Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายสัปดาห์8 กันยายน 2551
จับคู่บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป กลยุทธ์เซกเมนต์ใหม่ "พรานทะเล"             
 


   
www resources

โฮมเพจ พรานทะเล มาร์เก็ตติ้ง

   
search resources

พรานทะเล มาร์เก็ตติ้ง, บจก.
Frozen food




พรานทะเล หลบฉากการแข่งขันร้อนแรงในตลาดอาหารแช่แข็งพร้อมกินที่เป็นเรดโอเชี่ยน มุ่งสู่น่านน้ำทะเลสีคราม มองเห็นโอกาสแจ้งเกิดสินค้า ที่จับคู่ตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปซึ่งมีการเติบโตต่อเนื่องด้วยตลาดรวมมูลค่า 1.3 หมื่นล้านบาท เดินเกมสร้างเซกเมนต์ใหม่ลงตลาดอาหารแช่แข็งพร้อมกิน เปิดตัวแบรนด์ "คลิ๊ก" ขยายฐานสู่ตลาดแมส จับกลุ่มลูกค้านักเรียนนักศึกษา กลุ่มคนทำงาน พ่อบ้านแม่บ้าน

หลังจากที่แบรนด์ "พรานทะเล"เข้ามาปักธงในตลาดอาหารแช่แข็งเพื่อสุขภาพในจังหวะที่เป็นช่วงขาขึ้นตลาด โดยมีจุดเริ่มต้นการทำตลาดตอกย้ำความเป็นผู้นำนวัตกรรมตลาด ที่เน้นจับกลุ่มลูกค้าระดับพรีเมียม พร้อมทั้งจุดเด่นเป็นอาหารทะเลแช่แข็งพร้อมกินที่มีความแตกต่างจากคู่แข่งในตลาด ทว่าเมื่อตลาดอาหารทะเลแช่แข็งพร้อมกินได้เปลี่ยนสภาพกลายเป็นเรดโอเชี่ยนที่มากด้วยคู่แข่งจากหลายวงการ เพราะจากเดิมที่มีเพียง 3 แบรนด์หลักที่ทำตลาดคือ พรานทะเล ซี.พี. และเอสแอนด์พี แต่ในปัจจุบันเริ่มมีแบรนด์หน้าใหม่เปิดฉากเข้ามาร่วมชิงเค้กอาหารแช่แข็งพร้อมกินเพิ่มขึ้นกว่า 16 แบรนด์ โดยแต่และแบรนด์พยายามนำเสนอจุดขายที่มีความแตกต่างจากคู่แข่งเพื่อเข้ามาเป็นทางเลือกใหม่ให้กับผู้บริโภค

เมื่อการแข่งขันในตลาดอาหารแช่แข็งพร้อมกินในปัจจุบันเริ่มทวีความร้อนแรงขึ้น การมองหาช่องว่างตลาดใหม่จึงเป็นแนวรุกใหม่ของพรานทะเล โดยยังคงคอนเซ็ปต์สินค้าการทำตลาดด้วยจุดขายที่ตอบโจทย์ด้านกระแสสุขภาพและไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนไปของผู้บริโภคที่รีบเร่งมากขึ้น อีกทั้งยังเป็นการแตกเซกเมนต์ใหม่ ที่มีการขยายฐานลูกค้าของพรานทะเลในตลาดอาหารแช่แข็งจากตลาดพรีเมียมไปสู่ตลาดแมส ภายใต้แบรนด์ใหม่ และสินค้าใหม่ในตลาดอาหารแช่แข็งพร้อมกิน

การเคลื่อนไหวในตลาดของพรานทะเล เพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำเทรนด์ในการสร้างนวัตกรรมตลาดอาหารแช่แข็งเพื่อสุขภาพรูปแบบใหม่อย่างต่อเนื่อง ทั้งในเรื่องความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ และกิจกรรมส่งเสริมการตลาดที่สามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคในทุกกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย เมื่อเร็วๆ นี้คือการเปิดตัวแบรนด์ "คลิ๊ก" ที่มาพร้อมกับแนวคิดใหม่ที่เป็นการแตกเซกเมนต์ในตลาดอาหารสำเร็จรูปแช่แข็งพร้อมกิน โดยอาศัยช่องว่างการทำตลาดที่เป็นจุดอ่อนด้านคุณค่าอาหารของบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปมาเป็นโอกาสทางการตลาด โดยพฤติกรรมการบริโภคบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปสัดส่วนถึง 80% จะนำเนื้อสัตว์ต่างๆ มาใส่เอง

สำหรับแบรนด์น้องใหม่ "คลิ๊ก" ของพรานทะเลนั้น จะวางตำแหน่งเป็นอาหารแช่แข็งพร้อมกินแบบซองเพื่อสุขภาพ ที่เติมเต็มคุณค่าทางโภชนาการให้ครบ 5 หมู่ ซึ่งมีกว่า 10 เมนู อาทิ ปลาพริกไทย ดำ ปลาทอดกระเทียม ปลาแผ่นรสพริก กุ้งปรุงรส ผสมกับแครอตและเห็ดหอมบรรจุในซอง และนำไปรับประทานกับบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป หรืออาหารกึ่งสำเร็จรูปอื่นๆ ได้ทันที จะเป็นการตอบโจทย์ของผู้บริโภคได้เป็นอย่างดี

ไม่เพียงจุดอ่อนด้านคุณค่าอาหารของบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปจะเป็นโอกาสในการขยายเซกเมนต์ใหม่ของตลาดอาหารแช่แข็ง ทว่ายังมีแต้มต่อจากโอกาสการเติบโตของตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่มีขนาดใหญ่ และมีแนวโน้มการเติบโตสูง โดยอัตราการบริโภคบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปของคนไทยในปัจจุบันอยู่ที่ 7 ล้านซองต่อวัน และคาดการณ์ว่าตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปในปีนี้จะเติบโตขึ้นเป็น 1.3 หมื่นล้านบาท จากมูลค่าตลาดรวม 1.2 หมื่นล้านบาทในปีที่ผ่านมา

อีกทั้งการตอบโจทย์ในเรื่องของความประหยัดที่สอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบัน อนุรัตน์ โค้วคาสัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการตลาด และฝ่ายปฎิบัติการ บริษัท พรานทะเล มาร์เก็ตติ้ง จำกัด กล่าวว่า "การแตกเซกเมนต์ใหม่ที่อยู่ภายใต้แบรนด์ "คลิ๊ก"ซึ่งจับตลาดเดียวกับตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่เป็นกลุ่มลูกค้ามีกำลังซื้อไม่มาก ทำให้การตั้งราคาจะเริ่มตั้งแต่ 13-16 บาทต่อซอง ซึ่งถูกกว่าอาหารทั่วไป โดยราคาส่วนใหญ่ประมาณ 25 บาทขึ้นไป สำหรับแพ็กเกจจิ้งนั้นได้มีการออกแบบให้รองรับลักษณะไลฟ์สไตล์ตามความเหมาะสม และการเก็บรักษาของผู้บริโภค 3 ขนาด ทั้งแบบแพ็ก บรรจุ 10 ซอง, แพ็กบรรจุ 5 ซอง และแบบถาดแถวบรรจุ 15 ซอง นอกจากนี้ยังได้ทำการจดลิขสิทธิ์เครื่องหมายการค้า "Copy Right" ทั้งในรูปแบบผลิตภัณฑ์ แพกเกจจิ้งแบรนด์ และโนว์ฮาว เพื่อเป็นการป้องกันการลอกลิขสิทธิ์ทางปัญญา เนื่องจากทางบริษัทได้ใช้เวลาคิดค้น และปรับปรุงผลิตภัณฑ์ใหม่นี้เป็นระยะเวลานาน ส่วนยอดขายปีแรกตั้งเป้าจะสามารถสร้างยอดขายจากแบรนด์ "คลิ๊ก" ได้ประมาณ 5% ของมูลค่าตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปทั้งหมด หรือประมาณ 1,300 ล้านบาท"

แม้ว่าพรานทะเลจะมีสายป่านยาว ที่เริ่มต้นจากความเป็นผู้นำธุรกิจอาหารทะเลแช่แข็ง ที่เข้าตลาดอาหารแช่แข็งมาด้วยการอุดช่องว่างจุดอ่อนด้านภาพลักษณ์ของผู้บริโภคที่ติดกับภาพลักษณ์ของอาหารทะเลแช่แข็งไม่มีความสด และปัจจุบันได้พลิกภาพมาสู่ความเป็นผู้นำทางด้านนวัตกรรมอาหารทะเลแช่แข็งเพื่อสุขภาพในกลุ่มอาหารแช่แข็งพร้อมปรุง (Ready to Cook) และอาหารแช่แข็งพร้อมรับประทาน (Ready to Eat) ได้ก็ตาม

ทว่าด้วยจุดที่เป็นแบรนด์ใหม่ และสินค้าใหม่ในตลาด ทำให้การตลาดในช่วงแรกๆของ "คลิ๊ก" จึงมุ่งไปที่แนวทางการแบรนดิ้ง และสร้างการรับรู้ถึงบินิฟิตของสินค้าที่อยู่ภายใต้คอนเซ็ปต์ "เติมเต็มคุณค่าให้อาหารจานด่วนของคุณ" โดยใช้งบ 100 ล้านในช่วง 5 เดือนสุดท้ายของปีนี้เพื่อสร้างแบรนด์ อีกทั้งสร้างเทรนด์การบริโภคในรูปแบบใหม่ โดยมุ่งเจาะกลุ่มเป้าหมายในระดับแมส ทั้งกลุ่มนักเรียนนักศึกษา กลุ่มคนทำงาน ตลอดจนพ่อบ้านแม่บ้านที่ไม่มีเวลาในการจัดเตรียมอาหาร

ส่วนกลยุทธ์การสื่อสารตลาด วางแนวทางเรื่อง "MATE (เมต) เนื้อคู่ของบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป" เพื่อสร้างเทรนด์ การบริโภคบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปแบบใหม่ไปยังกลุ่มเป้าหมาย เกี่ยวกับเรื่องการเติมเต็มคุณค่าสารอาหารในแต่ละมื้อ ส่วนกิจกรรมการส่งเสริมการตลาดในระยะแรกนั้น ได้กำหนดรูปแบบการสื่อสารแบบครบวงจรในทุกๆ สื่อที่สามารถเจาะเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายโดยตรง ผ่าน 3 กิจกรรมหลัก เพื่อแนะนำผลิตภัณฑ์ ได้แก่ ภาพยนตร์โฆษณาทางโทรทัศน์ 4 เรื่อง โดยเน้นให้ความรู้เกี่ยวกับวิธีการใช้ คุณค่าสารอาหาร และความคุ้มค่า คุ้มราคา นอกจากสื่อทางโทรทัศน์ ก็ยังมีสื่อหลักอื่นๆ เช่น สื่อนิตยสาร และสื่อกลางแจ้ง

"โดยในการเปิดตัวครั้งนี้ได้มีการเพิ่มช่องทางของสื่อออนไลน์เข้ามาให้มีบทบาทมากขึ้น เนื่องจากกลุ่มเป้าหมายหลักของ "คลิ๊ก" มีไลฟ์สไตล์ที่เกี่ยวข้องกับการสื่อสารออนไลน์จำนวนมาก ทั้งคอมพิวเตอร์ อินเทอร์เน็ต สมาร์ทโฟนที่ต้องรับข่าวสารในทุกวินาที นอกจากนี้ ยังเพิ่มเติมในส่วนของกิจกรรมโรดโชว์ เป็นระยะเวลาประมาณ 2-3 เดือน เพื่อกระจายการทำกิจกรรมในสถานที่ต่างๆ อาทิ หอพักมหาวิทยาลัย ตึกอาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ แหล่งชุมชนต่างๆ รวมทั้งการทำกิจกรรม CSR ในกลุ่มมูลนิธิต่างๆ อีกด้วย"

การวางแนวทางการทำตลาดสำหรับสินค้ารูปแบบใหม่ของพรานทะเลนี้ ไม่เพียงต้องเดินเกมรุกด้านการสื่อสารการตลาด แต่เพราะลูกค้ากลุ่มเป้าหมายในตลาดระดับแมส ถือว่าเป็นฐานลูกค้าใหม่ของพรานทะเลที่ยังไม่มีประสบการณ์ความชำนาญในการทำตลาดมาก่อน ซึ่งก็ทำให้การวางหมากด้านการขยายช่องทางการจำหน่ายก็เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งที่พรานทะเลจะเข้าไปเปิดเกมเชิงรุกเต็มรูปแบบ โดยกลยุทธ์ด้านช่องทางจำหน่าย "คลิ๊ก" ในระยะแรกจะต่อยอดความแข็งแกร่งของแบรนด์พรานทะเลที่จับกลุ่มลูกค้าระดบบน ซึ่งการทำตลาดส่วนใหญ่จะอยู่ในช่องทางโมเดิร์นเทรด ซูเปอร์มาร์เกต และไฮเปอร์มาร์ท ซึ่งอยู่ในบริเวณใกล้เคียงกับจุดจำหน่ายของบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป และในกลุ่มมินิมาร์ท และคอนวีเนียนสโตร์ ที่อยู่ในรูปแบบตู้พรานทะเล 1 พันกว่าจุด

ขณะที่การขยายช่องทางจำหน่ายเพื่อเข้าถึงลูกค้าในกลุ่มรากหญ้านั้น จะวางจุดจำหน่ายในรูปแบบตู้พรานทะเล ตามจุดจำหน่ายกว่า 1 พันจุด โดยในระยะแรกจะวางประมาณ 500 จุด และในอนาคตจะเพิ่มอีก 500 จุด โดยรูปแบบผลิตภัณฑ์ที่วางจำหน่ายจะถูกแบ่งออกตามสถานที่นั้นๆ อาทิ จุดจำหน่ายตามโมเดิร์นเทรด, ซูเปอร์มาร์เกต และไฮเปอร์มาร์ท ซึ่งจะเป็นผลิตภัณฑ์ประเภทแช่แข็งพร้อมทาน และสำหรับมินิมาร์ท และคอนวีเนียนสโตร์จะเป็นรูปแบบชิลฟู้ด ซึ่งมีระยะเวลาในการเก็บรักษาประมาณ 15 วันนับจากวันที่ผลิต   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us