กสิกรไทยจับมือไออาร์พีซีหนุนเงินทุนหมุนเวียนแก่ดีลเลอร์เม็ดพลาสติก 800 ล้านบาท พร้อมสร้างเครือข่ายธุรกิจอิเล็กทรอนิกส์ e-Supply Chain เป็นเครือข่ายธุรกิจครบวงจรสมบูรณ์แบบ ยันปล่อยสินเชื่อรายใหญ่ได้ตามเป้าหมาย พร้อมคุมเอ็นพีแอลไม่เกิน 5% ด้านแนวโน้มดอกเบี้ยในสิ้นปีนี้จนถึงต้นปีหน้ายังเป็นขาขึ้นจากแคมเปญเงินฝากในช่วงที่ผ่านมา

นางวิวรรณ ธาราหิรัญโชติ รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KBANK เปิดเผยว่า ปัจจุบันความต้องการเม็ดพลาสติกเพื่อนำไปเป็นวัตถุดิบผลิตสินค้าต่างๆมีความต้องการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่ช่วงที่ผ่านมาราคาเม็ดพลาสติกมีการปรับตัวสูงขึ้นตลอด ทำให้ผู้แทนจำหน่ายเม็ดพลาสติกของบริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) มีความต้องการเงินทุนหมุนเวียนธุรกิจเพิ่ม ดังนั้น ทางไออาร์พีซีจึงได้ร่วมกับธนาคารให้การสนับสนุนสินเชื่อแก่กลุ่มผู้แทนจำหน่าย ภายใต้บริการ K-Buyer Financing เป็นเงินทุนหมุนเวียนทางธุรกิจให้แก่ผู้แทนจำหน่ายเพื่อซื้อเม็ดพลาสติก ในช่วงแรก 20 ราย รวมเป็นเงินประมาณ 800 ล้านบาท

โดยวงเงินสินเชื่อดังกล่าวจะได้รับเงื่อนไขพิเศษ ทั้งด้านอัตราดอกเบี้ยและหลักทรัพย์ค้ำประกัน จึงช่วยให้ผู้แทนจำหน่ายของไออาร์พีซี มีสภาพคล่องทางธุรกิจเพิ่มขึ้นและสามารถบริหารจัดการธุรกิจทั้งด้านการเงินและด้านการขายได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

นอกจากการให้การสนับสนุนทางการเงินแล้ว ธนาคารกสิกรไทยยังได้นำระบบเทคโนโลยีทางการเงินเข้ามาเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันแก่กลุ่มธุรกิจจำหน่ายเม็ดพลาสติกของไออาร์พีซีอีกด้วย โดยการให้บริการ e-Supply Chain ซึ่งเป็นระบบชำระเงิน และเบิกใช้วงเงินสินเชื่อออนไลน์ที่เชื่อมต่อกับระบบสั่งซื้อ-ขายออนไลน์ (IDEALS) ของไออาร์พีซี

"ปัจจุบันธนาคารได้ให้บริการสินเชื่อในรูปแบบ Supply Chain รวมแล้ว 50 ราย โดยมีการใช้เงินหมุนเวียนคิดเป็น 80 % ของยอดเงินที่ได้รับอนุมัติ โดยในปีนี้จะปล่อยสินเชื่อได้ 10,000-20,000 ล้านบาท"

ทั้งนี้ สินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดกลางและย่อม (เอสเอ็มอี) รวมสินเชื่อขนาดกลางและใหญ่ ในปีนี้ธนาคารตั้งเป้าเติบโต 100,000 ล้านบาท หรือ เพิ่มขึ้น 12 % โดนแบ่งเป็นส่วนของสินเชื่อรายใหญ่ 60,000 ล้านบาท ซึ่งปัจจุบันสามารถปล่อยสินเชื่อไปได้แล้วประมาณ 40,000 ล้านบาท ส่วนที่เหลือ 40,000 ล้านบาท เป็นส่วนสินเชื่อเอสเอ็มอี ในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมายอดปล่อยสินเชื่อเติบโตตามเป้าที่ตั้งไว้

สำหรับแนวโน้มดอกเบี้ยเป็นขาขึ้น โดยเชื่อว่าในช่วงสิ้นปีนี้หรือต้นปีหน้า ดอกเบี้ยเงินกู้จะเพิ่มขึ้น 0.25% ส่วนดอกเบี้ยเงินฝากได้เริ่มปรับตัวขึ้นแล้ว จากการที่ธนาคารแข่งขันระดมเงินฝาก โดยในส่วนของธนาคารกสิกรไทยจะมีการออกแคมเปญระดมเงินฝากออกมาเป็นช่วงๆ

"ทิศทางดอกเบี้ยขณะนี้เป็นขาขึ้น แต่ดอกเบี้ยเงินกู้ยังคงไม่ปรับเพิ่มขึ้นในช่วงนี้ เชื่อว่าดอกเบี้ยจะขึ้นในช่วงสิ้นปีหรือต้นปีหน้า ส่วนดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) เชื่อว่าจะปรับเพิ่มขึ้นอีก 0.25% แต่การปรับขึ้นของธปท.คงจะไม่ใช่ช่วงนี้คงเป็นช่วงปลายปี"

ด้านนายทรงพล ชีวะปัญญาโรจน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า ปัจจุบันหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) ของธนาคารเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ประมาณ 4% จากต้นปีที่อยู่ที่ 3%กว่า แต่ก็ยังเป็นการเพิ่มขึ้นในอัตราที่ต่ำกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ว่าทั้งปีที่เอ็นพีแอลต่ำกว่า 5% อย่างไรก็ตามสินเชื่อที่ปล่อยใหม่ จะเป็นเอ็นพีแอลเพียง 2 % ซึ่งถือว่าเป็นอัตราที่ต่ำมาก

ส่วนค่าเงินบาทที่เริ่มปรับตัวอ่อนค่าลงมาในช่วงนี้ว่า การปรับตัวอ่อนค่าเป็นไปตามภูมิภาคซึ่งย้อนหลัง 1 เดือนที่ผ่านมาค่าเงินบาทก็ผันผวนบวกลบแค่ 0.50 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ไม่น่าจะกระทบต่อผู้ประกอบการอีกทั้งค่าเงินบาทน่าจะอ่อนค่าแค่ในระยะสั้น เพราะในไตรมาสที่ 3 และ 4 จะเป็นช่วงของฤดูการส่งออกและการท่องเที่ยว ซึ่งก็จะทำให้ค่าเงินบาทเริ่มกลับมาแข็งค่าได้อีก