|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
ซีพี-เมจิ ชี้ผู้ประกอบการเริ่มชะลอการผลิตนม หวั่นต้นทุนพุ่ง กำไรหด หลังน้ำนมดิบปรับราคาขึ้น 1 ส.ค. แต่กรมการค้าภายในยังไม่ไฟเขียว ครึ่งปีหลังอัดฉีด 50 ล้านบาท ปลุกตลาดนมเปรี้ยวพร้อมดื่ม – คัพ โยเกิร์ต ปั้นสินค้าใหม่”เมจิ บิวติ มิราเกิล” ชูกลยุทธ์สร้างความต่างอิงเพื่อสุขภาพและความงาม หวังเป็นธุรกิจเรือธงขาที่ 2
นายไพศาล จงบัญญัติเจริญ กรรมการผู้จัดการบริษัท ซีพี-เมจิ จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายนมเปรี้ยวพร้อมดื่ม ซีพี-เมจิ เปิดเผยว่า จากการที่บริษัทได้เป็นตัวแทนสมาคมอุตสาหกรรมนมไทย เข้ายื่นหนังสือต่อกรมการค้าภายใน เพื่อขอปรับราคานมพร้อมดื่มพาสเจอไรซ์ขึ้น 10-15% เนื่องจากน้ำนมดิบปรับราคาเพิ่มขึ้นจาก 14.50 บาท เป็น 18 บาทต่อกิโลกรัมในวันที่ 1 สิงหาคม ที่ผ่านมา หรือปรับเพิ่มขึ้นมากกว่า 20% แต่หลังจากยื่นไปขณะนี้ยังไม่มีความคืบหน้า เนื่องจากมีการปรับเปลี่ยนคณะรัฐมนตรีใหม่ อย่างไรก็ตามระหว่างนี้ ผู้ประกอบการเริ่มชะลอการผลิตนมป้อนสู่ตลาดลดลง
สำหรับการดำเนินการตลาดซีพี-เมจิในช่วงครึ่งปีหลัง ทุ่มงบ 50 ล้านบาท รุกตลาดนมเปรี้ยวพร้อมดื่มและคัพโยเกิร์ต ครั้งใหญ่ในรอบหลายปี ด้วยการเปิดตัวสินค้าใหม่ “เมจิ บิวติ มิราเกิล” นมเปรี้ยวพร้อมดื่มไม่มีไขมันและคัพโยเกิร์ต รสน้ำผึ้งและแอปเปิลไซเดอร์วีเนการ์ ซีรี่ส์ 2 ต่อจากเมจิ บิวติ ดีโทซี่ นมเปรี้ยวพร้อมดื่มไม่มีไขมันผสมน้ำผึ้งและมะนาว ซึ่งเป็นซีรี่ส์แรก เจาะกลุ่มเป้าหมายผู้หญิงระดับบีบวกที่ห่วงใยสุขภาพและความงามเป็นหลัก เนื่องจากการศึกษาพบว่า นอกจากผู้หญิงที่ต้องการกินนมเปรี้ยวและคัพโยเกิร์ตเพื่อการขับถ่ายแล้ว ยังต้องการด้านความสวยและความงาม
“เพื่อกระตุ้นให้เกิดการทดลองชิมในวงกว้าง บริษัทจึงได้เปิดตัวบรรจุภัณฑ์ขนาด 100 มล. ราคา 7 บาท ซึ่งเป็นราคาที่วางเท่ากับคู่แข่ง โดยวางจำหน่ายผ่านช่องทางร้านค้าสะดวกซื้อเซเว่น อีเลฟเว่น ซึ่งขณะนี้ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี และกำลังขยายช่องทางจำหน่ายในโมเดิร์นเทรด และซูเปอร์มาร์เก็ต”
นายไพศาล กล่าวว่า การเปิดตัวสินค้า 2 ซีรี่ส์ บริษัทต้องการสร้างความแตกต่างจากสินค้าของคู่แข่งอย่างดัชมิลล์ที่มีความแข็งแกร่ง ด้วยการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าภายใต้เทคโนโลยีจากประเทศญี่ปุ่น เพื่อให้สอดรับกับแนวโน้มตลาดที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพและความงามที่กำลังมาแรง และจากการใช้กลยุทธ์ดังกล่าวจะช่วยให้บริษัทสามารถขยายฐานลูกค้าให้กว้างและครอบคลุม มากขึ้น โดยบริษัทต้องการให้กลุ่มผลิตภัณฑ์ดังกล่าวเป็นสินค้าเรือธงอีกหนึ่งตัวรองจากกลุ่มนมพาสเจอไรซ์
ปัจจุบันซีพี – เมจิเป็นผู้นำตลาดนมพาสเจอไรซ์ ครองส่วนแบ่งเกิน 50% จากมูลค่า 2,500 ล้านบาท ส่วนคัพ โยเกิร์ต มีส่วนแบ่งกว่า 10% จากมูลค่า 2,000 ล้านบาท และนมเปรี้ยวพร้อมดื่ม 7% จากมูลค่ากว่า 4,000 ล้านบาท เป็นอันดับ 3 หรือ 4 ของตลาด
|
|
|
|
|