Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน23 กันยายน 2551
หุ้นไทยสวนตลาดภูมิภาคแรงขายทำกำไรกดดัชนีรูด             
 


   
search resources

Stock Exchange




ตลาดหุ้นไทยสวนทางตลาดหุ้นภูมิภาค เจอแรงเทขายทำกำไรกดดัชนีติดลบกว่า 10 จุด โดยหุ้นกลุ่มแบงก์ปรับตัวลดลงถ้วนหน้า ด้านนักวิเคราะห์ประเมินแนวโน้มยังผันผวนในกรอบแคบทั้งแดนบวก-ลบ เหตุนักลงทุนเฝ้ารอความชัดเจนมาตรการแก้วิกฤตสถาบันการเงินสหรัฐฯ พร้อมจับตาคดียุบพรรคการเมือง

การประกาศล้มละลายของเลห์แมน บราเธอร์ส วาณิชธนกิจยักษ์ใหญ่อันดับ 4 ในสหรัฐอเมริกา ได้ส่งผลต่อภาวะการลงทุนในตลาดหุ้นทั่วโลก เนื่องจากนักลงทุนต่างกังวลว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจะทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น และส่งผลกระทบต่อเนื่องต่อสถาบันการเงินอื่นๆ ทั่วโลก รวมทั้งได้ตั้งข้อสังเกตว่า อาจจะมีสถาบันการเงินต่างๆ ที่จะประสบชะตากรรมเดียวกับเลห์แมนฯ

อย่างไรก็ตาม สถานการณ์เริ่มมีทิศทางที่ดีขึ้น หลังจากทางการสหรัฐฯ และธนาคารกลางประเทศต่างๆ ทั่วโลก ออกมาประกาศมาตรการที่ชัดเจนจะเข้ามาช่วยเหลือเพื่อบรรเทาปัญหาที่เกิดขึ้น ส่งผลให้ตลาดหุ้นเริ่มมีทิศทางที่ดีขึ้น

บรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นไทย วานนี้ (22 ก.ย.) ได้เคลื่อนไหวสวนทางกับตลาดหุ้นเอเชียที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นกันถ้วนหน้า ขณะที่ตลาดหุ้นไทย กลับปรับตัวลดลง แม้จะปรับตัวเพิ่มขึ้นได้เล็กน้อยในช่วงเช้า โดยมีราคาสูงสุดที่ 629.07 จุด หลังจากนั้นราคาหุ้นได้ลดลงอย่างต่อเนื่อง และลงแรงในช่วงบ่ายที่ลดต่ำสุดที่ 614.25 จุด ก่อนจะปิดการซื้อขายที่ 614.49 จุด ลดลงจากวันก่อน 10.34 จุด คิดเป็น 1.65% มูลค่าการซื้อขายรวม 13,257.59 ล้านบาท

ขณะที่ตลาดหุ้นหลักๆ ในแอเชียปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยดัชนีฮั่งเส็ง ตลาดหุ้นฮ่องกง ปิดที่ 19,632.20 จุด ปรับตัวเพิ่มขึ้น 304.47 จุด หรือ 1.58% หลังแตะระดับต่ำสุดที่ 19,137.67 จุด และระดับสูงสุดที่ 19,869.02 จุด ขณะที่ดัชนีนิกเกอิ ตลาดหุ้นโตเกียว ปิดที่ระดับ 12,090.59 จุด ปรับเพิ่มขึ้น 169.73 จุด เปลี่ยนแปลง

สำหรับดัชนีตลาดหุ้นไทยที่ปรับตัวลดลงนั้น ได้รับผลกระทบจากหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ที่ปรับตัวลดลงค่อนข้างมาก ประกอบด้วย ธนาคารกรุงเทพ (BBL) ราคาปิดที่ 103.00 บาท ลดลงจากวันก่อน 3.00 บาท หรือคิดเป็น 2.83% ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) ปิดที่ 68.50 บาท ลดลง 3.00 บาท หรือ 4.20% ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) ปิดที่ 63.50 บาท ลดลง 2.50 บาท หรือ 3.79% และธนาคารกรุงศรีอยุธยา (BAY) ปิดที่ 17.00 บาท ลดลง 0.80 บาท หรือ 4.49%

นางสาวจิตรา อมรธรรม ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ไซรัส จำกัด (มหาชน) หรือ SYRUS กล่าวว่า วานนี้ดัชนีตลาดหุ้นไทยเคลื่อนไหวค่อนข้างผันผวน ขณะที่นักลงทุนยังชะลอการลงทุนเพื่อดูมาตรการแก้ปัญหาวิกฤตการณ์ทางการเงินในสหรัฐฯ ซึ่งสวนทางกับดัชนีตลาดหุ้นในต่างประเทศที่ต่างปรับตัวเพิ่มขึ้นถ้วนหน้า

สำหรับปัจจัยที่ส่งผลให้ตลาดหุ้นไทยปิดในแดนลบ เกิดจากวิกฤตเศรษฐกิจของสหรัฐที่ยังไม่คลี่คลาย และราคาบ้านที่ปรับตัวลดลง 15 % และมีแนวโน้มจะลดลงอย่างต่อเนื่อง อาจก่อให้เกิดหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ขณะที่ตลาดหุ้นในต่างประเทศปรับตัวดีขึ้น เพราะมีมุมมองที่ดีต่อมาตรการแก้ปัญหาสถาบันการเงินของสหรัฐฯ รวมทั้งตลาดหุ้นบางประเทศมีการประกาศใช้ห้ามใช้การซื้อขายแบบซ็อตเซล จึงส่งผลให้ตลาดหุ้นมีเสถียรภาพดีขึ้น

ส่วนแนวโน้มตลาดหุ้นไทยวันนี้ (23 ก.ย.) คาดดัชนีตลาดหุ้นยังผันผวนในกรอบแคบๆ ให้แนวรับที่ 610 จุด และแนวต้านที่ 625-630 จุด โดยให้จับตาโผคณะรัฐมนตรีว่าใครจะได้ดำรงตำแหน่งใด รวมถึงภาพรวมของเศรษฐกิจในต่างประเทศ ส่วนหุ้นที่น่าลงทุนจะเป็นหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานที่ดีอย่างกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์และกลุ่มอสังหาริมทรัพย์

นายรณกฤต สารินวงศ์ ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล. แอ๊ดคินซัน จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า นักลงทุนต่างประเทศยังคงเทขายหุ้นไทยออกมาอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ดัชนีตลาดหุ้นไทยยังคงผันผวน สวนทางกับทิศทางทางตลาดทั่วโลกที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยตลาดหุ้นไทยได้รับผลกระทบจากปัญหาภาวะทางการเงินของสหรัฐอเมริกา และนักลงทุนต่างชาติปรับลดความน่าเชื่อถือของสถาบันการเงินของไทย ส่งผลให้ดัชนีตลาดหุ้นปรับตัวลดลง

“แนวโน้มตลาดหุ้นไทยวันนี้น่าจะยังคงผันผวน โดยให้แนวรับที่ 605 จุด และแนวต้านที่ 625 จุด ขณะทีนักลงทุนต้องติดตามการพิจารณายุบพรรคชาติไทยและพรรคมัฌชิมาธิปไตย รวมถึงนโยบายของรัฐบาลสหรัฐฯ ในการแก้ไขปัญหาสภาวะทางการเงิน ดังนั้นช่วงนี้นักลงทุนควรชะลอการลงทุน เพื่อรอดูความชัดเจนต่างๆ ก่อน”

ด้านนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ตลาดหุ้นไทยวานนี้มีนักลงทุนเทขายทำกำไร หลังจากดัชนีตลาดหุ้นได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ขณะเดียวกันนักลงทุนบางสวนยังรอดูรายละเอียดมาตรการกู้วิกฤตสถาบันการเงินสหรัฐฯ นอกจากนี้ นักลงทุนเริ่มวิตกภาคอุตสาหกรรมที่แท้จริงอาจจะได้รับผลกระทบจากวิกฤติการเงินครั้งนี้ในระยะต่อไป ซึ่งจะส่งผลให้แนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐฯ ชะลอตัวจนถึงกลางปีหน้า

ขณะที่แนวโน้มตลาดหุนในวันนี้ คาดว่าดัชนีตลาดหุ้นไทยจะยังคงแกว่งตัวในกรอบแคบๆ ทั้งแดนบวกและแดนลบ หากยังไม่ได้รับสัญญาณที่ดี โดยอิงกับปัจจัยต่างประเทศเป็นหลัก มีแนวต้านที่บริเวณ 629 จุด และแนวรับที่ 610 และ 600 จุด   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us