Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน30 กันยายน 2551
“จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่” ทุ่ม 500 ล้าน ผุดทีวีดาวเทียม 5 ช่อง             
 


   
www resources

โฮมเพจ จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่

   
search resources

จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่, บมจ.
ไพบูลย์ ดำรงชัยธรรม
TV




“จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่” ทุ่มงบ 500 ล้านบาท ทำธุรกิจทีวีดาวเทียม 5 ช่อง “FAN TV- BANG Channel- Green Channel- Acts Channel- Bird Channel” ยิงสัญญาณไปยังดาวเทียมไทยคม 5 ออกอากาศให้ดูฟรีทั่วประเทศตลอด 24 ชั่วโมง ตอกย้ำแบรนด์และคอนเทนต์เอ็นเตอร์เทนเมนท์ที่แข็งแกร่ง ชิมลางออกอากาศ “แฟนทีวี” เป็นช่องแรก ดีเดย์วันที่ 1 ตุลาคมนี้

นายไพบูลย์ ดำรงชัยธรรม ประธานกรรมการ บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) เปิดเผย ว่า จากการประกาศใช้พระราชบัญญัติการประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ พ.ศ.2551 ตั้งแต่เมื่อวันที่ 5 มีนาคม เป็นต้นมา ส่งผลให้ปัจจุบันภาพรวมธุรกิจทีวีมีการตื่นตัวมากขึ้น เพราะกฎหมายดังกล่าวได้อนุญาตให้ธุรกิจเคเบิ้ลทีวีและแซดเทลไลต์ทีวี รวมถึงวิทยุชุมชนสามารถดำเนินการได้อย่างถูกต้องมีกฎหมายรองรับ และสามารถสร้างรายได้จากโฆษณาได้ไม่เกินชั่วโมงละ 6 นาที ด้วยเหตุนี้บริษัทฯ จึงมีนโยบายเข้าไปลงทุนดำเนินธุรกิจทีวีดาวเทียม เพื่อตอกย้ำแบรนด์และคอนเทนต์เอ็นเตอร์เทนเมนท์ที่แข็งแกร่ง

ทั้งนี้ บริษัทฯ ใช้งบประมาณ 500 ล้านบาท เพื่อดำเนินธุรกิจทีวีดาวเทียมจำนวน 5 ช่อง ในรูปแบบฟรี ทู แอร์ (Free To Air) คือ ยิงสัญญาณไปยังดาวเทียมไทยคม 5 เพื่อออกอากาศรายการต่างๆ ให้รับชมฟรีทั่วประเทศตลอด 24 ชั่วโมง ผ่าน 3 เครือข่ายหลัก ได้แก่ 1.เคเบิ้ลทีวีท้องถิ่นที่มีผู้รับชมประมาณ 2.5 ล้านครัวเรือน 2.จานดาวเทียมระบบซี-แบนด์ที่มีผู้รับชมประมาณ 3.5 ล้านครัวเรือน และ 3.จานดาวเทียมระบบเคยู-แบนด์ที่มีผู้รับชมประมาณ 1 ล้านครัวเรือน

การเริ่มต้นทำทีวีดาวเทียม 5 ช่อง เพราะบริษัทฯ มั่นใจว่าเป็น 5 กลุ่มคอนเทนต์ที่มีแบรนด์ โพซิชั่นนิ่งแข็งแกร่งที่สุด เนื่องจากเรามีประสบการณ์ผลิตคอนเทนต์เหล่านี้มายาวนาน ทำให้มีกลุ่มเป้าหมายที่ติดตามกันมายาวนานอย่างชัดเจน ดังนี้ 1.FAN TV หรือแฟนทีวี เริ่มออกอากาศวันที่ 1 ตุลาคมนี้ นำเสนอเพลงลูกทุ่ง ซึ่งแกรมมี่ โกลด์เป็นแบรนด์แข็งแกร่งเพราะครองส่วนแบ่งตลาดเพลงลูกทุ่งกว่า 70% 2.BANG Channel หรือแบง แชนแนล เริ่มออกอากาศเดือนมกราคม 2552 นำเสนอเพลงแนวป๊อป ทีน ร็อค ฯลฯ ซึ่งแบรนด์แกรมมี่แข็งแกร่งที่สุดอยู่แล้ว 3.Green Channel หรือกรีน แชนแนล เริ่มออกอากาศเดือนมกราคม 2552 นำเสนอเพลงเก่าพร้อมจัดกิจกรรมต่างๆ เกิดจากความแข็งแกร่งของแบรนด์กรีนเวฟ FM 106.5 ที่ชัดเจนในคอนเซ็ปต์ของการมีส่วนร่วมดูแลสิ่งแวดล้อมและมองโลกในแง่ดี

4.Acts Channel หรือแอ็คส์ แชนแนล เริ่มออกอากาศเดือนกุมภาพันธ์ 2552 นำเสนอละคร ละครเวที ภาพยนตร์ เกิดจากความแข็งแกร่งของแบรนด์เอ็กแซ็กท์ ซีเนริโอ และจีทีเอช เพื่อเอาใจคนชอบดราม่า และ 5.Bird Channel หรือเบิร์ด แชนแนล เริ่มออกอากาศเดือนกรกฎาคม 2552 นำเสนอวาไรตี้ ละคร ภาพยนตร์ในเชิงสร้างสรรค์ เกิดจากความแข็งแกร่งของแบรนด์กรีนเวฟ FM 106.5 ที่ชัดเจนในคอนเซ็ปต์ของการมีส่วนร่วมดูแลสิ่งแวดล้อมและมองโลกในแง่ดี

สาเหตุที่บริษัทฯ ให้ความสำคัญกับการทำทีวีดาวเทียม เนื่องจากมองเห็นโอกาสเติบโตทางธุรกิจสูง โดยเชื่อว่านับจากนี้ไม่ถึง 5 ปี เคเบิ้ลทีวีและแซตเทิลไลต์ทีวีจะเข้ามาแทนที่เสาอากาศก้างปลา เนื่องจากการติดจานดาวเทียมทำให้การรับสัญญาณชมฟรีทีวีชัดเจนมากกว่าการติดเสาอากาศก้างปลา อีกทั้งปัจจุบันราคาจำหน่ายจานดาวเทียมแต่ละระบบแพงกว่าราคาจำหน่ายเสาอากาศก้างปลาเพียงเล็กน้อย และคาดว่าในอนาคตราคาจะไม่แตกต่างกันเลย ทำให้ผู้บริโภคตัดสินใจซื้อจานดาวเทียมง่ายขึ้น

ขณะเดียวกันพฤติกรรมผู้บริโภคส่วนใหญ่ โดยเฉพาะคนทำงานที่มีอายุระหว่าง 20-49 ปี ใช้เวลาพักผ่อนกับการรับชมทีวี ไม่ว่าจะเป็นฟรีทีวี เคเบิ้ลทีวี ซีดี วีซีดี หรือดีวีดี โดยคอนเทนต์ที่ผู้บริโภคนิยมรับชมมากที่สุด คือ รายการบันเทิง เช่น รายการเพลง ภาพยนตร์ ละคร เกมโชว์ เป็นต้น โดยปัจจุบันสัดส่วนผู้รับชมฟรีทีวีอยู่ที่ 57% ขณะที่เคเบิ้ลทีวีและแซดเทิลไลต์ทีวีอยู่ที่ 43% สะท้อนว่าผู้บริโภคส่วนใหญ่เลือกรับชมรายการที่นำเสนอคอนเทนต์โดนใจมากกว่ายึดติดการรับชมเฉพาะฟรีทีวี

“ตอนนี้ทีวีดาวเทียมเป็นตัวเลือกใหญ่ของการทำธุรกิจทีวี เพราะดูได้มากกว่า 100 ช่อง แต่ปัญหาคือคนมีแค่สองตา คุณต้องแข่งกันเรื่องการนำเสนอคอนเทนต์ให้โดนใจผู้ชม เพื่อให้เขาเลือกดูเราเป็นลำดับแรก ซึ่งเรามั่นใจเรื่องนี้เพราะเราเป็นคลังคอนเทนต์และทาเลนต์ที่ใหญ่สุดในเมืองไทย มีหลากหลายแนวให้เลือกเสพ ไม่ว่าจะเป็นเพลง หนัง ละคร ฯลฯ เรามีทั้งนักร้องและดาราชั้นนำ นักแต่งเพลงมือหนึ่ง และทีมงานมืออาชีพอยู่กับเราทั้งนั้น ทำให้มีความได้เปรียบทางการทำตลาด” นายไพบูลย์ กล่าว   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us