Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน29 สิงหาคม 2551
เบอร์ลี่ฯบุกตปท.แย้มแผนเพิ่มทุน             
 


   
www resources

โฮมเพจ เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ กรุ๊ป

   
search resources

เบอร์ลี่ ยุคเกอร์, บมจ.
Consumer Products




"เบอร์ลี่ ยุคเกอร์" แย้มกำลังศึกษาเพิ่มทุนจดทะเบียน หวังเพิ่มสภาพคล่องหุ้น-ระดมเงินขยายธุรกิจ และรองรับแผนลงทุนในเวียดนาม พร้อมเตรียมผลักดันสินค้าที่ได้เครื่องหมายการค้า "ฮาลาล" จากโรงงานในประเทศมาเลเซีย เจาะตลาดตะวันออกกลาง ขณะที่ผู้บริหาร มั่นใจรายได้โต 10% จากปีก่อน 1.93 หมื่นล้านบาท แจงครึ่งปีหลังยังไม่ปรับราคาสินค้า

นายอัศวิน เตชะเจริญวิกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BJC เปิดเผยว่า บริษัทอยู่ระหว่างการศึกษาที่จะมีการเพิ่มทุนจดทะเบียน เพื่อเพิ่มปริมาณหุ้นหมุนเวียนในตลาด (ฟรีโฟลท) และดึงความสนใจให้นักลงทุนเข้ามาซื้อขายหุ้นของบริษัทมากขึ้น จากปัจจุบันบริษัทมีฟรีโฟลทอยู่ประมาณ 15% รวมทั้งจะนำเงินที่ได้จากการระดมทุนไปใช้ในการขยายธุรกิจในอนาคต โดยคาดว่าจะสามารถสรุปรายละเอียดได้ภายในไตรมาส 3/51 นี้

สำหรับแผนการขยายธุรกิจนั้น ขณะนี้บริษัทศึกษาที่จะเข้าไปลงทุนในประเทศเวียดนามหลายโครงการ เช่น การลงทุนเครื่องจักร มูลค่าการลงทุนรวมประมาณ 1,000 ล้านบาท เพื่อที่จะผลิตขวดแก้ว หลังจากบริษัทได้มีการลงทุนสร้างโรงงาน และโกดัง แล้วเมื่อ 10 ปีที่ผ่านมา รวมถึงโครงการอื่นๆ เช่น โครงการผลิตกระดาษชำระ สินค้าขนมขบเคี้ยวในประเทศเวียดนาม เพื่อที่จะเป็นฐานในการส่งสินค้าของบริษัทไปจำหน่ายที่ประเทศเวียดนาม ลาว กัมพูชา เพราะมีประชากรรวมกัน 3 ประเทศกว่า 100 ล้านคน

ส่วนลักษณะของการลงทุนในเวียดนาม บริษัทจะมีการดำเนินการร่วมกับพันธมิตร เพื่อเป็นการกระจายความเสี่ยง และช่วยในการนำสินค้าของบริษัทไปจำหน่ายสินค้าของบริษัทมากขึ้น ซึ่งอาจจะเป็นพันธมิตรในประเทศเวียดนาม หรือประเทศอื่น แต่บริษัทจะยังคงเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ ซึ่งจะสรุปได้ในไตรมาส3/51

"จากการที่เวียดนามมีปัญหาเศรษฐกิจ ในเรื่องค่าเงินอ่อน เงินเฟ้อที่สูง นั้นกลุ่มของบริษัทนั้นมองว่าเป็นโอกาสที่บริษัทจะเข้าไปลงทุน และมีศักยภาพในการเติบโตจากที่มีกำลังซื้อสินค้าและจะใช้เป็นฐานการผลิตเพื่อที่จะส่งออกไปประเทศลาวกัมพูชา" นายอัศวิน กล่าว

นอกจากนี้ การที่บริษัทไปซื้อ Jacy Foods Sdn. Bhd. ซึ่งเป็นบริษัทผลิตและจัดจำหน่ายมันฝรั่งทอดกรอบและขนมขึ้นรูป ที่ประเทศมาเลเซียโรงงานผลิตขนมขบเขี้ยวที่ประเทศมาเลเซีย เมื่อเดือนมิถุนายน2551 ซึ่งมียอดขายในประเทศมาเลเซีย และสิงคโปร์ ประมาณ 200 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างศึกษาที่มีการปรับสัญญาการรับจ้างผลิตขนมคาร์บี้ และวอทย์ เพื่อที่จะให้มีรายได้และกำไรที่เพิ่มขึ้นและจากกำลังการผลิตของโรงงานที่เหลือนั้นบริษัทมีแผนที่จะจะนำสินค้าขนมขบเคี้ยวของบริษัทไปผลิตที่มาเลเซีย และจากการที่โรงงานดังกล่าวได้รับเครื่องหมายฮาลาล ทำให้บริษัทสามารถที่จะส่งสินค้าไปจำหน่วยในแถบตะวันออกลางได้ ซึ่งเป็นตลาดที่ใหญ่มาก ซึ่งคาดว่าจะสรุปได้ในไตรมาส 3 ปีนี้เช่นกัน

นายอัศวิน กล่าวว่า บริษัทคาดว่ารายได้รวมของบริษัทปีนี้จะเพิ่มขึ้นประมาณ 10% จากปีที่ผ่านมาที่มีรายได้ 19,398.98 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 1,386.76 ล้านบาท โดยครึ่งปีแรกบริษัทมีรายได้รวม 10,966.70 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 765.23 ล้านบาท และบริษัทเชื่อว่าในช่วงครึ่งปีหลังกำไรของบริษัทจะตเติบโตในระดับที่ดี เพราะ ในช่วงไตรมาส4 จะเป็นช่วงที่บริษัทมียอดจำหน่ายขวดแก้วที่สูงที่สุด จากความต้องการใช้ที่สูง

ทั้งนี้ จากการที่บริษัทประกอบธุรกิจจำหน่ายสินค้าอุปโภคและบริโภคนั้นนยอดขายขึ้นอยู่กับปัจจัยเศรษฐกิจ ซึ่งหากเศรษฐกิจไม่ดีก็จะมีผลกระทบต่อกำลังซื้อของประชาชน ซึ่งจะต้องมีการติดตรมเรื่องเศรษฐกิจการเมืองอย่างใกล้ชิด แต่บริษัทก็จะพยายามรักษาอัตรากำไรขั้นต้นปีนี้อยู่ที่ระดับ 25% โดยในช่วงครึ่งปีหลังบริษัทจะยังไม่มีการปรับราคาสินค้าเพิ่ม เพราะ ช่วงเดือนมิถุนายน บริษัทเพิ่งปรับราคาสินค้าขวดแก้วเพิ่มขึ้นประมาณ 10% สินค้าอุปโภคบริโภค 5-10%

"ยอดขายปีนี้ของบริษัทอยู่ที่ระดับ 2 หมื่นล้านบาท นั้น ซึ่งมีสัดส่วนการส่งออกที่น้อยมากประมาณ 5% ที่เหลือจำหน่ายในประเทศ จากการที่บริษัทศึกษาจะไปลงทุนในต่างประเทศ เพื่อจะมีการขยายการจำหน่ายสินค้าในประเทศต่างๆนั้น ขณะนี้บริษัทยังไม่สามารถประเมินได้ว่าจะทำให้สัดส่วนกรส่งออกของบริษัทเพิ่มขึ้นเท่าไร ซึ่งคาดว่าจะมีความชัดเจนในไตรมาส3ปีนี้ ส่วนเงินที่ได้จากการขายหุ้นกู้จำนวน 3,030 ล้านบาท บริษัทได้มีการนำไปขยายธุรกิจหมดแล้ว"นายอัศวิน กล่าว   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us