ดีแทคตอกย้ำมายแพกเกจ จุดพลุสงครามโทรศัพท์มือถืออีกรอบ เกทับจีเอสเอ็ม แอดวานซ์
เป็นธรรมกับลูกค้ามากกว่าระบบเหมาจ่ายที่อาศัยการตลาดสร้างภาพให้ดูค่าโทร.ถูก แต่เสียเงินกินเปล่าหากโทร.ไม่ถึงจำนวนเหมาจ่าย
ชี้ลูกค้าเสียเปรียบปีละกว่าพันล้านบาท ยันหากมายแพกเกจไม่เป็นธรรม เอาเปรียบลูกค้า
วันนี้ยอดระบบโพสต์เพดดีแทค ไม่ติดบวกเป็นครั้งแรกในรอบ 18 เดือน
นายสันติ เมธาวิกุล ผู้อำนวยการกลุ่มธุรกิจโพสต์เพด บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส
คอมมูนิเคชั่น (ดีแทค) กล่าวว่าตั้งแต่ช่วง พ.ค. และมิ.ย. ตัวเลขผู้ใช้บริการระบบจดทะเบียนปกติ
(โพสต์เพด) ยอดบวกครั้งแรกในรอบ 18 เดือน โดย พ.ค.ยอดผู้ใช้บริการเพิ่มขึ้นสุทธิประมาณ
4,800 ราย มิ.ย.ยอดบวก 5,800 ราย
"ดีแทคเดินมาถูกทาง รายได้เพิ่มขึ้น ลูกค้าเพิ่มขึ้น เราสามารถกอบกู้สถานการณ์ระบบโพสต์เพด
กลับมาได้ จากที่เคยมียอดติดลบสูงสุดถึง 70,000 ราย มิ.ย.45"
มายแพกเกจต่ออายุโพสต์เพด
ดีแทคกำลังตอกย้ำกลยุทธ์ที่ใช้ในการแข่งขันตลาดโทรศัพท์มือถือ ด้วยการเป็นผู้นำวัตกรรมใหม่ๆ
โดยเฉพาะระบบโพสต์เพด ดีแทคเชื่อว่า มายแพกเกจเป็นกลยุทธ์ช่วยต่อลมหายใจลูกค้าระบบโพสต์เพดดีแทค
ไม่ให้ย้ายค่ายหนีไประบบอื่น รวมทั้งยังเป็นเครื่องมือช่วยดูดลูกค้าเก่าระบบคู่แข่ง
ใช้บริการดีแทค เนื่องจากปีที่ผ่านมา ลูกค้าระบบโพสต์เพดดีแทคไหลออกจากระบบมากกว่า
3 แสนราย
มายแพกเกจเปิดตัว 28 เม.ย. ดีแทคถือโอกาสครบรอบ 3 เดือนจันทร์ที่ 28 ก.ค.นี้
ยิงหนังโฆษณาชื่อ "DTAC-my ปลดแอกระบบเหมาจ่าย" หัวใจของเรื่อง จะตอกย้ำการที่ผู้ใช้บริการโทรศัพท์มือถือ
ต้องพบกับความไม่ยุติธรรมคิดค่าบริการระบบเหมาจ่ายและต้องทนรับสภาพ
เพราะไม่มีทางเลือกอย่างอื่นหลายๆ ครั้งที่ใช้โปรโมชันแต่ละเดือนไม่หมด แต่ต้องจ่ายเต็ม
หรือบางคนแค่แต่ละเดือนใช้โทรศัพท์มากน้อยไม่เท่ากัน แต่ก็ไม่สามารถปรับเปลี่ยนโปรโมชันตามการใช้งานจริงๆ
ได้
ดีแทคศึกษาความต้องการผู้ใช้โทรศัพท์มือถือจนเข้าใจพฤติกรรม และความต้องการดังกล่าว
อย่างดี จึงคิดค้นแพกเกจมาย เพื่อปลดแอกระบบเหมาจ่ายเดิมๆ เพราะจ่ายเฉพาะส่วนที่โทร
ไม่ต้องจ่ายส่วนที่ไม่ได้โทรแต่ละเดือน จึงไม่ต้องกังวลกับโปรโมชันเหลือ สบายใจได้กับการใช้โทรศัพท์มากน้อยตามที่ต้องการ
ดึงลูกค้าเพิ่มแสนราย 3 เดือน
3 เดือนหลังให้บริการมายแพกเกจ ลูกค้าทั้งหมดประมาณ 1 แสนราย แบ่งเป็น ลูกค้าเก่า
40% และลูกค้าใหม่ 60% โดยลูกค้าเป้าหมายระบบโพสต์เพดของดีแทค มองคนที่ใช้โทรศัพท์มือถือทุกวัน
วันละมากกว่า 3 นาทีต่อเนื่อง และไม่ใช่คนที่เพิ่งใช้โทรศัพท์มือถือครั้งแรก ซึ่งหมายความว่า
มายแพกเกจ นอกจากเป็นเครื่องมือรักษาฐานลูกค้าเก่าระบบโพสต์เพด ยังช่วยดูดลูกค้าระบบอื่นให้ไหลเข้าดีแทค
ฐานะดีแทควันนี้ คือยืนในจุดที่คู่แข่งที่เป็นเบอร์ 1 ในตลาด คือจีเอสเอ็ม แอดวานซ์
ไม่เลือกที่จะทำ ไม่ว่าจะเป็น คิดค่าใช้จ่ายเป็นวินาที ชดเชย กรณีสายหลุด ดีแทคเป็นรายแรกที่คิดค่าโทรอัตราเดียวทั่วไทย
ปลดล็อกอีมี่ ทำให้ซิมการ์ดสามารถใช้ได้กับเครื่องโทรศัพท์มือถืออย่างอิสระ
จุดยืนระบบโพสต์เพด คือใช้มายแพกเกจให้ลูกค้าจ่ายเท่าที่ใช้จริง แข่งกับคู่แข่งที่เลือกใช้วิธีเหมาจ่าย
เช่น จ่าย 500 บาทโทรได้ 100 นาที หรือจ่าย 1,300 บาท โทรได้ 1,300 บาท
เขากล่าวว่า การที่ผู้นำตลาดอย่างเอไอเอส เล่นสงครามราคาระบบจีเอสเอ็มแอดวานซ์
กลุ่มลูกค้าที่ใช้งานมาก เป็นรายได้หลัก จะทำให้ได้ลูกค้า ไม่มีคุณภาพ แต่อาจจำเป็นต้องทำ
เพื่อรักษาฐานลูกค้าโพสต์เพด
"มายแพกเกจของดีแทค ทำให้ลูกค้าระบบโพสต์เพดของเราคงที่ ซึ่งโพสต์เพดกำลังอยู่ในช่วงขาลง
แต่เป็นรายได้หลักของบริษัท"
เขาย้ำว่ามายแพกเกจไม่ได้ทำให้รายได้รวมบริษัทลดลง แนวโน้มรายได้แต่ละเดือนกลับสูงขึ้น
เพราะเมื่อลูกค้ารู้ว่าจะจ่ายเงินเท่าที่ใช้งานจริง ก็กระตุ้นให้เกิดการใช้งานมากขึ้น
ซึ่งลูกค้าทั้งแสนราย แบ่งเป็น 15% รายได้ต่อเลขหมายเฉลี่ย 350-500 บาทต่อเดือน
25% รายได้ 500-800 บาท 30% รายได้ 800-1,200 บาท ที่เหลือรายได้มากกว่า 1,200
บาท
"ลองคิดดูง่ายๆ หากลูกค้าระบบโพสต์เพด 1 ล้านคน จ่ายเงินระบบเหมาจ่าย ที่ไม่จำเป็นต้องจ่ายสักเดือนละ
100 บาท 1 ล้านคนก็ 100 ล้านบาท หรือปีละกว่า 1 พันล้านบาท นี่เป็นแค่ตัวเลขสมมติที่ต่ำกว่าความเป็นจริงมาก
แต่สำหรับมายแพกเกจ เราช่วยให้ลูกค้าประหยัดกว่าระบบเหมาจ่ายมาก กว่า 30% ด้วยซ้ำ"
จุดเด่นแพกเกจ My
แพกเกจ My ดีแทคพัฒนาเพื่อตอบสนองความต้องการกลุ่มลูกค้าอย่างแท้จริง ลูกค้าสามารถ
เลือกำหนดค่าใช้จ่ายที่เหมาะสมกับตนเองได้อิสระ เลือกกำหนดวันชำระเงินได้ และเลือกกำหนดวงเงินค่าใช้จ่ายใช้โทรศัพท์
ซึ่งจะถูกลงเรื่อยๆ เมื่อจำนวนนาทีที่ใช้เพิ่มขึ้น เป็นมิติใหม่ลูกค้าจดทะเบียน
ซึ่งสะดวก คุ้มค่า ยุติธรรม และจริงใจต่อลูกค้ามากที่สุด สำหรับผู้ใช้โทรศัพท์มือถือขณะนี้
ความแตกต่างแพกเกจ My ยังมีอีกหลายประการ ไม่ว่าจะเป็นเมื่อครบวงเงินที่กำหนดแล้ว
ดีแทคจะส่งข้อความเตือนว่า กำลังจะครบตามแพกเกจที่เลือกแล้ว เพื่อให้ลูกค้าสามารถควบคุมและกำหนดค่าใช้จ่ายได้
ลักษณะบริการเช่นนี้จึงเหมือนใช้บริการแบบเติมเงิน
นอกจากนี้ การใช้งานลูกค้าใช้แค่ไหนจ่ายจริงตามนั้น เช่นลูกค้าเลือก 1,200 บาทต่อเดือน
แต่ใช้จริงเพียง 1,000 บาท ก็จ่ายเพียง 1,000 บาท ไม่ต้องเสียเปรียบด้วยการจ่ายเกินอีกต่อไป
และเนื่องจากคิดค่าโทรเป็นวินาที ดีแทคช่วยผู้ใช้บริการประหยัดเบื้องต้นถึง 30%
เมื่อเทียบระบบที่คิดค่าโทรเป็นนาที
รวมทั้งหากลูกค้าเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมใช้ ก็กำหนดวงเงินเดือนถัดไปใหม่ได้ ไม่ต้องรอให้หมด
โปรโมชั่นอย่างที่ผ่านมา แพกเกจนี้ ลูกค้าที่โทร.มาก จะยิ่งได้รับประโยชน์ โดยเริ่มต้นขั้นต่ำ
350 บาทต่อเดือน โทรได้ 75 นาที หลังจากนั้น ราคาต่อนาทีจะถูกลงตามลำดับ
อาทิ หากลูกค้าโทร 150 นาที จ่ายเงินเพียง 594 บาท นาทีถัดไปจ่ายนาทีละ 2.60
บาท หรือ หากลูกค้าใช้ 400 นาที จะจ่ายเงินเพียง 1,099 บาท ใช้เกินจ่ายนาทีละ 1.80
บาท