อควาเรียสฯ ทุ่มงบ1,000 กว่าล้านบาท ผุด"เอควา"คอนโดฯกลางซอยสุขุมวิท49 มูลค่า1,300 ล้าน เจาะกลุ่มลูกค้าระดับAบวก ราคาขายเฉลี่ย 1.3 แสนบาทต่อตร.ม.ตุนยอดขายกว่า100ยูนิต มูลค่าขายกว่า 700ล้านบาท ย้ำชัด ทำโครงการไม่เน้นกำไร มุ่งคุณภาพของผลงานและชื่อเสียงสร้างความเชื่อมั่นลูกค้า ล่อใจ! ภายใน 3ปี ได้เห็นราคาเปลี่ยนมือต่อตร.มไต่ขึ้นมา 2 แสนบาท

นายยงยุทธ ชัยพรหมประสิทธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อควาเรียส เอสเตท จำกัด กล่าวว่าในภาวะตลาดอสังหาริมทรัพย์ชะลออย่างต่อเนื่อง การที่ผู้ประกอบการจะสามารถพัฒนา โครงการที่อยู่อาศัยออกมาแข่งขันในตลาดได้ ต้องพยายามตอบโจทย์ลูกค้ากลุ่มเป้าหมายได้ชัดเจน เลือกทำเลที่มีกำลังซื้อ(ดีมานด์)จำนวนมาก ออกสินค้า(โปรดักส์)ที่ตรงกับความต้องการลูกค้า และกำหนดกลุ่มเป้ามาที่มีกำลังซื้อที่เหมาะกับสินค้าที่พัฒนาออกสู่ตลาด

โดยในส่วนของบริษัทอควาเรียสฯ มองว่า ทำเลในกทม.ยังสามารถตอบโจทย์และมีกำลังซื้ออย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในทำเลถนนสุขุมวิทซอย 1 - 55 ซึ่งถือว่าเป็นพื้นที่ที่มีกำลังซื้อเติบโตอย่างต่อเนื่อง มีศักยภาพในการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัย และยังสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่โครงการของผู้ประกอบการ และเพิ่มมูลค่าสินทรัพย์แก่ลูกค้าที่ซื้อห้องชุดในแต่ละโครงการด้วย

ล่าสุด บริษัทฯได้ลงทุนซื้อที่ดิน1แปลง เนื้อที่ประมาณ 1 ไร่กว่า ในบริเวณเลียบถนนสุขุมวิทซอย 49 ห่างจากถนนสุขุมวิทเพียง100เมตร เพื่อพัฒนาโครงการอาคารชุด28ชั้น ภายใต้ชื่อโครงการเอควา คอนโดฯจำนวน 153 ยูนิต มูลค่ารวม 1,300 ล้านบาท ราคาขายเฉลี่ยต่อตารางเมตร(ตร.ม.) 1.3 แสนบาท ขนาดพื้นที่ห้องชุดเริ่มต้น 55-96 ตร.ม. คิดเป็นราคาเริ่มต้น 7-10ล้านบาทต่อยูนิต ปัจจุบันมียอดขายแล้ว 60% หรือประมาณกว่า 100 ยูนิต คิดเป็นมูลค่า700 ล้านบาท

“เป็นโครงการแรกที่บริษัทพัฒนาในกทม. เน้นเจาะกลุ่มลูกค้าตลาดAบวก ซึ่งเราเน้นการให้ที่คุ้มค่ากับมูลค่าที่ลูกค้าจ่าย แม้อาจจะทำให้บริษัทมีกำไรน้อย แต่ด้วยความตั้งใจทำ และเป็นงานแรกที่บริษัทอควาเรียสฯได้ทำ”นายยงยุทธกล่าว

สำหรับโครงการดังกล่าว ได้ใช้เงินลงทุนซื้อที่ดินและการก่อสร้างรวม1,000 กว่าล้านบาท มีธนาคารไทยพาณิชย์(SCB) สนับสนุนสินเชื่อวงเงิน 500 ล้านบาท ที่เหลือจะมาจากเงินดาวน์ของลูกค้า ซึ่งบริษัทกำหนดวงเงินดาวน์ไว้ 30% ระยะเวลา 33 เดือน ส่วนเงินลงทุนที่เหลืออีก 100 ล้านบาท เป็นเงินทุนหมุนเวียนของบริษัท

“เราบอกกับลูกค้าว่า โครงการนี้ เราจะเก็บห้องชุดไว้ 20 ห้อง เพื่อแสดงให้ลูกค้าเห็นว่า มูลค่าเพิ่มของโครงจะปรับตัวสูงขึ้นแน่นนอน โดยตั้งเป้าว่าจะขายห้องชุดนี้ออกเมื่อราคาปรับขึ้นไปที่ 2 แสนต่อตร.ม. ซึ่งผมมั่นใจว่าในระยะ3ปีราคาขายโครงการนี้จะขึ้นไปในระดับดังกล่าวแน่นนอน สำหรับโครงการนี้จะเริ่มก่อสร้างเดือนมี.ค.52 แล้วเสร็จเดือน ก.พ.2554”