Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page


ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ
ฉบับ กันยายน 2551








 
นิตยสารผู้จัดการ กันยายน 2551
สามารถฯ หืดขึ้นคอ             
โดย นภาพร ไชยขันแก้ว
 

 
Charts & Figures

เป้าหมายรายได้ของกลุ่มบริษัทสามารถคอร์ป ปี 2551


   
www resources

โฮมเพจ กลุ่มบริษัทสามารถ
โฮมเพจ บริษัท สามารถ ไอ-โมบาย จำกัด (มหาชน)

   
search resources

สามารถคอร์ปอเรชั่น, บมจ.
สามารถ ไอ-โมบาย, บมจ. - SIM
Telecommunications




วัฒน์ชัย วิไลลักษณ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สามารถฯ นำทีมผู้บริหารและบริษัทในเครือ บมจ.สามารถเทลคอม และ บมจ.ไอ-โมบาย เปิดตัวแถลงข่าวผลการดำเนินงานครึ่งปีแรกเมื่อ 14 สิงหาคมที่ผ่านมา เขายอมรับว่าไม่เป็นไปตามเป้าที่วางไว้ เพราะภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวทั่วโลก บวกกับไตรมาสที่ 2 ภาพรวมธุรกิจอยู่ในช่วง low season

บมจ.สามารถคอร์ปอเรชั่นมีผลการดำเนินงานครึ่งปีหลังที่ผ่านมา มีรายได้รวมทั้งสิ้น 7,885 ล้านบาท กำไรสุทธิ 269 ล้านบาท ในขณะที่ไตรมาส 2 มีรายได้รวม 3,666 ล้านบาท กำไรสุทธิ 124 ล้านบาท

ส่วน บมจ.สามารถเทลคอม ครึ่งปีแรกมีรายได้รวม 1,315 ล้านบาท กำไรสุทธิ 75 ล้านบาท ในไตรมาส 2 ปี 2551 มีรายได้รวม 700 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 41 ล้านบาท

ด้าน บมจ.ไอ-โมบาย ครึ่งปีแรกมีรายได้ประมาณ 5,523 ล้านบาท กำไร 181 ล้านบาท ในไตรมาส 2 มีรายได้รวม 2,385 ล้านบาท กำไร 50 ล้านบาท

หลายปีที่ผ่านมารายได้หลักของกลุ่มสามารถจะมาจากธุรกิจกลุ่มไอ-โมบาย จากการจำหน่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงบริการคอนเทนต์ เช่น บริการเพลงผ่านโทรศัพท์มือถือ หรือบริการข้อมูลบัคส์ และบริการ 1900 ที่ให้บริการดูดวงที่ค่อนข้างได้รับความนิยม

กลุ่มธุรกิจไอ-โมบาย จึงเป็นบริษัทที่กลุ่มสามารถฯ คาดหวังรายได้มากที่สุดถึง 80-90 เปอร์เซ็นต์ หรือประมาณ 21,000 ล้านบาทในปีนี้ จากรายได้ของบริษัทในเครือทั้งหมด

ปัจจุบันบริษัทกลับทำรายได้เพียง 5,523 ล้านบาทในช่วงครึ่งปีแรก

หากจะให้ได้ตามเป้านั่นหมายความว่า ไอ-โมบายจะต้องเร่งสร้างรายได้อีก 15,477 ล้านบาท ภายในเวลา 6 เดือนที่เหลือของปีนี้

เหตุที่วัฒน์ชัยตั้งเป้าหมายธุรกิจไอ-โมบายไว้สูง เพราะก่อนหน้านี้ในปี 2549 ไอ-โมบายเคยสร้างรายได้ให้กลุ่มบริษัทได้ถึง 24,600.24 ล้านบาท

ในปีนั้นเช่นกันทำให้กลุ่มสามารถฯ มีรายได้รวมของธุรกิจถึง 31,001.65 ล้านบาท ในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา

เป็นเหตุให้กลุ่มสามารถฯ มองว่ากลุ่มธุรกิจไอ-โมบายน่าจะทำได้อีก โดยเฉพาะปี 2551 เป็นปีทองของธุรกิจไอ-โมบาย โดยเฉพาะในต่างประเทศที่รุกตลาดอย่างต่อเนื่อง ในมาเลเซีย อินโดนีเซีย เวียดนาม บังกลาเทศ ลาว กัมพูชา อินเดีย และในปีนี้ขยายตลาดไปยังประเทศแถบตะวันออกกลาง เอเชียกลาง หรือกลุ่มประเทศโซเวียตเดิม และออสเตรเลียเพิ่มมากขึ้น

ทำให้ขายโทรศัพท์มือถือไอ-โมบายในต่างประเทศได้ถึง 8 แสนเครื่องในปีนี้

ส่วนตลาดรวมที่จำหน่ายได้ในครึ่งปีนี้ประมาณ 2 ล้านกว่าเครื่อง หรือขายในประเทศได้กว่าล้านเครื่อง ทว่า บริษัทกลับไม่ค่อยพอใจกับปริมาณที่ขายได้จำนวนมาก เพราะกำไรของโทรศัพท์ต่อเครื่องกลับลดลง โดยขายราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 2,694 บาทต่อเครื่อง เมื่อเทียบกับปี 50 ราคาโทรศัพท์อยู่ที่ 3,634 บาทต่อเครื่อง

ส่วนราคาจำหน่ายในต่างประเทศปีนี้เฉลี่ย 1,938 บาทต่อเครื่อง เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาขายเครื่องละ 3,168 บาท

ทำให้วัฒน์ชัยต้องปรับแผนธุรกิจใหม่ของไอ-โมบาย ให้เน้นทำกำไรมากขึ้น มากกว่าเน้นจำนวนเครื่อง ซึ่งก่อนหน้านี้บริษัทได้ตั้งเป้าไว้ในปีนี้ถึง 5 ล้านเครื่อง

ความหมายของวัฒน์ชัยก็คือ ไม่ต้องการเน้นปริมาณแต่ได้กำไรน้อย เพราะจะทำให้ทำงานเหนื่อยมากขึ้น

การแก้เกมของกลุ่มไอ-โมบายในครึ่งปีหลังคือ การดึงเครื่องราคาสูงเข้ามาจำหน่าย ด้วยการนำเครื่องพีดีเอราคาระดับหมื่นต้นๆ ซึ่งไอ-โมบายจะเปิดตัวภายใต้ชื่อยี่ห้อใหม่ว่า SENSE ที่เลือกใช้โปรแกรมไมโครซอฟท์วินโดวส์ 6.1 ทำให้มีลูกเล่นมากขึ้น

ส่วนโทรศัพท์มือถือรุ่นใหม่ที่จะเปิดตัวในครึ่งปีหลังอีก 6 รุ่น จะเน้นรุ่นที่สามารถรับโทรทัศน์ฟรีทีวีได้เป็นหลัก และจำหน่ายในราคาเฉลี่ยประมาณ 5-6 พันบาท

นอกเหนือจากธุรกิจไอ-โมบายแล้ว สามารถฯ ได้ตั้งเป้าหมายรายได้จากกลุ่มสามารถเทลคอม น่าจะมีรายได้ในปีนี้ 5 พันล้านบาท จากครึ่งปีแรกมีรายได้ 1,315 ล้านบาท ซึ่งยังขาดตัวเลขเบ็ดเสร็จอีกประมาณ 3,865 ล้านบาท

กลุ่มสามารถฯ คาดหวังโครงการประมูลใหม่ของภาครัฐในครึ่งปีหลังที่มีมูลค่ารวม 1 หมื่นล้านบาท เช่น โครงการระบบสื่อสารมหาดไทยมูลค่า 1 พันล้านบาท หรือโครงการของกระทรวงกลาโหมและภาครัฐอื่นๆ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นกลุ่มลูกค้าที่สามารถฯ ให้บริการอยู่แล้ว

แม้ว่ากลุ่มสามารถฯ จะชนะโครงการประมูลก็ตาม แต่รายได้จะรับรู้ในอีก 2 ปีข้างหน้า

ส่วนสาย Technology Related คาดหวังรายได้ประมาณ 4 พันล้านบาท และจากรายงานตัวเลขของบริษัทแคมโบเดีย แอร์ ทราฟฟิค เซอร์วิสเซส จำกัด ให้บริการศูนย์ควบคุมจราจรทางอากาศในประเทศกัมพูชา ในไตรมาส 2 มีรายได้ 174 ล้านบาท หรือมีจำนวนเที่ยวบินเพิ่มขึ้น 15 เปอร์เซ็นต์ และคาดว่ารายได้จะเพิ่มขึ้นอีกหลังจากที่เดือนกรกฎาคมที่ผ่านมาได้ปรับค่าบริการเพิ่มขึ้นอีก 15 เปอร์เซ็นต์

บริษัท Kampot Power Plant จำกัด ผู้ผลิตไฟฟ้าป้อนโรงงานปูนซิเมนต์ไทย ประเทศกัมพูชา มีรายได้ครึ่งปีแรก 100 ล้านบาท ส่วนบริษัท วันทูวัน คอนแทคส์ จำกัด ให้บริการคอลล์เซ็นเตอร์ มีรายได้รวม 221 ล้านบาท

หลังจากที่กลุ่มสามารถฯ พลาดเป้ารายได้ในครึ่งปีแรกไปพอสมควร ทำให้บริษัทหันมาทุ่มเทเร่งยอดตัวเลขรายได้ในครึ่งปีหลังทดแทน เพราะบริษัทมองว่า ช่วงครึ่งปีหลังเป็นช่วงของ high season ที่จะมีการใช้เงินเพิ่มมากขึ้น

ทว่า high season ปีนี้จะเป็นปีทองของกลุ่มสามารถฯ จริงหรือไม่ ผู้บริหารน่าจะรู้ดีกว่าใคร เพราะ high season อาจจะต้องบวกกับวิชั่นด้วยหรือไม่?   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us