|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
เอสแอนด์พี ยันยังไม่มีแผนเพิ่มแบรนด์ร้านอาหาร แต่มุ่งเน้นขยายสาขาของเดิมและต่อยอดธุรกิจจากแบรนด์เดิม ล่าสุดดัน “พาทิโอและวะนิลา” รุกตลาดแคเธอริ่ง ส่วนตลาดอาหารแช่แข็งผนึกพันธมิตรใหม่ เทสโก้โลตัสเอ็กซ์เพรส ขยายจุดจำนหน่ายเพิ่มขึ้น
นายวิฑูรย์ ศิลาอ่อน ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาธุรกิจ บริษัท เอส แอนด์พี ซินดิเคต จำกัด (มหาชน) ผู้ดำเนินธุรกิจร้านอาหาร เบเกอรี่ แบรนด์ เอสแอนด์พี เปิดเผยว่า บริษัทฯยังไม่มีแผนที่จะเปิดร้านอาหารแบรนด์ใหม่ในขณะนี้ เนื่องจากปัจจุบันมีหลายแบรนด์แล้วและสามารถตอบสนองกลุ่มเป้าหมายได้อย่างดี แต่มีแผนที่จะขยายสาขาเพิ่มขึ้นรวมทั้งการต่อยอดและขยายธุรกิจให้กับแบรนด์เดิมที่มีอยู่เป็นหลักมากกว่า ซึ่งถือเป็นการขยายธุรกิจและสร้างแบรนด์ไปในตัวด้วย
ปัจจุบันบริษัทฯมีร้านอาหารแบรนด์ เอสแอนด์พี ประมาณ 280 สาขารวมเบเกอรี่และบลูคัพด้วย ร้านอาหารวะนิลา 4 สาขา ร้านอาหารภัทรา 1 สาขา ร้านอาหารพาทิโอ 1 สาขา และร้านแกรนด์ซีไซด์ศรีราชา 1 สาขา ในไทย ส่วนในต่างประเทศมีร้านภัทราหลายประเทศเช่นที่ ลอนดอน สิงคโปร์ สวิส เป็นต้น
สำหรับแผนต่อยอดธุรกิจของแบรนด์คือ การทำธุรกิจรับจัดเลี้ยงหรือแคเธอริ่ง ซึ่งนำ 2 แบรนด์ใหม่คือ พาทิโอกับวะนิลา จากเดิมที่ใช้เอสแอนด์พีแต่ไม่ได้เน้นมากนัก ซึ่งสองแบรดน์นี้จะเน้นหนักมากขึ้น โดยเจาะกลุ่มบริษัท องค์กรต่างๆ รวมทั้งการทำแบบนิชมาร์เก็ตด้วย โดยเฉพาะกลุ่มไฮโซ ซึ่งการทดลองที่ผ่านมาได้ผลตอบรับค่อนข้างดี
ส่วนการขยายสาขานั้น ปีนี้และปีหน้าก็มีต่อเนื่อง ซึ่งผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ก่อนหน้านี้ผู้บริหารของเอสแอนด์พีเคยกล่าวว่า จะเปิดสาขาใหม่รวมเฉลี่ย 30 สาขาต่อปี ใช้งบ 150 ล้านบาท มุ่งเน้นตลาดต่างจังหวัด ล่าสุดจะเปิดร้านวะนิลาที่เซ็นทรัลเวิลด์ จากเดิมมี 4 สาขา ส่วนต่างประเทศทุ่มงบ 70 ล้านบาท ร่วมมือกับพันธมิตรท้องถิ่นจีน 20 ล้านบาท และที่ญี่ปุ่น 50 ล้านบาท ปัจจุบันมีสาขารวมกว่า 20 สาขาในต่างประเทศ ที่ อังกฤษ สวิสเซอร์แลนด์ สิงคโปร์ ไต้หวัน
นายวิทูรย์กล่าวต่อในส่วนของอาหารแช่แข็งว่า ตลาดรวมเติบโตอย่างมากกว่า 10% จากตลาดรวมกว่า 10,000 ล้านบาท เพราะไลฟ์สไตล์ของคนไทยเปลี่ยนไป ต้องการความสะดวกมากขึ้น บริษัทฯจึงมีแผนรุกตลาดมากขึ้นโดยเฉพาะการหาช่องทางใหม่ๆและการสร้างแบรนด์อย่างเต็มที่มากกว่าอดีต ล่าสุดได้ใช้งบเพื่อโฆษณาในรถไฟฟ้าบีทีเอสและรถไฟฟ้าใต้ดิน
ขณะเดียวกันล่าสุดได้ขยายช่องทางจำหน่ายใหม่เข้าสู่ร้านเทสโก้โลตัสเอ็กซ์เพรสไม่นานนี้ทำให้ขยายฐานตลาดได้กว้างขึ้น จากเดิมที่มีในโมเดิร์นเทรดหลายแห่งแล้วยกเว้นในเซเว่นอีเลฟเว่น ส่วนการออกเมนูใหม่นั้นจะมีต่อเนื่องเช่นกันเฉลี่ยปีละ 10 เมนู (คาว 8 และ หวาน 2 ) ซึ่งปัจจุบันมีรวมกว่า 50 เมนู ทั้งคาวและหวาน และได้ปรับราคาขึ้นมาเล็กน้อย 4-5 บาทาต่อกล่องเพราะต้นทุนสูงขึ้น โดยมีราคาที่ 59 บาท 65 บาท และ 69 บาท
ล่าสุดเทศกาลกินเจได้ออกเมนูมา 4 เมนู เป็นเก่า 2 เมนูยืนพื้นทุกปีคือ บะหมี่ผัดเจ และ ข้าวกะเพราเจ ส่วนเมนูใหม่คือ ข้าวผัดสี่สหายเจและข้าวแกงเขียวหวานเจ มั่นใจว่าในช่วงเทศกาลกินเจนี้จะมียอดขายที่สูงขึ้นกว่าเดิม
สำหรับบัตรจอยการ์ด ซึ่งออกเมื่อปลายปีที่แล้ว ปัจจุบันมีผู้ถือบัตรมากกว่า 158,000 รายแล้ว เป็นบัตรที่ให้ส่วนลดและสะสมแต้มสำหรับสมาชิก เพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่ดีต่อผู้ริโภคและเป็นการสร้างแบรนด์ด้วย
นายวิทูรย์กล่าวว่า แม้สภาพเศรษฐกิจตั้งแต่ต้นปีไม่ค่อยดี แต่บริษัทฯก็ยังไม่ได้ปรับลดเป้าการเติบโตลงแต่อย่างใด จากเดิมที่วางไว้ 14%
|
|
|
|
|