|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
ตลาดหุ้นยังมีโอกาสผันผวนสูง โบรกฯแนะให้เล่นเข้า-ออกสั้นๆเป็นรายวันไปก่อน ให้น้ำหนักหุ้นใหญ่กลุ่มธนาคารพาณิชย์และอสังหา แม้มองแนวโน้มดอกเบี้ยนโยบายทรงตัว แต่ดอกเบี้ยเงินฝากเงินกู้ยังมีโอกาสขยับได้อีก
ท่ามกลางสถานการณ์ทางการเมืองภายในที่อ่อนไหว สัญญาณการหดตัวของเศรษฐกิจยุโรปและญี่ปุ่นอยู่ในช่วงเริ่มต้น รวมทั้งวิกฤติสินเชื่อสถาบันการเงินในสหรัฐที่ยังไม่สะเด็ดน้ำ เกียรติก้อง เดโช ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บล.ซิกโก้ มองว่า การเคลื่อนไหวของดัชนีราคาตลาดหลักทรัพย์ไทย(SET INDEX) ยังมีโอกาสที่จะผันผวนได้ทุกเมื่อ
ดังนั้นกลยุทธ์การลงทุนในช่วงนี้จึงควรเป็นแบบเล่นสั้นๆเป็นรายวันไปก่อนจนกว่าจะมีความชัดเจน สำหรับหุ้นกลุ่มที่จะยังพอเล่นได้โดยราคาหุ้นในช่วงนี้ OUTPERFORM กว่า SET INDEX ก็ยังคงเป็นหุ้นใหญ่ในกลุ่มหลัก อย่างธนาคารพาณิชย์และอสังหาริมทรัพย์
หากเปรียบเทียบราคาหุ้นใหญ่ในกลุ่มธนาคารพาณิชย์ 3 แห่งคือ ธนาคารกรุงเทพ(BBL), ธนาคารกสิกรไทย(KBANK) และ ธนาคารไทยพาณิชย์(SCB) กับการเคลื่อนไหวของ SET INDEX นับตั้งแต่ช่วงต้นเดือน กรกฎาคม ถึงปัจจุบัน ซึ่งถือว่าเป็นช่วงที่ตลาดมีความผันผวนรุนแรงมาก คือ ลงมาจากจุดสูงสุดที่ 778 จุดและต่ำสุดที่ 664 จุด จะเห็นว่าหุ้นธนาคารทั้ง 3 ตัวแม้จะปรับตัวลงแต่น้อยกว่าการปรับตัวลงของ SET INDEX มาก หรือพูดพูดง่ายๆว่า หุ้นทั้ง 3 OUTPERFORM กว่า
โดยเฉพาะช่วงตั้งแต่ต้นถึงกลาง ส.ค.ที่ SET INDEX และหุ้นกลุ่มอื่นๆปรับตัวลงมาลึก แต่หุ้นธนาคารใหญ่กลับลงมาน้อยกว่า ส่วนหุ้นอีกกลุ่มที่สามารถยืนต้านการปรับตัวลงได้ก็คือหุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์อย่าง บมจ.เอเชี่ยนพร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ (AP) ,บมจ.พฤกษา เรียลเอสเตท (PS)และ บมจ.ควอลิตี้เฮ้าส์ (QH)
สำหรับจุดเด่นของหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์และอสังหาริมทรัยพ์ยังคงเป็นเรื่องของทิศทางดอกเบี้ย ที่ในช่วงต่อจากนี้ยังมีโอกาสทรงตัวจากก่อนหน้านี้ที่มองกันว่าดอกเบี้ยจะเป็นช่วงขาขึ้น โดยตัวเลขเงินเฟ้อในเดือนสิงหาคมก็นับว่าลดลงมากพอสมควรเพราะได้ผ่านจุดสูงสุดไปแล้ว ทำให้ในปีหน้าทิศทางดอกเบี้ยก็มีสิทธิที่จะลงได้
แม้ทิศทางดอกเบี้ยนโยบายหลังจากนี้ถึงปลายปีจะเริ่มทรงตัว แต่ในส่วนของดอกเบี้ยของกลุ่มธนาคารพาณิชย์โดยเฉพาะดอกเบี้ยเงินฝากก็ยังมีสิทธิขึ้นได้จากการแข่งขันระดมเงินออม ซึ่งก็หมายถึงเมื่อขึ้นดอกเบี้ยเงินฝาก ธนาคารก็จะปรับขึ้นดอกเบี้ยเงินกู้ ตามไปด้วย และหากธนาคารพาณิชย์มีการปรับขึ้นดอกเบี้ยหลังจากนี้ก็มองว่าจะเป็นผลดีกับธนาคารพาณิชย์เอง
ส่วนผลที่จะกระทบกับกลุ่มอสังหาริมทรัพย์คงมีไม่มาก เนื่องจากกำลังมองกันว่าการปรับขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารพาณิชย์รอบที่จะถึงนี้ คงเป็นรอบสุดท้ายนอกจากนั้นตัวเลขการปล่อยสินเชื่อเดือนกรกฎาคมของกลุ่มธนาคารทั้งหมด ยังขยายตัวได้ดี คือ ขยายตัว 13.7% เทียบกับเวลาเดียวกันของปีก่อน และ 0.4% เทียบกับเดือนมิถุนายนและตั้งแต่ต้นปี ถึงปัจจุบันสินเชื่อทั้งระบบขยายตัวที่ 8%
แม้ในครึ่งปีหลังอัตราการปล่อยสินเชื่อและส่วนต่างดอกเบี้ย(nim)จะชะลอตัวลงบ้างจากภาวะการเมืองที่ยังวุ่นวายและไม่ลงตัวรวมทั้งการแย่งรักษาฐานเงินออมผ่านการปรับขึ้นดอกเบี้ยเงินฝาก แต่ระดับราคาหุ้นส่วนใหญ่ ปรับตัวลงไปลึกกว่าพื้นฐานที่ควรจะเป็นซึ่งตรงนี้ถือว่ารับข่าวไปมากสำหรับพื้นฐานของอสังหาริมทรัพย์ประเภทสร้างบ้านในครึ่งปีหลัง
หากทิศทางดอกเบี้ยของธนาคารพาณิชย์ขึ้นหลังจากนี้อีกครั้งแล้วยืนทรงตัวไปถึงสิ้นปีก่อน แล้วในปีหน้าปรับตัวลงมา ก็มองว่าจะส่งผลดีต่อผู้ซื้อบ้านรวมทั้งบริษัทในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์เอง
|
|
|
|
|