เยาวราชทะลัก คนกรุงแห่ขายทอง! หวังฟันกำไรเฉียดบาทละพัน ร้านทองยืนยันมีเงินสดพร้อมจ่าย แต่เตือนนักลงทุนระวังความผันผวนของราคา หากต้องการเก็งกำไรระยะสั้น โดยเฉพาะพวกหวังรวยทางลัดรูดบัตรซื้อทอง ชี้ปัญหาเลห์แมน บราเธอร์ส ล้มละลายฉุดความเชื่อมั่นนักลงทุนสถาบันการเงินต่างชาติ แห่ขายหุ้นแล้วนำเงินมาพักในทองคำจนราคาดีดตัวสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่คาดเป็นเพียงผลกระทบระยะสั้น สัปดาห์เดียวยุติ
"ร้านค้าทอง" เผย ทองคำผันผวนหนัก หลังจากสถาบันการเงินต่างประเทศเทขายหุ้นทิ้งและนำเงินมาพัก ไว้ที่ทองคำ ขณะที่วานนี้ คนแห่ขายทองฟันกำไรทั่วเยาวราช "เตือน" นักเก็งกำไรระวังความผันผวนรุนแรง แนะ อย่ารูดบัตรเครดิตเพื่อซื้อทองเก็งกำไรอาจเสีย 2 ต่อ ด้านผู้บริหาร "บลจ. บีที" ชี้ ราคาทองขึ้นลงช่วงสั้นๆ เท่านั้น สบจังหวะ ออกกอง "บีที FIF โกลด์ ลิงค์ ฟันด์ 4" เปิดขาย 17 - 30 ก.ย.นี้
นายพิชญา พิสุทธิกุล เลขาธิการสมาคมค้าทองคำ และผู้บริหารห้างทองเลี่ยงเส็งเฮง กล่าวว่าจากสถานการณ์ราคาทองคำที่มีความผันผวน ส่งผลให้เมื่อวานนี้ (18ก.ย.) ราคาทองคำในประเทศปรับตัวขึ้นมาหลังจากที่ปรับตัวลดลงไปมาก ทำให้ผู้ที่ซื้อทองคำเพื่อเก็งกำไรในช่วงก่อนหน้านี้พากันนำทองคำออกมาขายกันอย่างมากมาย รวมทั้งในรูปแบบตั๋วจองด้วย ส่วนเหตุที่ราคาทองมีการปรับตัวขึ้นนั้นเชื่อว่าเป็นไปตามราคาทองของตลาดโลกที่มีการปรับตัวอยู่ที่ระดับ 30 - 40 เหรียญดอลลาร์สหรัฐในช่วงเวลาเพียงวันเดียว ถือว่าเป็นการผันผวนที่รุนแรงมากทั้งที่ไม่มีเหตุการณ์ความไม่สงบเกิดขึ้นแต่อย่างใด
"ในส่วนของร้านทองได้พยายามที่จะทำให้ราคาทองคำปรับตัวอยู่นิ่ง แต่จากสถานการณ์ราคาทองคำในตลาดโลกที่มีความผันผวนอย่างหนัก จึงทำให้บรรดาร้านทองไม่สามารถควบคุมความผันผวนของราคาทองคำได้ แต่อย่างไรก็ตามทางร้านได้เตรียมเงินไว้สำหรับรองรับลูกค้าที่พากันนำทองคำออกมาขายกันอย่างมากแล้ว เชื่อว่าจะไม่มีปัญหาสำหรับลูกค้าที่ต้องการขายอย่างแน่นอน" นายพิชญา กล่าว
ทั้งนี้ เลขาธิการสมาคมค้าทองคำ ให้ความเห็นว่าภาวะราคาทองคำที่มีความผนผวนอย่างมากนี้เป็นผลมาจาก บรรดาสถาบันการเงิน ในต่างประเทศพากันเทขายหุ้นทิ้ง เพื่อกลับมาถือเงินสด ทำให้ตลาดหุ้นทั่วโลกรวมทั้งตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียตกลงมาอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกันเงินที่บรรดาสถาบันการเงินเหล่านี้เทขายทิ้งจากหุ้นนั้น ส่วนหนึ่งได้นำไปพักไว้ที่ทองคำกันเป็นส่วนใหญ่ เพื่อรักษามูลค่าของทรัพย์สิน เนื่องจากเงินลงทุนเหล่านี้ไม่สามารถถืออยู่ในรูปของเงินดอลลาร์สหรัฐที่มีความผันผวนอันเนื่องมาจากเศรษฐกิจของสหรัฐที่กำลังวิกฤตอยู่ ได้ โดยส่วนที่เหลือนอกจากทองคำแล้วยังได้มีการนำเงินไปพักและเก็งกำไรในนํ้ามัน และรวมถึงเงินสกุลยูโรด้วยเช่นกัน
ดังนั้นจึงเชื่อว่าราคาทองคำในตลาดโลกจากนี้ไปจะมีความผันผวนอย่างมาก โดยราคาทองอาจจะมีการปรับตัวอยู่ที่ระดับ 30 - 40 เหรียญดอลลาร์สหรัฐในช่วงเวลา 1 วัน ซึ่งหากนักลงทุนหรือประชาชนทั่วไปจะเข้าซื้อทองคำเพื่อเก็งกำไรควรจะต้องดูสถานการณ์อย่างละเอียดรวมทั้งประเมินกำลังซื้อของตนเองด้วย เพราะช่วงนี้มีความเสี่ยงสูงมาก ขณะเดียวกันยังเตือนผู้ที่ซื้อทองคำเพื่อเก็งกำไรโดยใช้บัตรเคดิตด้วยว่าให้ระวังเพราะอาจจะขาดทุนจากการเก็งไรในทองคำและเป็นหนี้จากบัตรเครดิตด้วย
เลขาธิการสมาคมค้าทองคำยังกล่าวด้วยว่า สถานการณ์ราคาทองคำที่ผันผวนนี้อาจจะเข้าสู่ภาวะปกติได้ในช่วงสุดสัปดาห์นี้ เพราะจะเข้าสู่ช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ซึ่งบรรดาสถาบันการเงินและการลงทุนต่างๆ ซึ่งจะทำการประเมินสถานการณ์ของตนเองและกำหนดทิศทางต่อไป
ด้านนายจิตติ ตั้งสิทธิภักดี นายกสมาคมค้าทองคำ กล่าวว่า สถานการณ์ตลาดทองขณะนี้ถือว่าอยู่ในช่วงวิกฤต เนื่องจากราคาทองมีการผันผวนสูงมากอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน โดยมีการผันผวนอย่างน้อยต่อวัน 5-10 เหรียญ ทำให้ราคาทองรูปพรรณเปลี่ยนแปลงราคาวันต่อวัน อาทิ วันที่ 17ก.ย 51 รับซื้อบาทละ12,567.64 วันที่ 18 ก.ย เพิ่มเป็นรับซื้อบาทละ 13,500 บาท บางวันมีการปรับราคาทองขึ้นลงถึง 2ครั้ง ลูกค้าที่เคยซื้อทองไปเก็งกำไรกันก่อนหน้านั้น ก็กลับมาเทขายทองที่ซื้อไปจนต้องรอรับบัตรคิว ทำให้เกิดปัญหาแกผู้ประกอบการมาก เพราะก่อนหน้านี้ได้มีการสั่งซื้อทองจากต่างประเทศไว้เยอะและโอนเงินจ่ายไปแล้ว เมื่อเกิดการเทขายทองอย่างฉับพลัน ผู้ประกอบการจึงขาดสภาพคล่อง ไม่มีเงินมาจ่ายซื้อทองไว้ได้ทั้งหมด
"สาเหตุหลักที่ทำให้ราคาทองผันผวนขนาดนี้ มาจากความกังวลจากปัญหาบริษัทหลักทรัพย์ในสหรัฐล้มละลาย ทำให้ราคาทองในตลาดโลกตกลงบริษัทลงทุนในต่างชาติจึงกว้านซื้อทองไปเก็งกำไร ราคาทองภายในประเทศจึงสูงขึ้น ผู้ประกอบการที่ขายทองออกตลาดโลกก็ถูกกดราคาลงมาอีก 20 เหรียญ"นายจิตติกล่าว
นายกสมาคมค้าทองคำ กล่าวต่อว่า ในระยะนี้ผู้ที่หวังจะซื้อทองเพื่อเก็งกำไรภายในประเทศคงต้องรอดูสถานการณ์ไปก่อน เพราะราคายังคงมีความผันผวนสูง และอาจจะเป็นเช่นนี้ไปอีกระยะหนึ่ง จากปัญหาเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นทั่วโลก และแม้ว่าราคาน้ำมันจะลดลงมาอย่างต่อเนื่อง ก็มีผลต่อราคาทองไม่มากนัก เนื่องจากขณะนี้มีปัจจัยอื่นที่เข้ามาแทรกแซงมากกว่า ซึ่งการผันผวนเช่นนี้ อาจเป็นผลดีต่อผู้ซื้อรายย่อยภายในประเทศที่ไม่ได้หวังผลกำไรมากนัก
นายเจิดพันธุ์ นิธยายน ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการด้านจัดการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) บีที จำกัด กล่าวว่า ในส่วนของนักลงทุนที่หันไปลงทุนในทองคำในขณะนี้ เพื่อเก็บไว้สร้างผลตอบแทนหรือ เพื่อหลีกเลี่ยงการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ โดยบริษัทมองว่าราคาทองคำที่มีการปรับตัวขึ้นลงอยู่ในขณะนี้จะเกิดขึ้นในช่วงระยะเวลาสั้น เพราะนักลงทุนส่วนใหญ่ได้มองถึงภาพรวมของเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกา ที่อ่อนแอลง รวมทั้ง ปัญหาซัพไพรม์ที่ทำให้เศรษฐกิจชะลอตัว ไปจนถึงในเรื่องของการที่ธนาคารกลางสหรัฐฯปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพื่อเพิ่มสภาพคล่องภายในประเทศ ส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับตัวอ่อนค่าลงและมีแนวโน้มที่เงินสกุลนี้จะอ่อนค่าลงอีกครั้ง ไปจนถึงการปรับลดอัตราดอกเบี้ยที่จะตามมา
ขณะเดียวกัน ในส่วนของราคาทองคำ โดยในช่วงสิ้นปีนี้ ยังมองไม่ออกว่าแนวโน้มจะเป็นอย่างไร แต่ส่วนตัวมองว่า แนวโน้มราคาทองคำคงจะไม่ปรับขึ้นแรงมากนัก ซึ่งในช่วงข้ามคืนที่ผ่านมาราคาทองปรับตัวเพิ่มขึ้นมาถึง 100 เหรียญ เพราะมีการเปลี่ยนภาพรวมเศรษฐกิจในสหรัฐฯเพียงช่วงข้ามคืน ทำให้นักลงทุนหันมาลงทุนในทองคำ รวมถึงยังมีสาเหตุอื่นประกอบด้วย คือการที่นักลงทุนไม่ได้คาดคิดว่า เลห์แมน บราเธอร์ส บริษัทวาณิชธนกิจขนาดใหญ่ในสหรัฐฯจะเกิดการล้มละลาย เพราะที่ผ่านมาไม่มีแนวโน้มว่าบริษัทดังกล่าวจะเกิดภาวะล้มละลาย โดยจากการล้มละลายที่เกิดขึ้นทำให้เกิดความเลวร้ายต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ส่งผลถึงเศรษฐกิจทั่วโลก แต่จากภาพเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นไม่มีแนวโน้มว่าจะทำให้ราคาทองปรับตัวขึ้นมาได้อย่างไร เพราะส่วนมากนักลงทุนจะมองการลงทุนในทองคำเป็นเพียงตัวสับเปลี่ยนในการลงทุน หรือเป็นเพียงทางเลือกหนึ่งของนักลงทุนที่จะหนีความผันผวนของตลาดหุ้นโดยการนำเงินเข้ามาพักไว้ที่ทองคำขณะหนึ่งเท่านั้น
ทั้งนี้ บริษัทได้มีการออกกองทุนที่ลงทุนในทองคำเพิ่มขึ้นเป็นกองที่ 4 คือ กองทุน บีที FIF โกลด์ ลิงค์ ฟันด์ 4 โดยเปิดขายหน่วยลงทุนตั้งแต่วันที่ 17 กันยายน จนถึง วันที่ 30 กันยายน 2551 ซึ่งเมื่อมองถึงระยะเวลาการเปิดขายกองทุนกับราคาทองคำอยู่ในขณะนี้ บริษัทไม่อาจคาดได้ว่าเมื่อถึงเวลาที่กองทุนปิดการเปิดขายหน่วยลงทุนราคาทองคำจะหยุดนิ่งปรับปรับตัวอย่างไร แต่บริษัทมองว่าหลังจากนี้ราคาทองคำน่าจะมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นอีก
สำหรับราคาทองคำเมื่อวานนี้ (18ก.ย.) ทองคำ 96.5 % ทองคำแท่งรับซื้ออยู่ที่ 13,600 บาท ขายออกอยู่ที่ 13,700 บาท ส่วนทองรูปพรรณ รับซื้ออยู่ที่ 13,401.44 บาท และขายออกอยู่ที่ 14,100 บาท เพิ่มขึ้นจากวันที่ 17 กันยายนที่ผ่านมา ซึ่งราคาทองคำแท่ง96.5% รับซื้ออยู่ที่ 12,750 บาท ขายออก 12,850 บาท ขณะที่ทองรูปพรรณซื้อ 12,567.64 บาท ขาย13,250 บาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตั้งแต่ช่วงเช้าวานนี้ (18ก.ย.) บริเวณหน้าร้านทองที่เยาวราชเต็มไปด้วยประชาชนจำนวนมากที่ต้อง
การนำทองคำที่ซื้อไว้ในช่วงที่ราคามีการปรับตัวลดลงมากออกมาขายคืนแก่ร้านทอง เพื่อรับกำไรเฉลี่ยที่ 850 บาทต่อนำหนักทองคำ 1 บาท ซึ่งตลอดทั้งวันจนถึงเวลาปิดร้าน ยังมีประชาชนจำนวนมากนำทองคำออกมาขายคืนอย่างหนาแน่น
|