|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
รายงานของ วอล์ล สตรีท เจอณ์นัล ชี้ว่าปัญหาการเมืองที่กำลังเลวร้ายลงในประเทศไทยอาจเป็นสัญญาณซื้อสำหรับตลาดหุ้นไทยหากคุณเป็นนักลงทุนที่สามารถอดทนต่อความเสี่ยงอันน่าตกใจของประเทศได้
"หุ้นไทยเป็นหุ้นที่ถูกที่สุดในเอเชียเมื่อวัดจากอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิ(พี/อี) และเศรษฐกิจของประเทศกำลังเป็นเศรษฐกิจเดียวในภูมิภาคที่จะโตในปีนี้เร็วกว่าปีที่แล้ว"
บทวิจัยของเจ.พี.มอร์แกนในเดือนนี้ระบุว่า ในขณะที่ราคาหุ้นไม่ได้ลดลงสู่ระดับต่ำมากดัชนีตลาดหุ้นไทยซึ่งปรับตัวลง 23% ในปีนี้ได้เข้าสู่"โซนมูลค่า" นักลงทุนผู้กล้าต้องเล็งไปยังหุ้นที่สามารถประคับประคองรายได้อันแข็งแกร่งเอาไว้ได้ ไม่ว่าความวุ่นวายทางการเมืองจะเป็นอย่างไร
นักวิเคราะห์บางคนชี้ว่า บริษัทพลังงานอย่างเช่น ปตท.สผ.เป็นการลงทุนที่เป็นไปได้ในขณะที่บางคนชอบกลุ่มโทรคมนาคม ซึ่งแอดวานซ์ อินโฟ เซอร์วิส เป็นหุ้นยอดนิยมในกลุ่มนี้
ซิตี้กรุ๊ป มองว่า แอดวานซ์ อินโฟ เซอร์วิส สามารถรักษาการเติบโตของรายได้ในช่วงที่เกิดปัญหาเอาไว้ได้ในอดีต และกระแสเงินสดของบริษัทแข็งแกร่ง และในขณะที่มีการแข่งขันมากขึ้นในภาคนี้ ความต้องการของลูกค้าไม่ได้รับผลกระทบจากเงินเฟ้อ
ซิตี้กรุ๊ป คาดการณ์ว่า หุ้นเอไอเอสจะแตะ 110 บาท ในช่วง 12 เดือนข้างหน้า โดยตั้งแต่วันที่ 1 มกราคมเป็นต้นมาหุ้นเอไอเอสปรับตัวลง 9.3%
อย่างไรก็ตาม ความบาดหมางทางการเมืองของไทยยังคงคุกรุ่น การกระโดดเข้าไปลงทุนในตลาดหุ้นยังคงเป็นเรื่องที่ผู้ซื้อต้องระวัง
บางประเทศสามารถฝ่าฝันความเสี่ยงทางการเมืองได้ง่ายกว่าประเทศอื่น ตลาดหุ้นเกาหลีใต้กำลังซึมซับความอ่อนแอของรัฐบาลใหม่ได้ดีกว่าที่นักวิชาการคาดไว้
ด้านมาเลเซียก็กำลังเผชิญกับความวุ่นวายทางการเมืองครั้งใหญ่สุดในรอบทศวรรษเมื่อตำรวจสอบสวนการอันวาร์ อิบราฮิม นัการเมืองฝ่ายฝ้านเกี่ยวกับการล่วงละเมิดทางเพศแต่ความวุ่นวายที่เกิดขึ้น และการปรับตัวลงของหุ้นในกัวลาลัมเปอร์อันเนื่องมาจากปัญหาในภาคการเงินสหรัฐ และปัญหาของสหรัฐที่มีต่อแนวโน้มเศรษฐกิจโลก ก็สร้างปัญหาเพียงเล็กน้อยต่อตลาดหุ้นมาเลเซีย
อย่างไรก็ตาม ปัญหาการเมืองในประเทศไทยเป็นแบบแผนที่แตกต่างโดยสิ้นเชิง ในสายตาของคนไทยหลายคน มันไม่มีอะไรนอกเสียจากเป็นการแข่งขันกันระหว่างสองแนวคิดที่แตกต่างกันซึ่งจะเป็นตัวกำหนดทิศทางในอนาคตของประเทศนี้ว่าจะเป็นอย่างไร
หลังจากที่มีการประท้วงหลายๆชุดบนท้องถนน ขณะนี้สงครามกำลังย้ายไปยังศาลต่างๆซึ่งศาลอาจตัดสินยุบพรรคที่สนับสนุนโดยทักษิณด้วยข้อกล่าวหาว่าโกงการเลือกตั้ง พรรคของทักษิณเองก็ถูกยุบภายใต้ภาวะการณ์แบบเดียวกันหลังการปฏิวัติเมื่อปี 2549 และในขณะนี้ทักษิณกำลังถูกไต่สวนในข้อหาคอร์รัปชั่นหลายข้อหา
สถานการณ์ที่ดูเหมือนว่าจะควบคุมได้ยากสร้างความวิตกให้กับนักลงทุนและบริษัทวาณิชธนกิจ
ในเดือนนี้เอชเอสบีซี โกลบัล รีเสิร์ช ระบุว่า ความเสี่ยงทางการเมืองมีมากจนทำให้บริษัทต้องเปลี่ยนมุมมองที่มีต่อประเทศไทย โดยในขณะนี้ได้แนะนำให้นักลงทุน"ลดน้ำหนัก"ในตลาด จากที่เคยแนะนำให้"เพิ่มน้ำหนัก"การลงทุน
เอชเอสบีซี ระบุว่า "จำเป็นต้องแก้ไขรอยร้าวพื้นฐานในการเมืองและสังคมไทยเสียก่อนที่จะไปถึงทางตัน
อย่างไรก็ตาม ยังคงมีโอกาสที่มีศักยภาพสำหรับนักลงทุนที่กล้าหาญ
ทั้งนี้รัฐบาลไทยประมาณการว่าเศรษฐกิจจะโต 5%-6% ในปีนี้ เนื่องจากกำลังจะมีโครงการสาธารณูปโภคหลายๆโครงการที่ชะลอไว้ จากที่โต 4.8% ในปีที่แล้ว
ในทางกลับกัน ฟิลิปปินส์คาดว่า เศรษฐกิจจะโต 5.6%-6.6% ในปีนี้ ลดลงจาก 7.4%ในปีที่แล้ว ส่วนเวียดนามเป็นอีกประเทศหนึ่งที่ลดเป้าหมายการเติบโตเนื่องจากพยายามที่จะไปเน้นการปราบปรามเงินเฟ้อแทน
รายงานของ ศรียัน ปิเติร์ซ นักวิเคราะห์หุ้นเจ.พี.มอร์แกนระบุว่า กลเม็ดที่จะต้องทำในสถานการณ์เศรษฐกิจกำลังดี คือต้องค้นหาหุ้นที่รายได้ฟื้นตัวจากการดีดตัวของเงินเฟ้อและปัญหาการเมืองได้ดีที่สุด
นักวิเคราะห์เจ.พี.มอร์แกน กล่าวว่า หุ้นค้าปลีกที่มีราคาถูก อย่างเช่น สยามแมคโครอาจมียอดขายเพิ่มขึ้นเนื่องจากผู้ซื้อที่อยู่ในเมืองจะเลิกซื้อตามห้างสรรพสินค้าหรูๆมาซื้อสินค้าพื้นฐานมากขึ้น ในขณะที่ นักช้อปในชนบทจะซื้อสินค้ามากขึ้นเพราะราคาสินค้าเกษตรราคาเพิ่มขึ้น
เจ.พี.มอร์แกนยังคาดว่า บริษัทปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม อาจจะมีรายได้ที่แข็งแกร่ง ขณะที่บริษัทหลักทรัพย์ซีมิโก มองว่าบริษัทที่บริหารนิคมอุตสาหกรรมในประเทศไทยมีศักยภาพ เนื่องจากผู้ผลิตข้ามชาติเริ่มมองเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ นอกเหนือจากจีนเพื่อตั้งเนื่องจากค่าแรงในจีนและต้นทุนที่ดินสูงขึ้น
|
|
|
|
|