Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน19 กันยายน 2551
'วิวรรณ'โชว์สปิริตลาKBANKหลังโดนพิษคดีปรส.-เลห์แมน             
 


   
www resources

โฮมเพจ ธนาคารกสิกรไทย

   
search resources

ธนาคารกสิกรไทย, บมจ.
วิวรรณ ธาราหิรัญโชติ
Banking and Finance




เลห์แมนพ่นพิษไม่เลิก หลังอัยการฝ่ายคดีพิเศษ 4 สั่งฟ้องผู้ต้องหาทุกรายในคดีขายทอดตลาดสินทรัพย์ของ ปรส. กดดัน "วิวรรณ ธาราหิรัญโชติ" โชว์สปิริตลาออกจากตำแหน่งรองกรรมการผู้จัดการ แบงก์กสิกรไทย มีผล 17 ก.ย. ด้านเอ็มอีแบงก์ยันการลาออกนี้ไม่กระทบต่อการดำเนินงานของแบงก์ เนื่องจากมีผู้บริหารสายงานที่จะดูแลและบริหารงานได้อย่างต่อเนื่อง

นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KBANK เปิดเผยว่า จากกรณีที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ และอัยการได้สั่งฟ้องคดีการขายทอดตลาดสินทรัพย์กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ของ 56 สถาบันการเงินที่ถูกปิดกิจการขององค์การเพื่อการปฏิรูประบบสถาบันการเงิน (ปรส.) เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งมีผู้เกี่ยวข้องทั้งจาก ปรส. บริษัท เลห์แมน บาร์เดอร์ส โฮลดิ้งอิงค์ กองทุนรวมโกลบอลไทยพร็อพเพอร์ตี้ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน วรรณ จำกัด บริษัท เลแมนบาร์เดอร์ส ประเทศไทย จำกัด ซึ่งการฟ้องร้องครั้งนี้ทำให้มีชื่อนางวิวรรณ ธาราหิรัญโชติ เข้าไปเกี่ยวข้องในขณะที่ดำรงตำแหน่งเป็นกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน วรรณ จำกัด และกองทุนรวมโกลบอลไทย พรอพเพอร์ตี้ ในฐานะที่เป็นคู่สัญญาของบริษัท เลห์แมน บราเดอร์ส ฯ เมื่อปี 2541

จากกรณีดังกล่าว แม้จะเป็นการดำเนินการในฐานะผู้แทนนิติบุคคล แต่นางวิวรรณ มีความรู้สึกไม่สบายใจ และมีความตั้งใจที่จะจัดการเรื่องคดีดังกล่าวที่ติดมาตั้งแต่เป็นผู้บริหารของบลจ.วรรณ ให้เสร็จสิ้น โดยไม่ให้มีผลกระทบต่อการปฏิบัติงานที่ธนาคารกสิกรไทย จึงได้ขอลาออกจากตำแหน่งรองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย ตั้งแต่วันที่ 17 กันยายน 2551 เป็นต้นไป

สำหรับการลาออกของนางวิวรรณ ครั้งนี้ จะไม่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานของธนาคาร เนื่องจากมีผู้บริหารระดับสูงในสายงานที่จะดูแลและบริหารงานได้อย่างต่อเนื่อง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าก่อนหน้านี้ อัยการฝ่ายคดีพิเศษ 4 มีความเห็นสั่งฟ้องผู้ต้องหาทุกรายในคดีการขายทอดตลาดสินทรัพย์ของกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ 56 สถาบันการเงิน ที่ถูกปิดกิจการ ขององค์กรเพื่อการปฏิรูประบบสถาบันการเงิน หรือ ปรส. ทำให้รัฐเสียหายกว่า 2,000 ล้านบาท โดยให้เหตุผลว่าทุกคนต่างมีส่วนร่วมในการกระทำความผิด จากเดิมในชั้นสอบสวนอัยการที่ร่วมเป็นคณะพนักงานสอบสวนมีความเห็นให้กันนางวิวรรณไว้เป็นพยานเนื่องจากได้ให้การเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี สามารถเชื่อมโยงให้เห็นถึงขบวนการในการกระทำความผิด

สำหรับคดีนี้อัยการฝ่ายคดีพิเศษ 4 มีความเห็นสั่งฟ้องผู้ต้องหา ประกอบด้วย นายอมเรศ ศิลาอ่อน อดีตประธานคณะกรรมการ ปรส. และนายวิชรัตน์ วิจิตรวาทการ อดีตเลขานุการ ปรส. กับพวกอื่นๆ ซึ่งเป็นนิติบุคคล รวม 6 คน ไปยื่นฟ้องต่อศาลอาญาเมื่อวันที่ 8 ก.ย.ในความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่มิชอบ ให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น และเป็นผู้สนับสนุนพนักงานในการกระทำความผิด โดยศาลมีคำสั่งประทับรับฟ้อง และนัดแถลงเปิดคดี วันที่ 20 ตุลาคมนี้ เวลา 13.30 น.

ทั้งนี้ อัยการโจทก์ยื่นฟ้องกล่าวหาว่าจำเลยทั้งหมดได้ร่วมกันละเว้นการปฏิบัติหน้าที่เกี่ยวกับการประมูลของ ปรส. คดีการขายสินทรัพย์ให้กับบริษัท เลห์แมน บราเดอร์ โฮลดิ้ง อิงค์ แต่บริษัท เลห์แมนฯ กลับไปโอนขายสิทธิ์ให้กองทุนรวมโกลบอลไทยพร็อพเพอร์ตี้ ซึ่งไม่ได้เป็นผู้เข้าร่วมประมูลตามกฎหมาย เนื่องจากหากทำสัญญากับบริษัท เลห์แมนฯ ทางบริษัทจะต้องมีภาระภาษีรวม 2,000 ล้านบาท ซึ่งกองทุนโกลบอลไทยจัดตั้งขึ้นโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย

อนึ่ง คดีที่เกิดขึ้นในครั้งนี้สืบเนื่องมาจากวิกฤตเศรษฐกิจของประเทศไทยในปี 2540 โดยมีมูลเหตุมาจากภายหลังจากที่มีการปิดสถาบันการเงิน 56 แห่งอย่างถาวร รัฐบาลจึงได้ออกพระราชกำหนดจัดตั้งปรส. เพื่อให้ทำหน้าที่บริหารจัดการสินทรัพย์ของสถาบันการเงินที่ถูกปิด ซึ่งถือเป็นสินทรัพย์ของชาติ รวมมูลค่าราว 823,000 ล้านบาท แต่กลับมีการดำเนินการแบบไม่โปร่งใส คือนำหนี้ดีและเสียมารวมกันก่อนจะทำการประมูลแบบเหมารวม ซึ่งทำให้ประเทศต้องสูญเสียเงินเป็นจำนวนมากถึง 6 แสนล้านบาท   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us