|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ ฉบับ ตุลาคม 2551
|
|
ผลพวงของภาวะเศรษฐกิจซบเซาและสถานการณ์การเมืองที่ยังขาดความชัดเจน อาจส่งผลให้ภาคธุรกิจหลากหลายแขนงต้องตกอยู่ในภาวะชะงักงัน
แต่สำหรับตลาดรถยนต์ในประเทศไทย ดูเหมือนว่าผู้ประกอบการแต่ละรายไม่ประสงค์ที่จะดำเนินอยู่ภายใต้แรงกดดันที่ว่านี้นานนัก กิจกรรมทางการตลาดของบรรดาค่ายรถยนต์ในประเทศไทยถูกปลุกให้ตื่นขึ้นอีกครั้งหนึ่งสอดรับกับราคาน้ำมันที่ไต่ระดับลดลงอย่างช้าๆ ในช่วงเดือนเศษที่ผ่านมา
ภายใต้สถานการณ์ที่ค่ายรถยนต์พยายามช่วงชิงส่วนแบ่งการตลาดและยอดการจำหน่ายในช่วงปลายปี ดูเหมือนว่า Honda จะตั้งใจและเน้นกิจกรรมนี้มากเป็นพิเศษ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเปิดตัว Honda City โฉมใหม่ ที่มุ่งหมายจะให้เป็นจักรกลสำคัญในการดูดซับความต้องการรถยนต์ ในกลุ่ม sub-compact ที่มีอัตราการเติบโตต่อเนื่อง
ความผันผวนของราคาน้ำมัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการปรับตัว สูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ของน้ำมันดีเซลในช่วงก่อนหน้านี้ นอกจาก จะส่งผลลบต่อตลาดรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ หรือรถกระบะ
(pick-up truck) ซึ่งกลายเป็นรถยนต์อเนกประสงค์และยอดนิยมในตลาดประเทศไทยให้หดตัวลงแล้ว
อีกด้านหนึ่งกลับกลายเป็นกรณีที่ช่วยผลักดันให้รถยนต์นั่งขนาดเล็ก ทั้ง compact และ sub-compact ได้รับอานิสงส์ไปไม่น้อย
ยอดการจำหน่ายรถยนต์นั่งนับตั้งแต่มกราคม 2551 ถึง กรกฎาคม 2551 มีรวมกันมากถึง 129,699 คัน เพิ่มขึ้นกว่า 31.65% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปี 2550 ซึ่งมียอดจำหน่ายรวม 98,516 คัน
การเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญของยอดการจำหน่ายรถยนต์นั่งดังกล่าว มีข้อมูลที่น่าสนใจอยู่ที่ 44.4% เป็นยอดการจำหน่ายรถยนต์นั่งในกลุ่ม sub-compact และอีก 37.4% เป็นรถยนต์นั่งในกลุ่ม compact ซึ่งหมายความว่ารถยนต์นั่ง 2 กลุ่มมีส่วนแบ่ง การตลาดมากถึง 81.8% เลยทีเดียว
การแข่งขันที่หนักหน่วงในกลุ่ม sub-compact กลายเป็น เวทีประลองกำลังของค่ายรถยนต์จากญี่ปุ่นไปโดยปริยาย โดยมี โตโยต้าเป็นผู้นำตลาดและติดตามมาด้วยฮอนด้า ซึ่งช่วงที่ผ่านมา ดูเหมือน Honda City จะถูก Toyota Vios ทิ้งห่างไปพอสมควร
การเปิดตัว Honda City โฉมใหม่ ภายใต้ประเด็นว่าด้วย เปิดตัวในประเทศไทยเป็นแห่งแรกในโลก (world premier) อาจดึงดูดความสนใจจากผู้คนได้พอสมควร
แต่ประเด็นที่สนใจกว่านั้นอยู่ที่การประกาศให้โรงงานของฮอนด้าในประเทศไทยเป็นโรงงานแม่ หรือโรงงานหลัก ในการผลิตรถยนต์รุ่นนี้ออกสู่ตลาดทั่วโลก
เพราะนี่คือการยืนยันถึงความมั่นใจของผู้ประกอบการยานยนต์ที่จะปักหลักอยู่ในประเทศไทย ซึ่งนับเป็นข่าวดีจำนวนไม่กี่ข่าว ท่ามกลางข่าวร้ายที่ส่งผลลบต่อประเทศไทยอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา
|
|
|
|
|