|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
เอสแอนด์พี เปิดแผนลุยขยายสาขาทุกแบรนด์ทั้งในและต่างประเทศ รักษาการเติบโตปีละ 15% หวังปีนี้กวาด 4,600 ล้านบาท ทุ่ม 70 ล้านบาท เปิดสาขาในแดนมังกร-ปลาดิบ ปีหน้าเตรียมรุกตลาดอาหารพร้อมทานเต็มสูบ เร่งโกยยอดช่วงเทศกาลขนมไหว้พระจันทร์มูลค่า 500 ล้านบาท หลังครึ่งปีแรกการเติบโตพลาดเป้า
นายประเวศวุฒิ ไรวา กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เอส แอนด์ พี ซินดิเคท จำกัด (มหาชน) ผู้ดำเนินธุรกิจร้านอาหารและเบเกอรี่ “เอสแอนด์พี” เปิดเผยว่า แผนการทำตลาดเพื่อรักษาการเติบโตปีละ 15% บริษัทมุ่งเน้นขยายสาขาต่อเนื่องตามแผน 30 สาขาต่อปี ใช้งบ 150 ล้านบาท จากปัจจุบันมีราว 300 แห่ง โดยจะมุ่งเน้นตลาดต่างจังหวัด เนื่องจากมีศักยภาพที่จะเติบโต ซึ่งปีนี้ได้เปิดสาขาเกิน 50%
พร้อมเตรียมขยายตลาดต่างประเทศ ซึ่งมีหลากหลายแบรนด์ อาทิ ภัทรา พาทิโอ เป็นต้น โดยได้ทุ่มงบ 70 ล้านบาท ร่วมกับพันธมิตรท้องถิ่นดำเนินธุรกิจ แบ่งเป็นงบ ลงทุนในจีน 20 ล้านบาท และญี่ปุ่น 50 ล้านบาท โดยตั้งเป้าเปิดสาขาต่างประเทศ 1 สาขา ต่อปี ซึ่งปีนี้วางแผนเปิดสาขาในจีน จากปัจจุบันบริษัทขยายสาขา 4 ประเทศ ได้แก่ อังกฤษ สวิตเซอร์แลนด์ สิงคโปร์ ไต้หวัน มีทั้งหมด 20 สาขา หรือคิดเป็นสัดส่วนรายได้ 20 % ส่วนในประเทศ 80%
นอกจากนี้ยังขยายสาขาร้านวานิลา ซึ่งเจาะกลุ่มเป้าหมายคนรุ่นใหม่เพิ่ม 1 สาขา ที่ เซ็นทรัลเวิลด์ จากปัจจุบันมี 4 แห่ง ตลอดจนมุ่งเน้นสินค้าพร้อมทานให้มากขึ้น เพื่อรองรับกับพฤติกรรมของผู้บริโภคที่มีความเร่งรีบในชีวิตต้องการสินค้าที่ตอบสนองความต้องการได้อย่างรวดเร็ว โดยปีหน้านี้สินค้าใหม่เปิดตัวลงสู่ตลาด เพื่อเพิ่มความหลากหลาย ช่วง 4 เดือนที่เหลือ จะมุ่งโฆษณาเชิงคอร์เปอเรตแบรนด์เชิงรุก
ล่าสุดในช่วงเทศกาลขนมไหว้พระจันทร์ ซึ่งในช่วง 1 เดือนมีมูลค่าตลาด 500 ล้านบาท จะใช้ 2 กลยุทธ์ คือ การเพิ่มรสชาติและพัฒนาสูตรใหม่ และการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย โดยบริษัทได้รีแบรนด์ดิ้ง “มังกรทอง”ใหม่ ซึ่งเป็นแบรนด์ที่มีอายุ 70-80 ปี เพื่อให้มีความทันสมัยมากขึ้น แต่ยังคงเน้นกลิ่นอายความเป็นจีน เจาะกลุ่มพรีเมียมวางราคาสูงกว่าขนมไหว้พระจันทร์เอสแอนด์พี 2 บาท เนื่องจากมีกลุ่มเป้าหมายแตกต่าง โดยเอสแอนด์พีเจาะกลุ่มเป้าหมายครอบครัว
นายประเวศวุฒิ กล่าวว่า ปีนี้บริษัทได้ปรับราคาขนมไหว้พระจันทร์ขึ้น 5% เพราะต้นทุนการผลิตปรับเพิ่มขึ้น ส่วนในอนาคตบริษัทวางแผนจะทำตลาดขนมไหว้พระจันทร์ให้เป็นสินค้าที่จำหน่ายได้ตลอดทั้งปี ไม่เฉพาะแค่ในช่วงฤดูกาลขายเท่านั้น คือระหว่างเดือนสิงหาคม-ตุลาคม สำหรับปีนี้สถานการณ์การแข่งขันไม่มีความรุนแรง เนื่องจากมีผู้ประกอบการหลายรายเลิกทำตลาดไป เนื่องจากตลาดมีอัตราการเติบโตเพียง 10% เมื่อเทียบกับช่วงหลายปืที่ผ่านมาเติบโต 20%
“ปัญหาการเมืองที่เกิดขึ้นในขณะนี้ ส่งผลให้ยอดขายของเอสแอนด์พีลดลง โดยพบว่าในช่วง 21.00 น. ปริมาณลูกค้าที่เข้าร้านลดลง ถึงแม้ว่าจะมีการทำโปรโมชัน หรือลดราคาก็ไม่ได้ผล อย่างไรก็ตามภาพรวมรายได้ในช่วง 8 เดือน ถือว่าดีมาก สำหรับยอดขายขนมไหว้พระจันทร์มังกรทองปีนี้ตั้งโต 5% หรือ 5 แสนก้อน จากปีที่ผ่านมามี 4 แสนก้อน โดยมีรายได้ 35 ล้านบาท ส่วนแบรนด์เอสแอนด์พีโต 10-20% ยอดขาย 2 ล้านก้อน”
ผลประกอบการในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมาบริษัทมีอัตราการเติบโต 12-13% ต่ำกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ ขณะที่กำไรมีอัตราการเติบโตเกือบ 100% อย่างไรก็ตามจากการดำเนินการตลาดเชิงรุก บริษัทตั้งเป้ามีอัตราการเติบโต 15% หรือมีรายได้ 4,600 ล้านบาท ในสิ้นปีนี้เป็นไปตามเป้าหมาย จากปีที่ผ่านมามีรายได้ 4,000 ล้านบาท ทั้งนี้แบ่งเป็นรายได้ ธุรกิจร้านอาหารและเบเกอรี่ 80% ที่เหลือ 20% การนำสินค้าเอสแอนด์พีเข้าไปจำหน่ายตามซูเปอร์มาร์เก็ต
|
|
|
|
|