Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน5 สิงหาคม 2551
หุ้นไทยเมินทีมศก.ใหม่-วอลุ่มลดวูบเหลือ5.7พันล.             
 


   
search resources

Stock Exchange




นักลงทุนไม่มั่นใจทีมเศรษฐกิจ หลัง "สมัคร" ปรับครม.ชุดใหม่ เมินลงทุนในตลาดหุ้น ดัชนีรูดต่ออีกเกือบ 4 จุด มูลค่าการซื้อขายบางเฉียบแค่ 5.7 พันล้านบาท ต่ำสุดในรอบ 16 เดือน โดยนักลงทุนต่างชาติยังคงขายต่อเนื่องอีก 789 ล้านบาท ด้านโบรกเกอร์ ชี้นักลงทุนหวั่นรัฐบาลเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญอาจจะก่อให้เกิดความขัดแย้งจนส่งผลลบต่อตลาดหุ้น รวมทั้งลุ้นผลการประชุมเฟดวันนี้

บรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นไทย วานนี้ (4 ส.ค.) ดัชนีตลาดหุ้นปรับตัวอยู่ในกรอบแคบๆ แดนลบ ท่ามกลางความเงียบเหงา เนื่องจากนักลงทุนต่างรอดูความชัดเจนของปัจจัยลบทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมถึงการแต่งคณะรัฐมนตรี (ครม.) ชุดใหม่ และทีมที่ปรึกษาของรัฐบาลยังคงไม่สามารถสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุนได้มากนัก จึงได้ชะลอการซื้อขาย และบางส่วนได้มีการขายหุ้นออกมากดดันดัชนีตลาดหุ้นไทยด้วย

ทั้งนี้ ดัชนีตลาดหุ้นไทยได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นไปแตะระดับสูงสุดที่ 679.12 จุด ในช่วงการซื้อขายภาคเช้า ก่อนจะมีแรงขายหุ้นทำกำไรกดดันให้ตลาดหุ้นปรับตัวลดลง และปิดการซื้อขายที่ระดับต่ำสุดที่ 674.67 จุด ลดลงจากวันก่อนหน้า 3.99 จุด หรือคิดเป็น 0.59% มูลค่าการซื้อขายรวม 5,784.83 ล้านบาท ซึ่งเป็นมูลค่าการซื้อขายที่ต่ำสุดในรอบ 16 เดือน (1 ปี 4 เดือน)

โดยนักลงทุนต่างประเทศยังคงทยอยทิ้งหุ้นไทยออกมาอย่างต่อเนื่อง หลังจากเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมาได้ขายออกมาตลอดทั้งเดือน คือมียอดขายสุทธิ 789.66 ล้านบาท นักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิ 497.98 ล้านบาท และนักลงทุนรายย่อยซื้อสุทธิ 291.68 ล้านบาท

นายโกสินทร์ ศรีไพบูลย์ ผู้อำนวยการอาวุโส บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ยูโอบี เคเฮียน (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ UOBKH กล่าวว่า ดัชนีตลาดหุ้นไทยวานนี้แกว่งตัวในกรอบแคบๆ ในทิศทางที่ปรับตัวลดลงจากสถานณ์การเมืองในประเทศที่ยังไม่มีความชัดเจน และกังวลในการเกิดความวุ่นวายเกี่ยวกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญทำให้นักลงทุนชะลอการลงทุนเพื่อรอดูในวันที่ 18 สิงหาคมนี้ ทำให้นักลงทุนมีการขายหุ้นพื้นฐานออกมาประกอบกับราคาน้ำมันดิบโลกที่มีแนวโน้มที่จะมีการปรับตัวเพิ่มขึ้น

ส่วนประเด็นเรื่องการปรับคณะรัฐมนตรีชุดใหม่นั้น พบว่า รายชื่อที่ออกมาไม่ได้สร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนแต่อย่างใด เพราะเป็นการสลับกระทรวงในการทำงานและเป็นการแบ่งตำแหน่งตามสัดส่วนของพรรคร่วมรัฐบาล ขณะที่นายวีระพงษ์ รามางกูร ที่เข้ามาเป็นหัวหน้าทีมที่ปรึกษาทีมเศรษฐกิจ อาจจะสร้างความเชื่อมั่นได้บ้าง แต่คงไม่มากนัก เพราะไม่มีอำนาจการตัดสินใจเหมือนรัฐมนตรี

นายโกสินทร์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ตลาดหุ้นไทยยังคงได้รับแรงกดดันจากดัชนีดาวโจนส์ที่ปรับตัวลดลง หลังจากความกังวลปัญหาเรื่องสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์ด้อยคุณภาพ (ซับไพรม์) ยังไม่คลี่คลาย และลุกลามสู่ภาคธุรกิจอื่นๆ แม้สหรัฐฯ จะมีการประกาศตัวเลขการจ้างงานออกมาที่ติดลบ 5.1 หมื่นตำแหน่ง ซึ่งต่ำกว่าคาดการณ์ไว้ที่ 7.5 หมื่นตำแหน่ง

สำหรับแนวโน้มดัชนีตลาดหุ้นไทยวันนี้ ขึ้นอยู่กับทิศทางตลาดหุ้นต่างประเทศต่างประเทศ ราคาน้ำมันดิบ การซื้อขายของนักลงทุนต่างประเทศ ขณะที่ปัจจัยการเมืองยังคงเป็นปัจจัยลบที่กดดันจนกว่าจะมีความชัดเจนในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ

ส่วนการประกาศผลประกอบการไตรมาส 2/51 นั้น จะทำให้นักลงทุนเข้ามาเก็งกำไรเป็นรายบริษัท แต่นักลงทุนยังคงกังวลในเรื่องผลประกอบการไตรมาส 3/51 ที่จะต่ำจากได้รับผลกระทบราคาน้ำมันดิบ อัตราเงินเฟ้อที่สูง โดยประเมินแนวรับที่ระดับ 665-667 จุด แนวต้านที่ระดับ 678-680 จุด

นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ตลาดหุ้นไทยขาดปัจจัยบวกที่เข้ามากระตุ้น ขณะที่นักลงทุนเองยังกังวลสถานการณ์ทางการเมืองที่อาจจะบานปลายขึ้น หลังจากที่รัฐบาลประกาศเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งอาจจะก่อให้เกิดกระแสความขัดแย้งระหว่างฝ่ายสนับสนุนและคัดค้าน ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศจะต้องรอดูผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) วันนี้ แม้หลายฝ่ายจะคาดการณ์ว่าเฟดคงจะไม่เปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ยแต่อย่างใด

"ตลาดหุ้นค่อนข้างนิ่ง มูลค่าการซื้อขายเบาบาง เพราะนักลงทุนยังกังวลเรื่องการ รวมทั้งลุ้ผลประชุมเฟด แม้ว่าคงไม่มีอะไรมาก เพราะทุกคนคาดการณ์ไว้แล้วน่าจะตรึงอัตราดอกเบี้ย"

นอกจากนี้ นักลงทุนส่วนใหญ่ยังไม่มั่นใจในคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ที่จะเข้ามาบริหารประเทศ โดยเฉพาะรัฐมนตรีที่จะเข้ามาดูแลและแก้ปัญหาเศรษฐกิจ เพราะเป็นเพียงการสลับตำแหน่งความรับผิดชอบเท่านั้น รวมทั้งที่ผ่านมาครม. ชุดดังกล่าวก็ไม่ได้ฝากผลงานที่ดีหรือแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจได้แต่อย่างใด

"ครม.ชุดใหม่ที่จะเข้ามาดูแลแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ยังคงเป็นคนหน้าเดิมๆ ไม่มีการเปลี่ยนแปลงมากนัก เพียงแต่สลับที่นั่งกันเอง ขณะที่ทีมเศรษฐกิจที่มีนายวีระพงษ์ เป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจเองก็ยังมีข้อกังขาถึงเรื่องความโปร่งใส และผลประโยชน์ทับซ้อนอยู่เช่นกัน"   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us