ในราชกิจจานุเบกษา เล่ม 70 ตอนที่ 75 วันที่ 1 ธันวาคม 2496 ระบุว่า องค์การตลาดฯ ถือกำเนิดขึ้นเมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน 2496 โดย "พระราชกฤษฎีกาจัดตั้งองค์การตลาด พ.ศ.2496" ซึ่งในครั้งแรกที่เริ่มจัดตั้งนั้น สังกัดอยู่กับกรมประชาสงเคราะห์ กระทรวงมหาดไทย มีเงินทุนสำหรับดำเนินกิจการตามมาตรา 8 แห่งพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งฯ จำนวน 15,000,000.- บาท โดยรัฐบาลให้เป็นทุนประเดิม 5,000,000.- บาท และจะจ่ายเพิ่มเป็นคราวๆ ไป ตามจำนวนที่รัฐบาลเห็นสมควร
ในความเป็นจริง เงินทุนเริ่มต้นที่องค์การตลาดฯ ได้รับจากงบประมาณแผ่นดิน มีเพียง 2,000,000.- บาทเท่านั้น โดยองค์การตลาดฯ ต้องกู้จากธนาคารออมสินอีกจำนวน 15,000,000.- บาท รวมเป็นเงินทุนเพื่อการดำเนินงานทั้งสิ้น 17,000,000.- บาท
แต่เนื่องจากกรมประชาสงเคราะห์มิได้มีหน้าที่โดยตรงที่จะบริหารงานด้านนี้ให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งองค์การตลาดฯ ตลอดจนเป็นระยะเริ่มต้นของการดำเนินการองค์การตลาดฯ จึงยังไม่เจริญก้าวหน้าไปเท่าที่ควร
ฉะนั้นเมื่อวันที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2501 กรมประชาสงเคราะห์จึงโอนองค์การตลาดฯ ให้ไปสังกัดอยู่กับกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ เพราะได้เล็งเห็นว่ากรมการค้า ภายในมีหน้าที่เกี่ยวกับการค้าขายอยู่แล้วคงจะสามารถดำเนินกิจการขององค์การตลาดฯ ให้ลุล่วงสำเร็จตามวัตถุประสงค์ของการจัดตั้งได้
แต่แท้ที่จริงแล้ว ในระยะ 4 ปีที่องค์การตลาดฯ สังกัดอยู่กับกรมการค้าภายในนั้น กิจกรรมก็มิได้มีความเจริญก้าวหน้าตามความคาดหมาย ฯพณฯ จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ นายกรัฐมนตรี จึงมีบัญชาให้โอนมาสังกัดกระทรวงมหาดไทยอีกครั้งหนึ่ง เมื่อวันที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2505 ซึ่งนับแต่นั้นเป็นต้นมากิจการก็ได้เจริญก้าวหน้าและดำเนินเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน
ซึ่งใน พ.ร.บ.ดังกล่าว ได้ระบุอำนาจหน้าที่ไว้ใน มาตรา 6 ว่า
(1) จัดสร้างตลาดสาธารณะให้เพียงพอแก่ความต้องการ
(2) ปรับปรุงตลาดสาธารณะที่มีอยู่แล้วให้ถูกสุขลักษณะและทันสมัย
(3) ส่งเสริมตลาดเอกชน
(4) จัดและส่งเสริมการผลิตโภคภัณฑ์ให้พอแก่ความต้องการของตลาด
(5) จัดการขนส่งโภคภัณฑ์ไปสู่ตลาดให้เป็นไปโดยสะดวก
(6) จัดดำเนินการ ควบคุมและอำนวยบริการเกี่ยวกับตลาดขององค์การ
และมาตรา 7 ให้องค์การมีอำนาจดำเนินกิจการตามวัตถุประสงค์ในมาตรา 6 และอำนาจเช่นว่านี้ให้รวมถึง
(1) สร้าง ซื้อ จัดหา ยืม ให้ยืม เช่า ให้เช่า เช่าซื้อ ให้เช่าซื้อ ถือกรรมสิทธิ์ครอบครอง หรือดำเนินงานเกี่ยวกับเครื่องใช้ บริการ หรือทรัพย์สินใดๆ อันเกี่ยวกับตลาด
(2) กู้ยืมเงิน หรือให้กู้ยืมเงิน โดยมีหลักประกันด้วยบุคคล หรือด้วยทรัพย์ หรือรับทรัพย์สินที่มีผู้อุทิศให้เพื่อสร้างตลาดและปรับปรุงตลาด การกู้ยืมเงินถ้าเป็นจำนวนเงินเกินสามล้านบาท ต้องได้รับอนุญาตจากคณะรัฐมนตรีก่อน
(3) ทำการค้าและขนส่งสินค้า
(4) ออกเงินลงทุนหรือเข้าเป็นหุ้นส่วนในห้างหุ้นส่วน หรือถือหุ้นในบริษัทจำกัด เพื่อจัดตั้ง หรือดำเนินการตลาด
(5) วางระเบียบในการจัดตลาดขององค์การ
(6) กระทำการอื่นใดเพื่อส่งเสริมตลาดและการผลิตโภคภัณฑ์เพื่อให้พอแก่ความต้องการของตลาด
|