตลาดในพื้นที่ที่ดูแลและนำเสนอความคิดเห็นซึ่งเป็นเหตุผลหลัก นอกเหนือจากเงินเดือนที่ได้รับเทียบเท่ากับผู้บริหารที่ทำงานอยู่ในกรุงเทพฯ และเธอพึงพอใจที่จะทำงานในบ้านเกิดของเธอมากกว่า

ธนาคารสินเอเซียขยายสาขาไปยังภาคตะวันออกเฉียงเหนือจำนวน 4 แห่ง ขอนแก่น อุดรธานี อุบลราชธานี และนครราชสีมา ส่วนภาคใต้เปิดสาขา 3 แห่ง สงขลา ภูเก็ต สุราษฎร์ธานี ภาคเหนือ เชียงใหม่ ภาคกลาง ชลบุรี ระยอง สมุทรสาคร

สาขาในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ธนาคารสินเอเซียได้ยึดจังหวัดหลัก 4 แห่ง สามารถครอบคลุมพื้นที่ได้เกือบทั้งหมด และธนาคารเชื่อมั่นว่าแบรนด์ของธนาคารในภูมิภาคนี้มีความแข็งแกร่งเพียงพอ

การเปิดสาขาใหม่ๆ ไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะในต่างจังหวัดเท่านั้น แต่ในกรุงเทพฯ มีแผนที่จะเปิดเพิ่มเช่นเดียวกัน ในปีนี้มีแผนเปิดสาขาใหม่เพิ่มอีก 5 สาขาโดยเน้นพื้นที่ 4 มุมเมือง อาทิ เพชรเกษม ศรีนคร ปทุมวัน

พื้นที่สาขาในเขตกรุงเทพฯ ธนาคารสินเอเซียเปิดสาขารอบนอก เน้นกลุ่มเป้าหมายธุรกิจเอสเอ็มอีที่ต้องการบริการสินเชื่ออีกมากและกลุ่มนี้จะเป็นฐานระดมเงินฝากของธนาคารในอนาคตอันใกล้นี้ หลังจากที่มี พ.ร.บ.คุ้มครองเงินฝากเกิดขึ้นเมื่อต้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา

แต่พื้นที่ด้านในธนาคารสินเอเซียไม่ได้ปล่อยทิ้งไป เพราะมีแผนที่จะเปิดสาขาที่ประตูน้ำ และเยาวราช เป็นย่านธุรกิจค้าปลีกและค้าส่งจำนวนมาก

การขยายสาขาโดยเฉพาะในส่วนของต่างจังหวัดในปีนี้คาดหวังไว้ว่าจะต้องปล่อยสินเชื่อให้ได้ 18,000 ล้านบาท เป็นเรื่องที่ท้าทายฝีมืออย่างไชยวัฒน์และผู้บริหารสินเอเซีย

โดยเฉพาะการขยายสาขาที่ควบคู่ไปกับการสร้างแบรนด์ในฐานะธนาคารน้องใหม่และหน้าใหม่ ทั้งในต่างจังหวัดและกรุงเทพฯธนาคารสินเอเซียยังมีงานที่ต้องทำอีกมาก