Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน24 กันยายน 2551
เอสเอ็มอีขาดสภาพคล่องหนัก             
 


   
search resources

SMEs




ส.อ.ท.เผยเอสเอ็มอีกำลังเผชิญมรสุมหนักทั้งจากปัจจัยภายในและภายนอก ส่งผลให้สภาพคล่องตึงตัวหนักขึ้นกว่าเดิม จี้รัฐบาลใหม่ดูแลเร่งด่วนหลัง 7-8 เดือนที่ผ่านมา เหมือนถูกลอยแพ ไร้เงินงบประมาณสนับสนุน เอสเอ็มอีแบงก์ตื่นเล็งออกแคมเปญพิเศษ 3 เดือนสุดท้ายก่อนสิ้นปี อัดเงินกู้เพิ่ม พร้อมผ่อนปรนเงื่อนไขเดิมที่กำหนดต้องมีผลประกอบการเป็นบวกหลัง NPL พุ่งแตะ 50%

นายสันติ วิลาสศักดานนท์ ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ขณะนี้มีความเป็นห่วงผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและย่อมหรือเอสเอ็มอี เนื่องจากวิกฤติการเงินสหรัฐฯ จะมีผลให้การปล่อยสินเชื่อสู่เอสเอ็มอียิ่งเข้มงวดมากขึ้น จากปัจจุบันสินเชื่อที่สนับสนุนเอสเอ็มอีก็ค่อนข้างน้อยอยู่แล้ว จึงต้องการให้รัฐบาลใหม่เข้ามาดูแลจุดนี้อย่างเร่งด่วน

นายสมมาต ขุนเศรษฐ รองประธานสายงานสภาอุตสาหกรรมจังหวัด ส.อ.ท. กล่าวว่า เอสเอ็มอีกำลังเผชิญวิกฤติหลายด้านทั้งจากภาวะเศรษฐกิจในประเทศที่แนวโน้มแรงซื้อจะลดต่ำลง ประกอบกับภาวะน้ำท่วมหลายจังหวัดที่จะมีผลกระทบต่อรายได้ของเกษตรกรที่จะลดลงอีกในอนาคต รวมไปถึงวิกฤติการเงินสหรัฐฯ มีผลให้การปล่อยสินเชื่อสนับสนุนจากธนาคารพาณิชย์แทบจะไม่มี แม้แต่แบงก์รัฐเองยังมีวงเงินช่วยเหลือจำกัด ดังนั้น รัฐบาลใหม่มาจะต้องเร่งแก้ไขปัญหาสภาพคล่องเร่งด่วนก่อนที่ผู้ประกอบการเหล่านี้จะทยอยปิดกิจการลง

“เอสเอ็มอีมีทั้งหมดนับ 2 ล้านกว่ารายทั่วประเทศ ถือมีความสำคัญต่อเศรษฐกิจไทย แต่ที่ผ่านมารัฐบาลผ่านไป 7-8 เดือนแทบจะไม่มีงบประมาณที่จะมาดูแลสภาพคล่องหรือสนับสนุนเอสเอ็มอีอย่างจริงจัง ซึ่งเห็นว่ากระทรวงการคลังสามารถที่จะจัดงบประมาณส่วนกลางในการอัดฉีดสภาพคล่องผ่านแบงก์รัฐให้มากขึ้นเพื่อเร่งฟื้นฟูกิจการเอสเอ็มอีที่กำลังเข้าสู่วิกฤติสภาพคล่องในปัจจุบันโดยเร็ว”นายสมมาตกล่าว

แหล่งข่าวจากธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทยหรือเอสเอ็มอีแบงก์ กล่าวว่า เร็วๆ นี้เอสเอ็มอีแบงก์จะออกมาตรการเสริมสภาพคล่องเป็นพิเศษในช่วง 3 เดือนสุดท้ายของปีนี้เพื่อดูแลผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่เผชิญวิกฤติหลายด้านให้สามารถอยู่รอดได้ เนื่องจากขณะนี้ประสบปัญหาต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น การตลาดที่ลดลงจากปัญหาเศรษฐกิจในประเทศและต่างประเทศที่ชะลอตัว โดยจะมีการลดเงื่อนไขการปล่อยกู้จากโครงการเดิมที่ออกไปก่อนหน้านี้ซึ่งกำหนดให้ผู้ประกอบการต้องมีผลประกอบการเป็นบวกเท่านั้นจึงจะเข้าร่วมโครงการได้

“เร็วๆ นี้คงจะหารือในบอร์ดวงเงินกำลังดูว่าจะเป็นรายละไม่เกิน 5 แสนบาทหรือ 1 ล้านบาทคงจะเน้นลูกค้าเก่าเป็นหลักก่อน ส่วนกรณีที่ระบุว่าแบงก์ปล่อยกู้น้อยลงนั้นไม่จริงเพราะเฉลี่ยก็ยังปล่อยเดือนละ 1,000 ล้านบาทแต่การเข้มงวดก็ยอมรับว่าจริงเพราะลูกค้าเริ่มไม่แข็งแรงทั้งต้นทุนและตลาดซึ่งทำให้เวลานี้หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้หรือ NPL ของเอสเอ็มอีแบงก์สูงเกือบ 50% แล้ว”แหล่งข่าวกล่าว

รายงานข่าวจากกรมโรงงานอุตสาหกรรมแจ้งว่า ในเดือนส.ค.2551 มีโรงงานที่ได้รับอนุญาตประกอบกิจการจำนวน 349 โรงงาน เงินลงทุนทั้งสิ้น 11,800.32 ล้านบาท จ้างงานรวม 12,477 คน โดยมีโรงงานที่ขอขยายกิจการ 43 โรงงาน เงินลงทุน 7,622 คนงานรวม 4,112 คน และเลิกกิจการจำนวน 184 โรงงาน เงินลงทุน 1,837 โรงงาน คนงาน 4,508 คน ซึ่งการแจ้งเลิกกิจการเพิ่มขึ้นจากเดือนก.ค.เล็กน้อยโดยเดือนก.ค.แจ้งเลิกกิจการ 177 แห่งเงินลงทุน 2,137 ล้านบาทคนงาน 4,229 คน   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us