Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายสัปดาห์15 กันยายน 2551
ชีวาทัยอาศัยแต้มต่อลงทุนคอนโดฯ เล็งขยายไลน์สู่ธุรกิจรร.-ออฟฟิศ             
 


   
search resources

Real Estate
ชีวาทัย, บจก.
ชาติชาย พานิชชีวะ




“ชีวาทัย”ควงพันธมิตรเครือ ทีอีอี กรุ๊ป สิงคโปร์ ลงทุนคอนโดมิเนียมขายลูกค้าชาวไทยและต่างชาติ อาศัยความได้เปรียบเป็นน้องเขยเจ้าของอาณาจักรนิคมฯอมตะ“วิกรม กรมดิษฐ์” ผู้มีคอนเน็กชั่นต่างชาติล้นหลามกวาดลูกค้าซื้อโครงการ“ชีวาทัย ราชปรารถ” กว่า 50% ช่วงเปิดตัว แย้มแผนลงทุนระยะยาว ขยายไลน์สู่ธุรกิจโรงแรม และอาคารสำนักงาน

การพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ โดยเฉพาะการลงทุนโครงการคอนโดมิเนียม นอกจากทำเลที่ตั้ง รูปแบบอาคาร และกลุ่มเป้าหมายที่ต้องคำนึงถึงเป็นหลักแล้ว สิ่งสำคัญที่ไม่อาจมองข้ามนั่นคือจะต้องมีแหล่งเงินทุนต้นทุนต่ำ และมีสายสัมพันธ์ที่ดีกับกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย เพื่อเป็นใบเบิกทางให้สามารถสร้างยอดขายได้อย่างรวดเร็ว

บริษัท ชีวาทัย จำกัด จึงกำเนิดขึ้นด้วยความร่วมมือของชาติชาย พานิชชีวะ น้องเขยวิกรม กรมดิษฐ์ เจ้าของนิคมอุตสาหกรรมอมตะ ชลบุรี นิคมอุตสาหกรรมอมตะ ซิตี้ ระยอง และนิคมอุตสาหกรรม ประเทศเวียดนาม และบริษัท ทรานส อิควอโทเรียล เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด ในเครือ ทีอีอี กรุ๊ป ประเทศสิงคโปร์ ด้วยทุนจดทะเบียนเบื้องต้น 100 ล้านบาท โดยกลุ่มชาติชายถือหุ้นใหญ่ 51% ส่วนกลุ่มทรานส อิควอโทเรียล สิงคโปร์ถือหุ้น 49% ตามกฎหมายกำหนด

สำหรับโครงสร้างคณะกรรมการ ชาติชาย นั่งเก้าอี้ประธานกรรมการบริหาร ส่วนกรรมการประกอบด้วย พัว เชียนคิน, เชง เชา ชิออง, บุญ ชุน เกียรติ, สมหะทัย พานิชชีวะ (ภรรยาชาติชาย),สมภัทรา รัตนสงวนวงศ์ และวิวัฒน์ กรมดิษฐ์ (น้องชายวิกรม)

แผนการลงทุนของชีวาทัย ชาติชาย บอกว่า จะลงทุนโครงการใหม่ปีละประมาณ 2-3 แห่ง มูลค่ารวม 2,000 ล้านบาท ทุกโครงการจะเน้นในทำเลที่มีความต้องการซื้อ แต่มีโครงการให้เลือกน้อย หรือไม่มีเลย และเป็นทำเลค้าขายย่านธุรกิจ โดยโครงการแรกที่เปิดตัวคือ “ชีวาทัย ราชปรารภ” เป็นคอนโดมิเนียม สไตล์โมเดิร์น สูง 26 ชั้น จำนวน 329 ยูนิต ราคาเริ่มต้นตารางเมตรละ 75,000 บาท หรือ 2.4 ล้านบาท พื้นที่ 2 ไร่เศษ มูลค่า 1,000 ล้านบาท ตั้งอยู่บนถนนราชปรารภ ซึ่งเป็นย่านธุรกิจที่สำคัญแห่งหนึ่งของกรุงเทพฯห่างจากรถไฟฟ้าบีทีเอส 600 เมตร และห่างจากแอร์พอร์ต ลิ้งก์ 700 เมตร ซึ่งเน้นกลุ่มเป้าหมายระดับกลางถึงบนทั้งชาวไทยและต่างชาติ ภายใต้คอนเซปท์ “Make Your Life Easier” ขณะนี้อยู่ระหว่างขออนุญาตรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม คาดว่าจะได้ใบอนุญาตประมาณเดือนพ.ย.นี้ และใช้เวลาก่อสร้างนาน 20 เดือนไม่รวมตกแต่ง

จะเห็นว่าโครงการชีวาทัย เน้นกลุ่มลูกค้าทั้งชาวไทยและต่างชาติ ทำให้ด้วยสายสัมพันธ์ ของกลุ่มผู้ร่วมทุนทั้งชาวไทยและต่างชาติก็สามารถสร้างยอดขายในช่วงแรกของการเปิดตัวมากกว่า 50% ท่ามกลางปัจจัยลบมากมายที่กระทบต่อการตัดสินใจซื้อ เพราะกลุ่มคนไทยมีสายสัมพันธ์ที่ดีกับกลุ่มลูกค้าต่างชาติ เพราะเป็นที่รู้กันอยู่แล้วว่า สมหะทัย มีบทบาทสำคัญในการดูแลนิคมอุตสาหกรรมอมตะทั้ง 2 แห่ง รวมถึงนิคมอุตสาหกรรมในเวียดนามด้วย ซึ่งจากความเชื่อมั่นในการพัฒนานิคมฯทั้ง 3 แห่ง รวมถึงตัวสมหะทัยเองจึงสามารถดึงดูดนักลงทุนจากในนิคมฯดังกล่าวมาซื้อโครงการชีวาทัยได้อย่างไม่ยากนัก

ขณะที่กลุ่มทรานส อิควอโทเรียล ฯสิงคโปร์เป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ขนาดกลาง ดำเนินธุรกิจวางระบบเอ็นจิเนียริ่งในสิ่งปลูกสร้าง เช่น อาคาร งานก่อสร้างถนนในสนามบินสิงคโปร์ รวมถึงเป็นผู้เดินท่อน้ำ ไฟฟ้า และประปา เป็นผู้เชี่ยวชาญงานสาธารณูปโภค ทำให้สามารถแนะนำโครงการชีวาทัยต่อนักลงทุนสิงคโปร์ที่ต้องการมาซื้อคอนโดมิเนียมในไทยเพื่อลงทุนให้เช่า หรือเพื่อมาพักผ่อนเองได้ นอกจากนี้กลุ่มทรานส อิควอโทเรียลฯยังมีแหล่งเงินทุนต้นทุนต่ำนำใช้ในการลงทุนโครงการด้วย

สำหรับแผนการในอนาคต บุญ ชุน เกียรติ กล่าวว่า จะเร่งสร้างรายได้จากการลงทุนโครงการเพื่อขาย เพื่อสร้างความแข็งแกร่งทางด้านการเงิน และหลังจากนั้นมีแผนจะเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯในช่วง 5 ปีข้างหน้า โดยจะขยายการลงทุนสู่ธุรกิจให้เช่าควบคู่ธุรกิจเพื่อขาย เช่น โรงแรม และอาคารสำนักงาน เพื่อมีรายได้สองทาง   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us