Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน20 สิงหาคม 2551
ศก.จีน-อินเดียกระเตื้อง กองทุนชี้ใกล้เวลาหุ้นดีด             
 


   
search resources

Investment




ผู้บริหาร บลจ. มองตลาดหุ้น จีน อินเดีย ถึงเวลาดีดตัวกลับหลังราคานํ้ามันในตลาดโลกลง ขณะเดียวกัน พื้นฐานทางเศรษฐกิจของ 2 ประเทศที่แข็งแกร่งทำให้ได้รับผลกระทบจากกรณีซัพไพรม์น้อยมาก โดยเฉพาะจีน คาดว่าหลังกีฬาโอลิมปิก เศรษฐกิจและอุตสาหรรมภายในประเทศจะดีขึ้น ส่วนอินเดีย ได้รับปัจจัยที่สำคัญคือการย้ายฐานการผลิต อีกทั้งราคาหุ้นถูกจะช่วยดึงเงินทุนต่างแดนไหลเข้าประเทศ

นายธีรนาถ รุจิเมธาภาส รองกรรมการผู้จัดการ หัวหน้าธุรกิจกองทุนรวมและกองทุนส่วนบุคคล บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ทิสโก้ จำกัด กล่าวว่า จากภาวะราคานํ้ามันที่ปรับตัวลดลงมานั้น ช่วยส่งผลดีต่อเศรษฐกิจของประเทศต่างๆ โดยเฉพาะประเทศในเอเชียอย่างจีนกับอินเดีย ซึ่งเป็นประเทศที่ใหญ่และมีการเข้ามาลงทุนมากในตลาดหุ้น

ทั้งนี้ในช่วงที่ผ่านมาประเทศในแถบเอเชียได้รับผลกระทบจากเรื่องของปัญหาซัพไพรม์ในสหรัฐอเมริกา รวมทั้งเรื่องของราคานํ้ามัน และปัญหาเงินเฟ้อ ซึ่งส่งผลให้เศรษฐกิจทั่วโลกชะลอตัวลงมา ดังนั้นจึงส่งผลให้ตลาดหุ้นของประเทศต่างๆในเอเชียปรับตัวลดลงมาอย่างมาก โดยเฉพาะในส่วนของประเทศอินเดียดัชนีตลาดหุ้นมีการปรับตัวลดลงแล้วมากว่า 30% แต่ในขณะนี้ที่ราคาน้ำมันทั่วโลกปรับตัวลดลงมาจึงทำให้ตลาดหุ้นในเอเชียปรับตัวดีขึ้น ซึ่งประเทศอินเดียได้มีการคาดการณ์ว่าตลาดหุ้นในประเทศมีการปรับตัวลดลงมาอยู่ในระดับที่ตํ่าสุดแล้วและน่าจะกลับมาฟื้นตัวได้

ขณะเดียวกัน บรรดาสื่อมวลชนในต่างประเทศเองยังมองว่าเศรษฐกิจของประเทศอินเดีย รวมทั้งในส่วนของตลาดหุ้นมีแนวโน้มที่จะกลับมาดีดตัวขึ้นอีกครั้ง โดยมีปัจจัยทางเศรษฐกิจที่สำคัญคือการมีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศที่อยู่ในระดับสูงอยู่ซึ่งส่งผลไปถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่จะเข้าไปลงทุน

นอกจากนี้ อีกปัจจัยหนึ่งที่สำคัญคือ เศรษฐกิจของอินเดียในช่วงที่ผ่านมา ได้รับประโยชน์จากการย้ายฐานการผลิตจากต่างประเทศ หรือ เอาต์ซอร์ซ (Outsource) เข้าในในอินเดียเป็นจำนวนมาก โดยมีประเทศสหรัฐฯและยุโรปเป็นหลัก ดังนั้นการที่เศรษฐกิจของสหรัฐและยุโรปมีการปรับตัวลงมาจึงส่งผลโดยตรงต่อเรื่องดังกล่าว แต่หากเศรษฐกิจของสหรัฐกับยุโรปกลับมาฟื้นตัวแล้ว เรื่องของ เอาต์ซอร์ซ จากประเทศดังกล่าวน่าจะกลับเข้าไปในอินเดียมากขึ้น

ส่วนประเทศจีนนั้น เศรษฐกิจของประเทศมีความแน่นอนกว่าว่าจะมีอัตราการเติบโตอยู่ในระดับที่สูง ซึ่งหลังจาการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกจบลงเศรษฐกิจของจีนมีแนวโน้มว่าจะดีขึ้น รวมถึงในส่วนของอุตสาหรรมต่างๆภายในประเทศจีนดีขึ้นไปด้วย

นายธีรนาถ ยังกล่าวต่อว่า เศรษฐกิจของทั้งประเทศจีนและอินเดียล้วนพื้นฐานทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง ดังนั้นแล้วผลกระทบทางเศรษฐกิจที่ทั้ง 2 ประเทศนี้ได้รับจากทางสหรัฐอเมริกาและยุโรป นั้นจึงอยู่ในระดับที่ตํ่า ขณะเดียวกัน สภาพเศรษฐกิจโดยรวมของเอเชียนั้นเป็นลักษณะของการพึ่งพาตนเองเป็นหลัก ทำให้เมื่อเศรษฐกิจได้รับผลกระทบแล้ว การฟื้นตัวของแต่ละประเทศจึงขึ้นอยู่กับว่าประเทศไหนจะฟื้นตัวก่อนกัน

ส่วนแนวโน้ม การลงทุนในอินเดียกับจีน ใน 2 ไตรมาสสุดท้ายของปีนี้มองว่าน่าจะมีทิศทางที่ดี เพราะภาวะตลาดหุ้นของทั้งจีนและอินเดียตกลงมาอยู่ในระดับที่มีความน่าสนใจ จึงเชื่อว่าน่าจะมีเงินเข้าไปลงุทนในช่วงนี้มาก

นาย วจนะ วงศ์ศุภสวัสดิ์ ผู้จัดการกองทุน บลจ. ธนชาต จำกัด เปิดเผยว่า แนวโน้มเศรษฐกิจของประเทศจีนในครึ่งปีหลังจะปรับตัวดีขึ้นจากที่ผ่านมา เนื่องจากขณะนี้เศรษฐกิจจีนเกิดการชะลอตัว อันเป็นผลมาจากการลดปริมาณการนำเข้าเพื่อทำการลดปริมาณมลพิษ ในช่วงที่มีการแข่งขันโอลิมปิค แต่หลังจากที่การแข่งขันจบลงไปแนวโน้มการบริโภคหรือการนำเข้าของประเทศจีนจะมีการปรับตัวกลับมาเหมือนเดิม เพราะปัจจัยการบริโภคภายในประเทศของจีนเองที่ยังคงมีอยู่ต่อเนื่อง นอกจากนี้ประเทศจีนยังมีแนวโน้มการเติบโตทางเศรษฐกิจที่เพิ่มขึ้นอีกในเกือบทุกเมืองไม่เฉพาะเมืองปักกิ่งที่เป็นเมืองหลวงเท่านั้น

ด้าน นายวิชชุ จันทาทับ ผู้อำนวยการ ฝ่ายการลงทุนตราสารทุน บลจ. ไทยพาณิชย์ จำกัด กล่าวถึงการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศจีนว่า ในช่วง 2 ไตรมาสที่เหลือนี้ เศรษฐกิจของประเทศจีนยังคงมีอัตราการเติบโตอยู่ในระดับที่สูงอยู่แต่อาจปรับตัวลดลงมาบ้างเล็กน้อย ทั้งนี้ ปัจจัยที่ยังต้องจับตามองคือตลาดหุ้นของประเทศสหรัฐฯกับยุโรป ที่ได้รับผลกระทบจากเรื่องของซัพไพรม์อยู่รวมทั้งตลาดหุ้นของประเทศญี่ปุ่นด้วยเช่นกัน ซึ่งปัจจัยดังกล่าวนี้จะส่งผลมาถึงตลาดหุ้นของประเทศจีนด้วย   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us