Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายสัปดาห์8 กันยายน 2551
อเบอร์ดีนย้ำลงทุนยาวผลตอบแทนดีไม่หวั่นตลาดผันผวน             
 


   
www resources

โฮมเพจ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน อเบอร์ดีน จำกัด

   
search resources

อเบอร์ดีน, บลจ.
Funds




บลจ.อเบอร์ดีน ชูกลยุทธ์เลือกหุ้นแวร์ลูสต๊อก เฟ้นธุรกิจเข้าใจง่าย งบการเงินแข็งแกร่ง ผู้บริหารมีวิชั่น ถือครองยาว ไม่หวั่นตลาดผันผวน พร้อมจับมือพันธมิตร 4 รายใหญ่เปิดโครงการลงทุนอย่างชาญฉลาดกับอเบอร์ดีนเพิ่มความรู้นักลงทุน

โรเบิร์ต เพนนาโลซา ประธานเจ้าหน้าบริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) อเบอร์ดีน กล่าวว่าภาวะตลาดหุ้นไทยในปี 2551มีความผันผวนสูงและมีแนวโน้มจะปรับลดลงเฉลี่ย 15-20% อย่างไรก็ตามยังคงปรับตัวลดลงต่ำกว่าตลาดหุ้นภูมิภาคเอเชีย โดยเฉพาะจีนและอินเดียที่ลดลงประมาณ 35-40%

สำหรับผลตอบแทนของตลาดหุ้นไทยย้อนหลัง 3 ปีเฉลี่ยอยู่ที่ระดับ 1%ต่อปี เท่านั้น ส่วนค่าความเสี่ยงก็อยู่ในระดับ 19% ขณะที่กองทุนหุ้นของอเบอร์ดีน ได้แก่ กองทุนอเบอร์ดีน โกรท ฟันด์ (ABG) ,กองทุนอเบอร์ดีน สมอลล์แค็ป ฟันด์ (ABSM) และกองทุนอเบอร์ดีน สยาม ลีดเดอส์ ฟันด์ (ABSL) สามารถสร้างผลตอบแทนย้อนหลัง 3 ปีได้เฉลี่ยที่ 7-10%ต่อปี โดยมีค่าความเสี่ยง 13-15%

ทั้งนี้อเบอร์ดีนได้ปรับกลยุทธ์การลงทุน โดยเน้นลงทุนในระยะยาวตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไป รวมทั้งจะไม่เน้นใช้กลยุทธ์ถือเงินสดสูง แต่ละกองทุนจะถือครองสถานะเงินสดไม่เกิน 2-3% ส่วนการลงทุนในหุ้นก็จะเน้นลงทุนในกลุ่มธุรกิจที่เข้าใจง่าย มีแนวโน้มการเติบโตที่ดี และมีฐานการเงินแข็งแกร่ง รวมทั้งผู้บริหารจะต้องมีแนวทางบริหารที่ชัดเจน ดูแลผลประโยชน์ของนักลงทุนรายย่อย

“หุ้นที่อเบอร์ดีนลงทุนจะต้องมีสภาพคล่องทางการเงินสูง ไม่มีหนี้สินเพื่อจะได้รับเงินปันผลสูงด้วย ขณะเดียวกันก็จะไม่เน้นหุ้นขนาดใหญ่แต่ไม่มีวิธีการบริหารที่ดี ซึ่งอเบอร์ดีนจะเลือกถือหุ้นน้อยตัว แต่จะพิจารณาน้ำหนักให้เหมาะสมกับสถานการณ์ช่วงนั้น”

ล่าสุดอเบอร์ดีนได้ร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจ 4 ราย ได้แก่ ธนาคารฮ่องกงและเซี่ยงไฮ้แบงก์ ,บริษัทหลักทรัพย์ ภัทร, ธนาคารสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด และธนาคารซิตี้แบงก์ ในการจัดโครงการลงทุนอย่างชาญฉลาดเพื่อสนับสนุนการลงทุนระยะยาว ซึ่งจะเน้นให้ความรู้นักลงทุนภาวะตลาดผันผวน โดยแนะนำให้ลงทุนกับบริษัทที่มั่นคงด้วยกลยุทธ์ถือครองสินทรัพย์ไว้ระยะยาว

สำหรับสถานการณ์ลงทุนในปัจจุบัน หุ้นทั่วโลกถูกกดดันจากปัจจัยเสี่ยงต่างๆอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการเมืองในประเทศ, ปัญหาเงินเฟ้อสูง, ภาวะเศรษฐกิจทั้งในยุโรปและญี่ป่นอ่อนตัว รวมถึงวิกฤติสถาบันการเงินในสหรัฐอเมริกา นักลงทุนจึงควรเลือกลงทุนในกองทุนรวมที่มีนโยบายลงทุนในหุ้นแทน เช่น กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ(RMF) ,กองทุนรวมหุ้นระยาว (LTF) หรือ กองทุนที่ลงทุนในต่างประเทศ(FIF)เนื่องจากมีความเสี่ยงน้อยกว่าการลงทุนในหุ้นโดยตรง   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us