|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
ลอรีอัลยังมั่นใจตลาดผลิตภัณฑ์ดูแลความงามยังมีอนาคต เติบโตได้ดี สวนทางเรื่องวุ่นวายทางการเมือง เผย 8 เดือนแรก ตลาดรวมโต 7% ขณะที่สามแบรนด์ของลอรีอัล คือ ลอรีอัลปารีส การ์นิเย่ เมย์เบลลีน เติบโตรวม 32% มากกว่าตลาดรวม 5 เท่า ไตรมาสสี่รุกหนักเปิดตัวสินค้านวัตกรรมใหม่ต่อเนื่อง
นายจอน อาร์โนลด์ ผู้จัดการทั่วไป แผนกผลิตภัณฑ์อุปโภคบริโภค บริษัท ลอรีอัล ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า แม้ว่าไทยจะยังอยู่ในช่วงของความไม่แน่นอนทางการเมือง ยังมีความวุ่นวายอยู่ แต่ในส่วนของตลาดผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพและความงาม โดยเฉพาะในตลาดระดับแมสยังไม่ได้รับผลกระทบเท่าใด ตลาดยังไปได้ดี
จากประสบการณ์ในการทำงานมาเกือบ 20 ปี พบว่า เวลาที่ผู้บริโภคมีเงินน้อยลง หรือสินค้ามีราคาแพงขึ้น ผู้บริโภคจะเริ่มชะลอการใช้จ่ายสินค้าที่ใหญ่ๆและมีราคาแพง เช่น บ้าน เครื่องใช้ไฟฟ้า รถยนต์ แต่ก็ยังคงให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพและความงาม ซึ่งยังมั่นใจว่าตลาดสุขภัณฑ์และความงามในไทยยังเติบโตได้อีกไกล
"ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคลดลงมาตลอดในช่วงหลายเดือน แต่ว่าตลาดนี้ก็ยังเติบโตสวนทางดัชนีความเชื่อมั่น อีกทั้งผู้บริโภคมีความรู้ความเข้าใจเรื่องการดูแลผิวพรรณมากขึ้น ให้ความสำคัญกับการดูแลแบบเฉพาะเจาะจง ผู้ชายก็ตื่นตัวเรื่องการดูแลผิวพรรณและสุขภาพด้วย ส่งผลให้ตลาดโดยรวมไปได้ดี" นายจอนกล่าว
ตลาดรวมผลิตภัณฑ์สุขภาพและความงาม 8 เดือนแรกปี 2551 เติบโต 7% ด้วยมูลค่าตลาดกว่า 23,000 ล้านบาท โดยเป็นตลาดผลิตภัณฑ์ดูแลผิวโดยรวมโต 8% กลุ่มผลิตภัณฑ์ดูแลผิวรอบดวงตาโตขึ้น 20% กลุ่มผลิตภัณฑ์ดูแลผิวในยามค่ำคืนเติบโตรวดเร็ว 45% และกลุ่มผลิตภัณฑ์ดูแลผิวผู้ชายโต 26%
ผลประกอบการช่วง 8 เดือนแรกปี 2551 ของแผนกผลิตภัณฑ์อุปโภคบริโภคที่ดูแล 3 แบรนด์ คือ ลอรีอัลปารีส การ์นิเย่ และเมย์เบลลีน โตโดยรวมสูงถึง 32% มากกว่าตลาดรวมกว่า 5 เท่า สูงกว่าที่ตั้งเป้าไว้ ซึ่งเป็นผลมาจากการเปิดตัวสินค้าที่มีนวัตกรรมใหม่ของทั้งสามแบรนด์และการทำกิจกรรมตลาด โดยปีนี้ใช้งบการตลาดมากกว่าปีที่แล้ว 25% เช่น แบรนด์เมย์เบลลีน เปิดตัววอลุ่มเอ็กซ์เพรสมาสคาร่า แป้งแข็งเคลียร์สมูธ ส่งผลให้กลุ่มแป้งเติบโต 60% ส่วนลอรีอัลปารีสได้รับผลสำเร็จจากหลายกลุ่มเช่น กลุ่มดูแลผิวผู้ชายเติบโต 135%
ล่าสุดไตรมาสสี่เปิดตัวสินค้าใหม่ลอรีอัลเดอร์มาเจเนซิส เป็นผลิตภัณฑ์ป้องกันริ้วรอย เจาะกลุ่มอายุ 28 ปีขึ้นไป ซึ่งพัฒนามา 7 ปี โดยใช้งบการตลาดมากกว่าการเปิดตัวสินค้าใหม่ที่ผ่านมาถึง 3 เท่า ด้วยกลยุทธ์ 360 องศา ทั้งบีโลว์เดอะไลน์และอะโบฟเดอะไลน์ พร้อมแจกสินค้าตัวอย่างกว่า 1 ล้านชิ้น การจัดกิจกรรมกับผู้บริโภคโดยตรงในวันที่ 17 กันยายนที่สยามพารากอน เป็นต้น
"บริษัทฯ มั่นใจว่าสินค้าใหม่จะเป็นส่วนสำคัญ ผลักดันให้ยอดขายในแผนกนี้เติบโตตามเป้าหมาย ซึ่งจากการเปิดตัวในยุโรปและอเมริกามียอดขายรวมกว่า 12 ล้านชิ้น ซึ่งในไทยใน 1 เดือนที่ทดลองวางตลาดพบว่ามีส่วนแบ่งเพิ่มขึ้น 3% ในท็อปส์ซูเปอร์มาร์เก็ต"
|
|
|
|
|