|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
 |
อาร์เอสพร้อมลุยสวนกระแสเศรษฐกิจซบ ลั่นเดินหน้าผู้นำคอนเทนต์บันเทิงและกีฬาช่วยผ่อนคลายความตรึงเครียดให้คนไทย เผยรายได้ไตรมาส 2 ทะลุ 700 ล้านบาทเพิ่มขึ้นจากปีก่อน ถึง 84 ล้านบาท ระบุแม้ตัวเลขจะออกมาขาดทุนอันเป็นผลมาจากโปรเจ็คยูโรพลาดเป้าแต่ครึ่งปีหลังพร้อมเดินหน้าตามแผน มั่นใจธุรกิจหลักด้านเพลงจะยังคงเป็นต้นน้ำในการนำคอนเทนต์ไปต่อยอดสร้างรายได้ ขณะเดียวกันธุรกิจสื่อในโมเดิร์นเทรดแนวโน้มดีมากและโชว์บิซพร้อมเติบโตก้าวกระโดดด้วยงานใหญ่หลายงานที่เตรียมไว้ช่วงปลายปี
นายดามพ์ นานา ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) หรือ RS เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานของบริษัทในไตรมาสที่ 2 ปี 2551 มีรายได้รวม 704.9 ล้านบาทเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว 84.5 ล้านบาท หรือคิดเป็น 13.6% จากรายได้รวมของปีที่แล้ว 602.4 ล้านบาท ซึ่งรายได้ที่เพิ่มขึ้นมานี้ส่วนใหญ่เป็นรายได้จากธุรกิจกีฬาและสื่อโมเดิร์นเทรด โดยในไตรมาสที่ 2 บริษัทได้มีการเปิดตัวสนาม “S-One” บนพื้นที่ 8 ไร่ ริมถนนบางนา-ตราด กม.4 เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมานั้นได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี
นอกจากนี้การลงทุนในธุรกิจสื่อทางเลือกที่กำลังมาแรงที่เปิดตัวเมื่อปลายปีที่ผ่านมาคือ บริษัท อาร์เอส อิน สโตร์มีเดีย จำกัด ที่บริหารสื่อในโมเดิร์นเทรดรายใหญ่ 5 ราย คือ บิ๊กซี คาร์ฟูร์ เทสโก้ โลตัส เทสโก้ โลตัส เอ็กซ์เพรส และ ท็อป ซูเปอร์มาร์เก็ตที่มีสาขาอยู่ทั่วประเทศ ได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้าเนื่องจากเป็นสื่อที่สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่เข้ามาซื้อสินค้าและบริการในโมเดิร์นเทรดได้โดยตรง
ทั้งนี้จากผลการดำเนินการดังกล่าวเมื่อหักต้นทุนการดำเนินงาน 798.5 ล้านบาทและค่าใช้จ่ายในการบริหาร 214.9 ล้านบาทแล้วจะทำให้ผลการดำเนินงานของบริษัทในไตรมาสนี้ขาดทุนสุทธิ 311.7 ล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้วที่บริษัทมีกำไรสุทธิ 4.2 ล้านบาท ทำให้ขาดทุนเพิ่มขึ้นจากปีก่อน 315.9 ล้านบาท
“ จากการที่เศรษฐกิจชะลอตัวในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมา เป็นผลให้รายได้จากการโฆษณาไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่คาดการณ์ไว้ จึงก่อให้เกิดผลขาดทุนจากงานโครงการฟุตบอลยูโร ซึ่งเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้บริษัทเกิดผลขาดทุนในไตรมาสนี้ อีกทั้ง ภาพยนตร์ที่เข้าฉายในไตรมาสนี้ “ดรีมทีม” ทำกำไรได้น้อยกว่าภาพยนตร์ที่เข้าฉายในไตรมาสเดียวกันของปีก่อน แต่อย่างไรก็ตามรายได้โดยรวมของบริษัทที่เพิ่มขึ้นจากธุรกิจกีฬา และธุรกิจสื่อโมเดิร์นเทรด มีแนวโน้มที่จะเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง ” นายดามพ์กล่าว
นายดามพ์กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับการดำเนินธุรกิจของบริษัทในครึ่งปีหลังจะมีแนวโน้มที่ดีขึ้นโดยเฉพาะธุรกิจเพลงที่ถือเป็นธุรกิจหลัก ซึ่งจากการที่อาร์เอสได้ปรับโมเดลทางการตลาดของธุรกิจเพลงออกเป็น 8 กลุ่มแนวเพลง 10 ค่าย ทำให้ผลงานเพลงที่อาร์เอสผลิตออกมาเป็นที่ยอมรับและตรงตามกลุ่มเป้าหมายผู้ฟังในแต่ละกลุ่มมากยิ่งขึ้น
การดำเนินเนินงานของบริษัทในช่วงครึ่งปีหลังกลุ่มธุรกิจต่างๆ พร้อมที่จะเดินหน้าไปตามแผนที่วางไว้ โดยในส่วนของกลุ่มธุรกิจเพลงจะมีการเสนอรูปแบบงานเพลงใหม่ๆ ออกมาตามโครงสร้างธุรกิจใหม่ที่ได้จัดตั้งขึ้นและมีศิลปินเดิมหลายรายที่ทยอยออกผลงานเพลงออกมาอย่างต่อเนื่องประกอบไปด้วย ปาน-ธนพร ศิลปินวงแบล็ค วานิลลา ดัง-พันกร เล้าโลม ไอน้ำ เกิร์ลลี่ เบอร์รี่ แอมไฟน์ โจป็อบ และบีม-กวี เพื่อที่จะรักษาฐานผู้ฟังที่มีอยู่อย่างเหนียวแน่นและขยายฐานผู้ฟังเพิ่มมากขึ้น
ในขณะที่กลุ่มเพลงใหม่ที่บริษัทได้ตั้งขึ้นมาเช่นกลุ่มอิซี่ลิสซึ่นนิ่งจากค่ายเมลโล่โทนจะเริ่มมีผลงานออกมาโดยจะเป็นอัลบั้มของ โก้ มิสเตอร์ แซกแมน เป็นศิลปินคนแรกจากค่ายนี้ ส่วนผู้ฟังเพลงในกลุ่มนักศึกษาและวัยเริ่มต้นทำงานค่าย เพลนตี้ มิวสิค ที่มีสมเกียรติ อริยะชัยพานิชย์ เป็นแม่ทัพก็จะมีผลงานออกมาเช่นกัน ด้านค่ายไนน์ ริคเตอร์ ก็จะส่งผลงานของกลุ่มศิลปินร็อคเลือดใหม่ออกมาและยังมีแนวเพลงทางเลือกจากเพลงดอทคอมออกมาอีกเช่นกัน รวมทั้งในส่วนของเพลงลูกทุ่งจะมีอัลบั้มจากศิลปิน หลวงไก่ กระแต กุ้ง สุทธิราช แคท รัตกาล ต้อย หมวกแดง และ บ่าววี เจ้าของเพลงดัง ขอนไม้กับเรือออกมาให้ผู้ฟังได้ครอบคลุมทุกกลุ่มเช่นกัน
สำหรับธุรกิจโชว์บิซในช่วง 2 ไตรมาสหลังของปี จะมีงานใหญ่ เช่น คอนเสิร์ตของวงหินเหล็กไฟ คอนเสิร์ตไดอารี่ ออฟ คาราบาว และมหกรรมดนตรี Winter Festival ซึ่งมีสปอนเซอร์หลายรายให้ความสนใจพร้อมสนับสนุน ก่อนที่จะมีการเปิดขายบัตรในช่วงปลายไตรมาส 3 สำหรับธุรกิจกีฬา ในช่วงครึ่งปีหลังก็จะมีโปรเจ็คการถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอล 5 คน ( Futsal) ชิงแชมป์โลก ซึ่งทีมไทยเข้ารอบสุดท้าย นอกจากนี้สนาม “S-One” บนพื้นที่ 8 ไร่ ริมถนนบางนา-ตราด กม.4 ที่เปิดตัวไปเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ซึ่งได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดีและมีคิวจองใช้สนามยาวไปจนถึงสิ้นไตรมาส 3 แล้ว ทำให้บริษัทมีแผนที่จะเปิดอีก 2 สนามภายในต้นปีหน้าอีกด้วย รวมทั้งยังมีกิจกรรมต่างๆ ที่เตรียมจัดขึ้นจากผู้สนับสนุนหลักทั้ง 5 รายคือ พานาโซนิค เนสกาแฟ สามารถ ไอ-โมบาย ยามาฮ่า และ M-150
นอกจากนี้ธุรกิจมีเดียจะเป็นอีกหนึ่งธุรกิจหลักที่จะสร้างรายได้ให้กับบริษัทเนื่องจากมีสื่อในมืออย่างครบวงจร ทั้งรายการโทรทัศน์ รวมถึงสื่อวิทยุภายใต้การดำเนินงานของสกาย-ไฮ เน็ตเวิร์ค สื่อสิ่งพิมพ์ และสื่อทางเลือกที่กำลังมาแรงที่บริษัทได้เปิดตัวเมื่อปลายปี 2550 ที่ผ่านมาคือ บริษัท อาร์เอส อินสโตร์มีเดีย จำกัด ที่บริหารสื่อในโมเดิร์นเทรดรายใหญ่ 5 ราย คือ บิ๊กซี คาร์ฟูร์ เทสโก้ โลตัส เทสโก้ โลตัส เอ็กซ์เพรส และ ท็อป ซูเปอร์มาร์เก็ตที่มีสาขาอยู่ทั่วประเทศ
“ การดำเนินธุรกิจของอาร์เอสจนถึงสิ้นปีนี้จะยังคงเน้นการเป็นผู้ผลิตและบริหารจัดการคอนเทนต์บันเทิง และกีฬา อย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ในครึ่งปีหลัง แม้ทิศทางด้านเศรษฐกิจของประเทศยังชะลอตัว แต่บริษัทจะถือเป็นโอกาสที่ดี ที่จะใช้คอนเทนต์ทั้งสองด้านเพื่อเร่งสร้างรายได้ให้แก่บริษัทด้วยการสร้างสรรค์สาระบันเทิงเพื่อให้คนไทยได้ผ่อนคลายความเครียดจากชีวิตประจำวัน ” นายดามพ์กล่าว
|
|
 |
|
|