|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ ฉบับ กันยายน 2551
|
|
นมแคลเซียมสูงของทุกยี่ห้อ หลายขนาดที่วางอยู่บนชั้นวางของในซูเปอร์มาร์เก็ตหรือตามร้านสะดวกซื้อ แสดงให้เห็นว่า การแข่งขันตลาดนี้ยังมีสูง เป็นตลาดที่มีมูลค่ารวม 1,600 ล้านบาท ทำให้ล่าสุด แอนลีน หนึ่งในผู้ผลิตนมแคลเซียมใช้จุดขายที่เรียกว่า "นวัตกรรม"
นมยี่ห้อแอนลีนที่มีสำนักงานใหญ่อยู่ในประเทศนิวซีแลนด์ ประเทศที่ส่งออกนมระดับต้นๆ ของโลก ใช้เงินวิจัยและพัฒนาสูตรนมแคลเซียมสูงขึ้นมาเรียกว่า "แคลเซียม-10" เป็นนวัตกรรมใหม่ล่าสุดของบริษัทฟอนเทียร่า ที่ชี้ให้เห็นถึงความแตกต่างระหว่างนมแคลเซียม และนมแคมเซียมสูงที่มีอยู่ในปัจจุบัน
แคลเซียม-10 เป็นการพัฒนาจากนาโนเทคโนโลยี ทำให้นมมีโมเลกุลขนาดเล็กลงเหลือ 200 นาโนเมตร แตกต่างจากนมทั่วไปที่มีโมเลกุล 2,000 นาโนเมตร หรือมีขนาดโมเลกุลที่ต่างจากนมทั่วไป 10 เท่า
แอนลีนพยายามชี้ให้เห็นว่า แคลเซียม-10 ที่มีโมเลกุลขนาดเล็ก ทำให้มีการดูดซึมเข้าไปถึงกระดูกชั้นใน เพราะลลนา บุญงามศรี ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท ฟอนเทียร่า แบรนด์ส (ประเทศไทย) จำกัด บอกว่า กระดูกของคนมี 2 ชั้น ชั้นนอกสุด จะแข็ง แต่ข้างในกระดูกจะเปราะบางกว่า
ซึ่งการแข่งขันด้วยงานวิจัยและนวัตกรรมเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาสินค้า และแอนลีนบอกว่า เป็นบริษัทแรกที่เปิดตัวด้วยกลยุทธ์นี้
ประเทศไทยเป็นประเทศที่ 4 ที่เปิดตัวแอนลีน แคลเซียม-10 ต่อจากประเทศสิงคโปร์ มาเลเซีย และอินโดนีเซีย ซึ่งการเปิดตัวตลาดในแต่ละประเทศขึ้นอยู่กับความพร้อมของบริษัท
บริษัทฟอนเทียร่าใช้งบประมาณ 120 ล้านบาท สำหรับแอนลีน แคลเซียม-10 จัดกิจกรรมและโฆษณา เพื่อเน้นกลุ่มผู้หญิง วัยทำงาน เป็นกลุ่มที่รักษาสุขภาพและมีกำลังซื้อ
สำหรับกิจกรรมที่จะมีให้เห็นบ่อยมากขึ้นเหมือนเช่นในวันเปิดตัวแอนลีน คือการใช้เครื่องมือวัดมวลกระดูกที่ส้นเท้า เป็นกระดูกที่คล้ายคลึงกับกระดูกสันหลัง กระดูกสะโพก ซึ่งเป็นตำแหน่งที่มีการหัก เนื่องจากกระดูกพรุนมากที่สุด และเครื่องมือ ที่วัดกระดูกจะใช้เทคโนโลยีอัลตราซาวด์ ซึ่งกิจกรรมนี้จะร่วมมือกับโรงพยาบาลและห้างสรรพสินค้า
การทำตลาดในครั้งนี้ บริษัท ฟอนเทียร่า คาดหวังจะมีส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มเป็น 55 เปอร์เซ็นต์ จากเดิม 51 เปอร์เซ็นต์
จากการสำรวจมูลค่าตลาดนมแคลเซียมสูงของเอซี เนลสัน พบว่ามีมูลค่ารวม 1,600 ล้านบาท แบ่งเป็น 3 ส่วน ส่วนแรก ยูเอชที มีมูลค่า 1,000 ล้านบาท สัดส่วนประมาณ 65 เปอร์เซ็นต์ ด้านนมผง มีมูลค่า 400 ล้านบาท สัดส่วนประมาณ 25 เปอร์เซ็นต์ และโยเกิร์ตพร้อมดื่ม มีมูลค่า 200 ล้านบาท หรือเป็นสัดส่วนประมาณ 10 เปอร์เซ็นต์
ส่วนนมแอนลีน แคลเซียม-10 บริษัทได้ปรับสูตรใหม่และวางจำหน่ายในตลาดแล้วในปัจจุบัน มีทั้งรูปแบบของนมผง นมยูเอชที โยเกิร์ตพร้อมดื่ม นมถั่วเหลือง และนมยูเอชทีสูตรเข้มข้น
ด้านราคา ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บอกว่า ยังจำหน่ายในราคาเดิม แม้ว่าต้นทุนของวัตถุดิบมีราคาสูงขึ้น บริษัทยอมรับภาระ เพราะจากการประเมินเศรษฐกิจในปัจจุบัน ราคาเป็นเรื่องที่อ่อนไหวต่อการตัดสินใจซื้อของลูกค้า และเธอไม่สามารถเปิดเผย ได้ว่า ราคาใหม่จะปรับขึ้นเมื่อใด แต่ไม่ใช่ในปีนี้อย่างแน่นอน
สุภาพร อร่ามทิพย์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ฟอนเทียร่าแบรนด์ส (ประเทศไทย) จำกัด แนะนำวิธีการดื่มนมว่า ต้องดื่มประมาณวันละ 2 กล่อง ติดต่อกันอย่างน้อย 6 เดือนหรือ 1 ปี จึงจะเห็นผล เห็นความแข็งแรงของกระดูก หากไม่ดื่มติดต่อกัน หรือเว้นช่วงระยะเวลา การดื่มนมก็ไม่มีประสิทธิผลแต่อย่างใด
อย่างนี้ก็แสดงให้เห็นว่า แม้นวัตกรรมจะพัฒนาแคลเซียมให้เล็กไปมากที่สุดเพียงใด หากไม่มีวินัยในการดื่มนมก็คงไม่มีความหมายอะไรนัก
|
|
|
|
|