Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน28 สิงหาคม 2551
BCPทุ่มหมื่นล.ผุดโครงการใหม่ ลดเสี่ยงค่าการกลั่น-ต่อยอดธุรกิจ             
 


   
www resources

โฮมเพจ บางจากปิโตรเลียม

   
search resources

บางจากปิโตรเลียม, บมจ.
Oil and gas




บางจากฯ แย้มแผนลงทุนโครงการต้นน้ำ 3 โครงการ มูลค่ารวม 1 หมื่นล้านบาท เพื่อต่อยอดธุรกิจและลดความเสี่ยงด้านการกลั่น โดยนำมาจากทุนหมุนเวียน 6 พันล้านบาท และกู้อีก 4 พันล้านบาท เผยครึ่งปีหลังนี้ ค่าการกลั่นต่ำกว่าครึ่งปีแรกที่ 7.97 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล หลังจากราคาน้ำมันอ่อนตัวลง และทำเฮดจิ้งน้ำมันไตรมาสนี้ 22% ของกำลังการกลั่น แม้ไตรมาส 2/51 จะขาดทุนจากการทำเฮดจิ้งไปแล้ว 353 ล้านบาท

นายปฏิภาณ สุคนธมาน รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานด้านบัญชีและการเงิน บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ BCP เปิดเผยถึง แผนการลงทุนของบริษัท 5 ปีข้างหน้า (2551-2555) ว่า ขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างการศึกษาลงทุนโครงการต้นน้ำ (UP STEAM) นอกเหนือจากโครงการผลิตไบโอดีเซล เพื่อมาลดความเสี่ยงธุรกิจการกลั่น จำนวน 3 โครงการ มูลค่าการลงทุนรวม 10,000 ล้านบาท โดยมีแหล่งเงินทุนจากทุนหมุนเวียนของบางจากประมาณ 6,000 ล้านบาท ส่วนที่เหลือจะกู้จากสถาบันการเงินอีก 4,000 ล้านบาท

สำหรับโครงการลงทุนอัพ สตรีมดังกล่าว จะมีความเกี่ยวข้องกับพลังงานทดแทน ที่เป็นการเข้ามาต่อยอดและลดความเสี่ยงธุรกิจการกลั่นน้ำมัน และเพิ่มโอกาสในการสร้างรายได้ของบางจากฯด้วย ซึ่งที่ผ่านมายังไม่มีโรงกลั่นในไทยลงทุน

"การรีไฟแนนซ์หนี้บางจากฯ ในช่วงกลางปีนี้ ทำให้ภาระหนี้ที่ต้องชำระภายใน 6 ปี ยืดออกไปเป็น 9 ปี ส่งผลให้บริษัทฯมีกระแสเงินสดเหลือเพียงพอที่จะลงทุนโครงการต่างๆ ดังกล่าวข้างต้น"

ส่วนแนวโน้มค่าการกลั่นน้ำมันในครึ่งปีหลังนั้น บางจากฯ คาดว่าจะมีค่าการกลั่นต่ำกว่า 7.97 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล (ไม่รวมผลกระทบจากสต็อกน้ำมัน) ซึ่งต่ำกว่าค่าการกลั่นครึ่งปีแรก 2551 เนื่องจากราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลง อย่างไรก็ตาม หากโครงการปรับปรุงคุณภาพน้ำมัน (PQI) ซึ่งดำเนินการไปแล้ว 96% และแล้วเสร็จในปลายปีนี้ โรงกลั่นบางจากฯจะมีค่าการกลั่นอยู่ที่ระดับ 8-9 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล เนื่องจากปริมาณน้ำมันเตาที่ผลิตได้ลดลง

ขณะที่การกลั่นน้ำมันบางจากฯ ในครึ่งปีหลังจะอยู่ที่ 8 หมื่นบาร์เรล/วัน ต่ำกว่าไตรมาส 2 นี้ที่กลั่นน้ำมันเฉลี่ย 8.3 หมื่นบาร์เรล/วัน ทั้งปี 2551 โรงกลั่นบางจากฯกลั่นน้ำมันเฉลี่ย 7.7 หมื่นบาร์เรล/วัน ซึ่งไตรมาส 3 นี้บริษัทฯ ยังมีการทำประกันความเสี่ยงน้ำมันสำเร็จรูป (เฮดจิ้ง) ที่ 22%ของกำลังการกลั่น เพื่อรักษามาร์จินไม่ให้ผันผวน แม้ว่าไตรมาส 2/2551 บริษัทฯจะขาดทุนจากการทำเฮดจิ้งน้ำมันถึง 353 ล้านบาทก็ตาม

ส่วนโครงการก่อสร้างหน่วยผลิตไบโอดีเซล 3 แสนลิตร/วัน โดยใช้น้ำมันปาล์มดิบเป็นวัตถุดิบในการผลิต ที่คลังน้ำมันบางปะอิน จ.อยุธยา คาดว่าจะดำเนินการผลิตได้กลางปีหน้า

ด้านผลการดำเนินงานในไตรมาส 2 บางจากและบริษัทย่อย มีกำไรสุทธิ 1,846 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 2/2550 ที่มีกำไรสุทธิ 881 ล้านบาท ซึ่งกำไรที่เพิ่มขึ้นมาจากราคาน้ำมันตลาดโลกที่ปรับขึ้นสูงมาก ทำให้โรงกลั่นมีผลประกอบการดีมาก โรงกลั่นบางจากมีค่าการกลั่นอยู่ 7.97 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีค่าการกลั่นเพียง 3.24 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล เป็นผลจากส่วนต่างราคาน้ำมันดีเซลเทียบน้ำมันดิบดูไบเฉลี่ยสูงถึง 37 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล

รวมทั้ง บริษัทฯ มีการส่งออกน้ำมันเตาไปยังญี่ปุ่นและจีนในราคาที่สูงกว่าราคาเฉลี่ยน้ำมันเตาที่ตลาดสิงคโปร์บาร์เรลละ 10 เหรียญสหรัฐ ส่งผลให้ไตรมาส 2 นี้บางจากฯกลั่นน้ำมันสูงเป็นประวัติการณ์ถึง 8.36 หมื่นบาร์เรล/วัน เทียบจากไตรมาส 2/2550 ที่กลั่นเพียง 7.38 หมื่นบาร์เรล/วัน แต่ตลาดค้าปลีกน้ำมันประสบปัญหาการขาดทุนค่าการตลาด เนื่องจากไม่สามารถปรับราคาขายได้ทันต้นทุนที่แท้จริง

อย่างไรก็ตาม จากนโยบายบางจากฯ ที่ต้องการเป็นผู้นำพลังงานทดแทน เช่น แก๊สโซฮอล์และไบโอดีเซล ทำให้ไตรมาส 2/2551 ส่วนแบ่งการตลาดน้ำมันบางจากขยับขึ้นมาเป็นอันดับ 2 อยู่ที่ 14.6% แซงหน้าเอสโซ่และเชลล์ แต่หากพิจารณาส่วนแบ่งตลาดครึ่งปีแรก 2551 บางจากฯมีส่วนแบ่งการตลาดที่ 14.1% ครองอันดับ 4

"ธุรกิจค้าปลีกน้ำมันบางจากฯในปีนี้บริษัทฯเชื่อว่าทั้งปีไม่ติดลบ เพราะช่วงก.ค.-ส.ค.นี้ มีกำไรก่อนหักดอกเบี้ย ค่าเสื่อมและภาษีเดือนละ 200 กว่าล้านบาท เนื่องจากค่าการตลาดดีขึ้นเป็นผลจากราคาน้ำมันโลกที่ปรับตัวลงมา"

นายปฏิภาณ กล่าวว่า สิ่งที่น่าเป็นห่วงขณะนี้ คือราคาส่วนต่างระหว่างเบนซิน 95 กับน้ำมันดิบดูไบพบว่าต่ำมากเพียง 2 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ทำให้โรงกลั่นบางแห่งที่กลั่นน้ำมันเบนซิน 95 ได้จำนวนมากประสบปัญหาค่าการกลั่นต่ำ และการทำตลาดได้ ขณะที่โรงกลั่นบางจากฯนั้นไม่กระทบมาก เนื่องจากกลั่นเบนซิน 95 ได้จำนวนไม่มาก

ส่วนธุรกิจการกลั่นในปี 2552 ไม่ค่อยสดใส เนื่องจากปลายปีนี้จะมีโรงกลั่นแห่งใหม่ขนาด 6 แสนบาร์เรล/วันที่อินเดีย ผลิตเชิงพาณิชย์ ทำให้กระทบด้านราคาได้   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us