- ยักษ์ "อินเทล" เดินเกมซีพียูมาร์เกตติ้ง ส่ง "อะตอม" สร้างกระแสตลาดเซกเมนต์ใหม่
- ผู้ผลิตคอมพ์โลกตอบรับเทรนด์คอมพ์แนวใหม่ สร้างเอกลักษณ์เฉพาะตัวบุกผู้บริโภค
- อัสซุส ขอเป็นพระเอก พร้อมส่ง เน็ตบุ๊ก เจนเนอเรชั่น 2 ป่วนตลาด ต่อยอดซับแบรนด์ "อีอีอี แฟมิลี่" ทิ้งคู่แข่ง 1 ช่วงตัว
ถึงแม้ว่าปัญหาทางการเมืองจะยังยากหาทางออกได้ในช่วงเวลานี้ แต่สำหรับตลาดไอทีในเมืองไทยกลับมี "โน้ตบุ๊กคอมพิวเตอร์ขนาดเล็ก" ที่ถูกปล่อยออกมาช่วงกลางปีที่ผ่านมา มาปลุกกำลังซื้อของผู้บริโภคที่ดู เหมือนจะซึมๆ ตามปัญหาที่เกิดขึ้น
คอมพิวเตอร์ขนาดเล็กที่มีรูปลักษณ์คล้ายโน้ตบุ๊กคอมพิวเตอร์แต่มีขนาดเล็กกว่านั้น ต่างมีชื่อเรียกแตกต่างกันไปตามแบรนด์ผู้ผลิต อย่างทาง อัสซุสเทค เรียกว่า "eee pc" ที่บุกเบิกตลาดนี้มาก่อนใคร
"อัสซุสเทคทำตลาด อีอีอี พีซีมาตั้งแต่ปลายปีที่แล้วก่อนใคร" พรเทพ วัชรอำนวย กรรมการผู้จัดการ บริษัท อัสซุสเทค คอมพิวเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด เล่าให้ฟังถึงการเป็นผู้นำทางด้านนวัตกรรมของอัสซุส
อีอีอี พีซีของอัสซุสที่เปิดตัวในเวลานั้น ถือได้ว่าเป็นการบุกเบิกเซกเมนต์ใหม่ของตลาดโน้ตบุ๊กคอมพิวเตอร์ที่เจาะตลาดกลุ่มนักเรียนนักศึกษาโดยเฉพาะ โดยอาศัย "ขนาด" ที่เล็กครึ่งหนึ่งของโน้ตบุ๊กคอมพิวเตอร์ขนาดปรกติ แถมมีน้ำหนักที่เบาไม่ถึง 1 กิโลกรัม เปลี่ยนจากฮาร์ดดิสก์มาเป็นสื่อบรรจุข้อมูลแบบใหม่ "เอสเอสดี" ที่มีความจุ 5 กิกะไบต์กับ 8 กิกะไบต์ ที่มาพร้อมกับความสามารถในการเชื่อมต่อสื่อสารข้อมูลแบบไร้สาย ทำให้ผู้ใช้สามารถใช้ อีอีอี พีซีทำการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านเครือข่ายไว-ไฟ ได้ทุกที่ที่ต้องการ ที่สำคัญ ระดับราคาอยู่ในระดับหมื่นต้นๆ
ด้วยการตอบรับเกินคาดจากตลาด ทำให้โรงงานของอัสซุสผลิตสินค้าออกมาไม่พอกับความต้องการตลาด ทำให้ผู้ซื้อในเวลานั้นต้องจองสินค้าล่วงหน้าเป็นเดือน
แต่ภายหลังจากที่อินเทลประกาศซีพียูรุ่นใหม่ "อะตอม" ที่พัฒนาขึ้นมาเพื่อเจาะตลาดเซกเมนต์ใหม่โดยเฉพาะ กลุ่มที่ต้องการคอมพิวเตอร์ราคาย่อมเยาและใช้งานพื้นฐาน รับส่งอีเมล เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้ โดยทางอินเทลได้นิยามศัพท์คอมพิวเตอร์ดังกล่าวสำหรับคอมพิวเตอร์แบบพกพาว่าเป็น "เน็ตบุ๊ก" ถ้าเป็นคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ อินเทลเรียกว่า "เน็ตท็อป"
"เชื่อว่าอะตอมจะทำให้ตลาดคอมพิวเตอร์เกิดการเปลี่ยนแปลง เพราะผู้คนกว่า 1 พันล้านคนทั่วโลก สามารถหาซื้อพีซีโน้ตบุ๊กตัวแรกใช้ได้ในราคาถูก" เอกรัศมิ์ อวยสินประเสริฐ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินเทล ไมโครอิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย) จำกัด เคยเล่าให้ฟังถึงบทบาทของซีพียู "อะตอม" เอาไว้ช่วงต้นปีที่ผ่านมา
อินเทล อะตอม โปรเซสเซอร์ ทางอินเทลสร้างขึ้นโดยใช้สถาปัตยกรรมรุ่นใหม่ที่ใช้เทคโนโลยีการผลิต 45 นาโนเมตร และเทคโนโลยี hi-k metal gate เมื่อเทียบกับโปรเซสเซอร์ อินเทล คอร์ 2 ดูโอ ที่มี thermal design power หรือทีดีพี อยู่ในช่วง 35 วัตต์ ชิปรุ่นใหม่นี้จะมีทีดีพีอยู่ระหว่าง 0.6-2.5 วัตต์เท่านั้น มีความเร็วให้เลือกสูงสุด 1.8 กิกะเฮิรตซ์ ที่ได้รับการออกแบบมาเป็นพิเศษเพื่อเป็นอุปกรณ์พกพาที่สามารถใช้เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้ หรือ mobile Internet devices (MID) รวมถึงคอมพิวเตอร์กลุ่มใหม่ที่ใช้งานได้ง่าย ราคาประหยัด และมุ่งใช้งานอินเทอร์เน็ตเป็นหลัก
จุดประสงค์หลักของการเปิดตัวซีพียู "อะตอม" ของอินเทล ก็คือ การเสริมช่องว่างทางการตลาดในระดับราคา 10,000-20,000 บาทเข้าสู่ตลาด ซึ่งถือเป็นตลาดใหม่ที่ยังไม่มีใครทำตลาดอย่างจริงจัง
บริษัทที่เปิดตัวผลิตภัณฑ์ "เน็ตบุ๊ก" ที่ใช้พีซียู "อะตอม" เป็นหลักรายแรกๆ ในตลาด มีอยู่ 2 รายก็คือ "อัสซุส" กับ "เอเซอร์" โดยทางอัสซุสยังใช้ชื่อ "อีอีอี พีซี" เป็นซับแบรนด์ในการตลาดต่อ ส่วนทางเอเซอร์ใช้ "แอสไปร์ วัน" เป็นซับแบรนด์ในการบุกตลาดเน็ตบุ๊ก
ด้วยสเปกของเครื่องที่ใช้ซีพียู "อะตอม" เป็นขุมพลังหลักแล้ว สเปกส่วนอื่นๆ ก็จะมีเรื่องของขนาดหน้าจอภาพให้เลือก ประกอบด้วยขนาด 8.9 นิ้ว กับ 10 นิ้วให้เลือก ส่วนหน่วยบันทึกข้อมูลมีให้เลือกทั้งแบบที่เป็นสื่อบันทึกข้อมูลเอสเอสดีกับฮาร์ดดิสก์ ส่วนฟีเจอร์สื่อสารไร้สาย พอร์ตยูเอสบี ช่องเสริมจอมอนิเตอร์เสริม ต่างมีมาให้ครบ จะขาดก็แต่ช่องเสริมอีเธอร์เน็ตที่ไม่ได้ติดตั้งมาให้เนื่องจากออกแบบมาเพื่อใช้งานในตลาดคอนซูเมอร์เป็นสำคัญ
"ตลาดเมืองไทยยังเลือกสเปกที่ใช้ฮาร์ดดิสก์เป็นส่วนใหญ่ เนื่องจากได้พื้นที่เก็บข้อมูลที่มากกว่า อย่างในรุ่น 20 กิกะไบต์ นิยมมากกว่ารุ่น 8 กิกะไบต์ที่เป็นแบบเอสเอสดี เพราะเห็นว่า ราคาต่างกันพันกว่าบาท" พรเทพ กล่าวถึงพฤติกรรมการตัดสินใจเลือกสเปกเครื่องของคนไทยให้ฟัง
ปัจจุบัน จากการรวบรวมข้อมูลแบรนด์สินค้าที่ตัวเน็ตบุ๊กเข้าสู่ตลาดเมืองไทยนั้น เท่าที่เห็นมีแบรนด์สินค้าวางขายตามชอปขายสินค้าไอทีทั่วไป ประกอบไปด้วย อัสซุสกับเอเซอร์ โดยอัสซุสมีสเปกให้เลือกมากที่สุดในตลาดเวลานี้ มีจำนวนทั้งสิ้น 6 โมเดล มีซีพียูทั้งที่เป็นอะตอมและเซลลูลอน หน่วยบันทึกข้อมูลมีให้เลือกทั้งแบบเอสเอสดีกับฮาร์ดดิสก์ หน้าจอก็มีให้เลือกทั้งแบบ 8.9 นิ้ว กับ 10 นิ้ว ระดับราคามีตั้งแต่ 9,000-19,000 บาท
ในขณะที่ "เอเซอร์" มีสเปกให้เลือกในเรื่องของหน่วยบันทึกข้อมูลที่เป็นแบบเอสเอสดีกับฮาร์ดดิสก์ ส่วนซีพียูมีเฉพาะอะตอมเท่านั้น แต่มีสีให้เลือกหลายสีด้วยกัน แต่จุดที่ทำให้เอเซอร์เป็นที่รู้จักกันมากก็คือ การมีสื่อโฆษณาตามทีวีออกมาเป็นจำนวนมาก โดยใช้ดาราดังอย่าง วุ้นเส้น-วิริฒิพา ภักดีประสงค์ มาเป็นพรีเซนเตอร์ ซึ่งช่วยปลุกกระแสให้คนสนใจเน็ตบุ๊กมากขึ้น และทางเอเซอร์ยังได้จัดกิจกรรมการตลาดไม่ว่าจะเป็นโปรแกรมส่งเสริมการขาย ตลอดจนสื่อโฆษณา ณ จุดขาย ทำให้เน็ตบุ๊กกลายเป็นผลิตภัณฑ์หนึ่งที่กลายเป็นตัวเลือกในการซื้อหาคอมพิวเตอร์มาใช้งานของผู้ใช้ทั่วไปที่มักต้องสอดส่ายมองหา
จากกระแสความสนใจในตัวเน็ตบุ๊กของผู้บริโภคกันมากขึ้น ส่งผลให้เกิดคำถามว่า เน็ตบุ๊กจะมีผลกระทบต่อยอดขายโน้ตบุ๊กคอมพิวเตอร์ที่มีระดับราคา 17,000-20,000 มากน้อยแค่ไหน
พรเทพ กล่าวว่า ไม่มีผลกระทบต่อยอดโน้ตบุ๊กคอมพิวเตอร์แต่ประการใด เนื่องจากเป็นคนละตลาดกัน ในช่วงแรกที่ทางอัสซุสแนะนำอีอีอี พีซีเข้าสู่ตลาดก็มีความสับสนและมีผลกระทบต่อยอดขายโน้ตบุ๊กคอมพิวเตอร์อยู่บ้างในช่วง 1-2 เดือนแรก แต่หลังจากที่เราให้ความรู้ความแตกต่างของความสามารถในการใช้งานแล้ว ก็กลับคืนสู่สภาพเดิม โดยที่ผู้ซื้อเน็ตบุ๊กส่วนใหญ่เป็นกลุ่มคนที่มีโน้ตบุ๊กคอมพิวเตอร์อยู่แล้ว
ปัจจุบัน เน็ตบุ๊กมียอดขายตกอยู่ประมาณ 20,000-25,000 เครื่อง ซึ่งถือว่ายังเป็นสัดส่วนที่ไม่มากนัก แต่ก็ถือเป็นเซกเมนต์ที่ยังมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก ซึ่งสามารถดูได้จากจำนวนผู้เล่นในตลาดที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง มีทั้งผู้ผลิตที่เป็นเฮาส์แบรนด์อย่าง "KLASS BOOK" ของบริษัท สุพรีมดิสตริบิวชั่น (ไทยแลนด์) จำกัด ที่เปิดตัวในตลาด 2 รุ่น ราคาเริ่มต้น 10,000 บาทขึ้นไป
บริษัท ซินเน็ค (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) อาจจะมาแปลกว่าบริษัทอื่นที่ได้นำผลิตภัณฑ์คอมพิวเตอร์ยี่ห้อ "โคจินชะ อัลตร้าโมบาย พีซี" ที่มียอดจำหน่ายมากที่สุดในญี่ปุ่นเข้ามาทำตลาดเมืองไทยในเบื้องต้นด้วย ยูเอ็มพีซีที่มาพร้อมจอทัชสกรีนและปากกาสไตลัสที่ช่วยให้เขียนด้วยลายมือได้สามารถหมุนจอได้ 360 องศา ใช้ตัวประมวลผลอินเทล "Stealey" Processor A110 ความเร็ว 800 เมกะเฮิรตซ์ หน่วยความจำ 1 กิกะไบต์ ติดตั้งกล้องขนาด 1.3 เมกะพิกเซล รองรับคุณสมบัติการทำงาน และความบันเทิงครบครัน จำนวน 2 รุ่น ราคาอยู่ที่ 29,900 บาทกับ 37,900 บาท
ส่วนบริษัท เอสวีโอเอ จำกัด (มหาชน) ก็มีเน็ตบุ๊กของตัวเองภายใต้ซับแบรนด์ "อีโค พีซี" ที่มีหน้าจอขนาดเล็ก 8.9 นิ้วทำตลาดอยู่ โดยกลุ่มเป้าหมายอยู่ที่กลุ่มผู้เริ่มใช้คอมพิวเตอร์เครื่องแรกและกลุ่มนักเรียน ซึ่งอาจจะเรียกว่า เป็นผู้เล่นรายที่ 2 ที่มีผลิตภัณฑ์เน็ตบุ๊กเข้าสู่ตลาดไล่เลี่ยอัสซุส ล่าสุดได้ร่วมมือกับทางบริษัท ทีทีแอนด์ที จำกัด (มหาชน) กับบริษัท อินเทล ไมโครอิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย) จำกัด จัดกิจกรรมการตลาดร่วมกันภายใต้โครงการ แม็กซ์เน็ต เอ็ดดูเทนเมนต์ ทัวร์ ในการให้ความรู้เน็ตบุ๊กกับเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงกับตลาดนักศึกษาทั่วประเทศ ซึ่งถือเป็นอีกรูปแบบกิจกรรมการตลาดหนึ่งที่ทางเอสวีโอเอจับมือกับพันธมิตรสร้างโอกาสทางการขายในตลาดต่างจังหวัด ซึ่งเป็นตลาดที่ผู้เล่นอินเตอร์แบรนด์ยังไม่ได้รุกเข้าสู่ตลาดในส่วนนี้มากนัก
สำหรับผู้ผลิตคอมพิวเตอร์ที่เป็นอินเตอร์แบรนด์ อย่าง "เลอโนโว" ก็ไม่ยอมสูญเสียโอกาสทางการตลาดในเน็ตบุ๊กนี้ไป จึงได้ทำสงครามแย่งชิงพื้นที่ข่าวที่พร้อมนำเน็ตบุ๊กเข้ามาทำตลาดด้วยเช่นกัน โดยจะมีโมเดลทำตลาดอยู่ 2 รุ่น เจาะตลาดกลุ่มผู้ที่เพิ่งเริ่มต้นใช้งานหรือมองหาโน้ตบุ๊กเครื่องแรก แต่จะมีสินค้าวางขายในท้องตลาดต้นเดือนตุลาคมที่จะถึงนี้ โดยมีระดับราคาอยู่ที่ 17,000-18,000 บาท ทางด้าน "เดลล์" เองก็ได้เปิดตัวเน็ตบุ๊กในตลาดเมืองไทยด้วยเช่นกัน โดยจะมีรายละเอียดเกี่ยวกับโมเดลและราคาขายออกมาช่วงปลายเดือนนี้
ส่วนแบรนด์ยักษ์ใหญ่อย่าง "โตชิบา" ก็มีแผนที่จะนำเน็ตบุ๊กเข้ามาทำตลาดเหมือนกัน แต่คงจะเป็นช่วงปลายปี จำนวน 2 รุ่น ในระดับราคาไม่เกิน 20,000 บาท ซึ่ง ถกล นิยมไทย ผู้จัดการประจำประเทศไทย ฝ่ายธุรกิจเทคโนโลยี บริษัท โตชิบา ไทยแลนด์ จำกัด ยอมรับว่าถึงแม้จะเข้ามาทำตลาดหลังคู่แข่งแต่เชื่อว่า ด้วยโปรโมชั่นที่มีความแตกต่างจาเจ้าอื่น น่าจะดึงดูดกลุ่มผู้บริโภคให้ตัดสินใจซื้อสินค้าของโตชิบาได้
ซับโน้ตบุ๊ก ตลาดไร้คู่แข่ง
ขณะที่บริษัท ฮิวเลตต์-แพคการ์ด (ประเทศไทย) จำกัด หรือเอชพี ถึงแม้จะไม่ได้มีผลิตภัณฑ์ที่เป็น "เน็ตบุ๊ก" ทำตลาดอยู่เหมือนคู่แข่งตลอดกาลอย่าง "เอเซอร์" ก็ตาม แต่เพื่อเป็นการเติมเต็มกลยุทธ์ความหลากหลายในผลิตภัณฑ์ของเอชพีที่ถือเป็นแต้มต่อที่เหนือคู่แข่งในตลาด ทางเอชพีจึงได้เปิดตัวโน้ตบุ๊กคอมพิวเตอร์เซกเมนต์ใหม่ "ซับโน้ตบุ๊ก" โดยใช้ชื่อว่า "มินิ-โน้ต" จำนวน 1 รุ่นเข้าสู่ตลาด ซีพียูที่ใช้เป็นชิป "เวีย" ที่กินไฟน้อย หน้าจอขนาด 8.9 นิ้ว แต่มี 3 โมเดลใน 3 ระดับราคาให้เลือกซื้อหาเป็นเจ้าของ โดยมีราคาเริ่มต้นที่ 17,000 บาทขึ้นไป ซึ่งถือว่าแตกต่างจากคู่แข่งในตลาดปัจจุบัน
"มินิ-โน้ตของเอชพีถือว่าเป็นความแตกต่างจากตลาดในปัจจุบัน โดยเรายังคงฟีเจอร์บนโน้ตบุ๊กคอมพิวเตอร์ทุกประการลงมา ที่เห็นชัดเจนก็คือ ตรงที่เรามีพอร์ตอีเธอร์เน็ตซึ่งแตกต่างจากคู่แข่งอย่างชัดเจน ซึ่งถือเป็นการเพิ่มทางเลือกให้กับผู้บริโภคมากขึ้น" ปวิณ วรพฤกษ์ ผู้จัดการกลุ่มผลิตภัณฑ์และการตลาด กลุ่มธุรกิจเพอร์ซันแนล ซิสเต็มส์ กรุ๊ป บริษัท ฮิวเลตต์-แพคการ์ด (ประเทศไทย) จำกัด กล่าว
"ตลาดมินิ-โน้ต ดึงดูดความสนใจและตรงกับไลฟ์สไตล์คนไทย โดยเฉพาะกลุ่มที่ใช้โน้ตบุ๊คเป็นเครื่องที่ 2 ช่วยกระตุ้นยอดขายของเอชพีให้สูงกว่าการเติบโตของโน้ตบุ๊กที่โตเฉลี่ย 30-40% ถึง 2-3 เท่า ซึ่งเอชพีมองว่ามินิ-โน้ต จะมาเติมช่องว่างของตลาดที่เครื่องมีหน้าจอใหญ่กว่าการใช้พ็อกเกตพีซีโฟน แต่จะมีขนาดเล็กกว่าโน้ตบุ๊กทั่วไป ขณะที่อัลตร้าโมบาย พีซี ที่หลายแบรนด์กำลังจะวางตลาดนั้น คล้ายแกดเจ็ดจะอยู่ตลาดบนและมีรูปทรงหลากหลาย การใช้งานอาจไม่มีแป้นพิมพ์ หน้าจองอพับได้" ปวิณ กล่าว
เน็ตบุ๊ก 2.0 กำลังจะมา
เพื่อรักษาความเป็นผู้นำทางด้านนวัตกรรมของ "อัสซุส" ที่ถือว่าเป็นแบรนด์แรกที่บุกเบิกคอมพิวเตอร์ขนาดเล็ก "เน็ตบุ๊ก" ก่อนใครในตลาด ทางอัสซุสจึงเตรียมที่จะเปิดตัว "เน็ตบุ๊ก เจนเนอเรชั่นที่ 2" พร้อมกันทั่วโลกในต้นเดือนตุลาคมที่จะถึงนี้
พรเทพ ได้แย้มข้อมูลเล็กๆ ถึงเทรนด์เน็ตบุ๊ก เจนเนอเรชั่นที่ 2 ให้ฟังว่า จะมีหน้าจอใหญ่ขึ้น จาก 8.9 นิ้ว มาเป็น 10 นิ้ว จุข้อมูลได้มากขึ้นเพราะใช้หน่วยความจำทั้งฮาร์ดไดรฟ์และเอสเอสดี โดยเฉพาะเอสเอสดีจะมีขนาดที่ใหญ่จุใจกว่าเดิม ในส่วนของแบตเตอรี่ได้มีการพัฒนาให้มีอายุการใช้งานที่นานขึ้นกว่าเดิม มีการเพิ่มฟังก์ชั่นสื่อสารโทรศัพท์เคลื่อนที่เข้ามา โดยจะมีช่องให้ใส่ซิมการ์ดเพื่อให้ผู้ใช้เชื่อมต่อจีพีอาร์เอส รวมถึงระบบสื่อสาร 3.5 จี
"ราคาของเน็ตบุ๊กที่มีฟังก์ชั่น 3.5 จีจะมีราคาสูงกว่าปรกติประมาณ 1,000-2,000 บาทเท่านั้น"
นอกจากนั้นจะเห็นการแตกไลน์ผลิตภัณฑ์ "อีอีอี พีซี" โดยอิงแพลตฟอร์ม "อะตอม" เป็นหลัก เข้าสู่ตลาดมากขึ้น โดยจะนำมาประยุกต์เป็นผลิตภัณฑ์ความบันเทิงในบ้านที่หลากหลายขึ้น ซึ่งอาจจะมีผลิตภัณฑ์อื่นๆ เปิดตามมาในนามตระกูล "อีอีอี แฟมิลี่" อาทิ อีอีอี มอนิเตอร์ ที่นำซีพียูใส่ไว้บนมอนิเตอร์ตัวเดียวกัน มีความสามารถในการสั่งงานด้วยการสัมผัส หรือ อีอีอี บ็อกซ์ ที่เป็นเน็ตพีซีที่บางมากขนาดประมาณ 1 แอล หรือมีขนาดความจุ 1 ลิตร ไม่มีหน้าจอ ที่สามารถบูตเครื่องภายใน 5 วินาทีเพื่อเล่นแอปพลิเคชั่นออนไลน์เบาๆ อย่างสไกป์ได้
|