Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน24 กันยายน 2551
พิซซ่าฮัทปักหลักดันดีลิเวอรี่เรือธง             
 


   
www resources

โฮมเพจ Pizza Hut

   
search resources

พิซซ่าฮัท
ยัม เรสเทอรองต์ส อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย), บจก.
Fastfood




พิซซ่าฮัท ผลักดันดีลิเวอรี่เป็นเรือธงรายได้หลัก หวังสัดส่วนรายได้สิ้นปีนี้ 65% พร้อมเปิดสาขาเพิ่มอีก 4 จุดดีลิเวอรี่สิ้นปีนี้ เผยอนาคตอาจจะแยกงบตลาด โปรโมชั่นตลาดเฉพาะ

นางนงนุช บูรณะเศรษฐกุล ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด พิซซ่าฮัท บริษัท ยัม เรสเทอรองตส์ อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า ช่วงไตรมาสที่สามปีนี้พิซซ่าฮัทมีการเติบโตเฉลี่ย 15% ทั้งประเภทนั่งทานในร้านหรือไดน์อิน และดีลิเวอรี่หรือจัดส่ง ด้วยเหตุผลหลักคือ มีการพัฒนาเมนูใหม่ และการเน้นหนักการทำตลาดดีลิเวอรี่มากขึ้น โดยทั้งปีตั้งเป้าจะเติบโต 15% เช่นกัน ซึ่งมูลค่าตลาดรวมพิซซ่าอยู่ที่ประมาณ 3,000 ล้านบาท

ทั้งนี้สัดส่วนรายได้ของพิซซ่าฮัทปัจจุบันอยู่ที่ นั่งทานในร้านและดีลิเวอรี่อย่างละ 45% และ 55% ตามลำดับ จากต้นปีที่สัดส่วนจะเท่ากันอย่างละ 50% และคาดว่าภายในสิ้นปีสัดส่วนรายได้จะมาจากดีลิเวอรี่มากถึง 60% ส่วนนั่งทานในร้านจะอยู่ที่ 40%

สำหรับแนวโน้มการเติบโตนั้น ในส่วนของดีลิเวอรี่จะมีการเติบโตมากขึ้นจากนี้ เนื่องจากพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนไป ต้องการความสะดวกสบายมากขึ้น และค่าน้ำมันที่สูงทำให้คนชะลอการใช้จ่ายและออกจากบ้านน้อยลง โดยยอดการใช้จ่ายต่อบิลไม่แตกต่างกันมากนักคือ ไดน์อินมีประมาณ 450 บาทต่อครั้ง ส่วนดีลิเวอรี่อยู่ที่ 420 บาทต่อครั้ง ขณะที่ความถี่ในการเข้าร้านนั้นประมาณ 3 เดือนต่อ 2 ครั้ง ส่วนดีลิเวอรี่ใช้บริการอยู่ที่เดือนละครั้ง

แผนธุรกิจมีความเป็นไปได้จะแยกการทำตลาด แยกงบ แยกการทำโปรโมชันเฉพาะดีลิเวอรี่ออกมา แต่ก็ขึ้นอยู่กับความเหมาะสม ขณะที่การลงทุนสาขานั้นจะเน้นสาขาแบดีลิเวอรี่ โดยต้นปีนี้เปิดแล้ว 6 จุด กระจายในต่างจังหวัดมากเช่น ชลบุรี นครศรีธรรมราช ภูเก็ต อยุธยา เป็นต้น และภายในสิ้นปีนี้จะเปิดอีก 4 จุด ส่วนร้านไดน์อินนั้นจะเปิดอีก 2 สาขา จากปัจจุบันมีสาขารวม 82 สาขา มีร้านดีลิเวอรี่ประมาณ 70 สาขา

การขยายจุดดีลิเวอรี่จากนี้จะเพิ่มที่ต่างจังหวัดมากขึ้น เพื่อเป็นการขยายตลาด ปัจจุบันสัดส่วนร้านดีลิเวอรี่จะอยู่ที่กรุงเทพฯ 70% และต่างจังหวัด ตามหัวเมืองใหญ่ 30% ซึ่งไตรมาสสุดท้ายจะเน้นการสร้างยอดขายของดีลิเวอรี่ทั้งการขยายสาขาครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศ ขยายบริการจนถึงเที่ยงคืน ทำโปรโมชันกระตุ้นการสั่ง

"นโยบายของเราคือ จะเน้นความเป็นผู้เชี่ยวชาญและชำนาญในเรื่องเมนูอาหาร และการทำดีลิเวอรี่เป็นหลัก เราไม่เน้น สปอร์ตมาร์เกตติ้งหรือมิวสิกมาร์เกตติ้งแต่อย่างใด ซึ่งในอนาตมีความเป็นไปได้ที่จะมีเมนูหลักอื่นๆเพิ่มขึ้นมานอกเหนือจากพิซซ่า ซึ่งต้องขึ้นอยู่กับความเหมาะสมและโอกาสตลอดจนความต้องการของผู้บริโภคด้วย เพราะเราทำการวิจัยตลอดเวลาเพื่อให้ได้ข้อมูลที่ถูกต้อง ล่าสุดเปิดตัวมนูใหม่ดับเบิ้ลพิซซ่า เป็นพิซซ่า 2 ชั้น ราคา 379 บาท โดยทุ่มงบตลาด 20 ล้านบาท เพื่อกระตุ้นการใช้จ่าย" นางนงนุชกล่าว   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us