Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน24 กรกฎาคม 2546
ให้6 สถาบันลงทุนตปท. แก้ปัญหาเงินล้น8แสนล.             
 


   
www resources

โฮมเพจ ธนาคารแห่งประเทศไทย

   
search resources

ธนาคารแห่งประเทศไทย
ธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล
Banking




ธปท.คลายเกณฑ์คุมแลกเปลี่ยนเงิน หวังแก้ปัญหาสภาพคล่องล้นระบบตลาดเงินไทยกว่า 8 แสนล้านบาทขณะนี้ และเพิ่มทางเลือกใหม่การลงทุนหาผลตอบแทนช่องทางต่างประเทศ เปิดทางสถาบัน 6 ประเภทลงทุนหลักทรัพย์ต่างประเทศได้เพิ่มขึ้น รวมทั้งเปิดช่องนักธุรกิจถือเงินดอลลาร์สหรัฐได้ 6 เดือน ก่อนแลกคืนเป็นเงินบาท จากเดิมให้ถือเพียง 3 เดือน พร้อมหนุนตั้งกองทุนรวมลงทุนเอเชียบอนด์ ขายหน่วยรายย่อย

นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล รองผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) สายเสถียรภาพการเงิน เปิดเผยวานนี้ (23 ก.ค.) ว่า ธปท. ผ่อนคลายระเบียบควบคุมการแลกเปลี่ยนเงิน เพื่อสนับสนุนการลงทุนออกต่างประเทศ และเพิ่มทางเลือกใหม่ๆ การลงทุน

สภาพคล่องส่วนเกิน8แสนล้านบาท

เนื่องจากขณะนี้ การออมในประเทศมีเกินกว่าความต้องการ สภาพคล่องระบบตลาดเงินไทย สูงมาก โดยสภาพคล่องส่วนเกินขณะนี้กว่า 8 แสนล้านบาท ซึ่งการเปิดโอกาสให้ลงทุนในต่างประเทศ จะพิจารณาตามความเหมาะสม

ธปท.ผ่อนผันผู้ลงทุนสถาบัน 6 ประเภทลงทุนในต่างประเทศ แบ่งเป็นตราสารหนี้ของคนไทย ที่จำหน่ายในต่างประเทศก่อนวันที่ วันที่ 1 มกราคมปีนี้ ทั้งภาครัฐและเอกชน โดย ให้ซื้อคืนได้ไม่จำกัดจำนวน

สำหรับตราสารหนี้ของคนไทยที่จำหน่ายต่างประเทศ ยอดทั้งสิ้น 11,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดย 7,200 ล้านดอลลาร์ เป็นตราสารออกโดยภาคเอกชน อีก 3,800 ล้านดอลลาร์ เป็นตราสารออกโดยรัฐบาล

ส่วนตราสารหนี้ต่างประเทศ อนุญาตเฉพาะตราสารหนี้รัฐบาลและรัฐวิสาหกิจ ที่ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ ระดับที่ลงทุนได้ (อินเวสเมนต์ เกรด) โดยกำหนดวงเงินรวมไม่เกิน 500 ล้านดอลลาร์

"สำหรับผู้ลงทุนสถาบัน 6 ประเภท ได้แก่ บริษัทประกันชีวิต กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ กองทุนประกันสังคม กองทุนรวมไม่รวมกองทุนส่วนบุคคล กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ สถาบันการเงินที่มีกฎหมายเฉพาะ จัดตั้ง" นายธีระชัย กล่าว

หนุนเอกชนตั้งกองทุนเน้นลงทุนเอเชียบอนด์

ธปท.ยังสนับสนุนให้ภาคเอกชนตั้งกองทุนรวม เพื่อลงทุนในพันธบัตรเอเชีย (เอเชียบอนด์) ที่ออกโดยรัฐบาลเอเชีย หรือรัฐวิสาหกิจที่รัฐบาลค้ำประกัน เพื่อเสนอขาย ผู้ลงทุนรายย่อย โดยจะประสานงานกับคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อประเมินความสนใจของผู้ลงทุนและกำหนดวงเงิน

นายธีระชัยกล่าวด้วยว่า ธปท.เปิดโอกาสให้นิติบุคคลที่ทำธุรกิจ สามารถฝากเงินดอลลาร์ เข้าบัญชีสกุลต่างประเทศได้สะดวกขึ้น โดยขยายเวลาถือครองเงินดอลลาร์จาก 3 เดือน เป็น 6 เดือน ก่อนแลกคืนเป็นเงินบาท เพื่อเพิ่มความ สะดวกให้ผู้ส่งออกและนำเข้า

ขณะเดียวกัน เปิดให้รัฐวิสาหกิจป้องกันความเสี่ยงหนี้เงินตราต่างประเทศได้เองโดยอิสระตามภาระที่มีอยู่ จากเดิมที่จำกัดเฉพาะหนี้ไม่เกิน 1 ปี และอนุญาตให้บริษัทไทยออกตราสารอนุพันธ์ ที่ผลตอบแทนอ้างอิงตัวแปรต่างประเทศ เช่น อัตราแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ต่างประเทศ แต่ต้องขายให้ผู้ลงทุนสถาบันเท่านั้น

"ผลจากการผ่อนคลายระเบียบควบคุมการแลกเปลี่ยนเงินของ ธปท.ครั้งนี้ อาจทำให้สภาพคล่องในระบบลดลงได้บ้าง แต่ก็ขึ้นอยู่กับความสนใจของผู้ลงทุน ว่าจะย้ายเงินไปลงทุนในต่างประเทศมากน้อยแค่ไหน โดยนักลงทุนต้องบริหารความเสี่ยงอย่างรัดกุม เนื่องจากนักลงทุนจะต้องมีความเสี่ยงเรื่องของอัตราแลก เปลี่ยน" นายธีระชัยกล่าว

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us