ลิปตัน เร่งตอกย้ำอิมเมจผู้เชี่ยวชาญด้านชาโดยเฉพาะ หวนลุยตลาดชาเขียวอีกระลอก อัดฉีด 20 ล้านบาท ปั้นชาเขียวลิปตัน ไนน์ สร้างความต่างชูจุดเพื่อสุขภาพและความงาม เจาะกลุ่มผู้หญิงโดยเฉพาะ เปิดตัวภาพยนตร์โฆษณา อัดกิจกรรม ทะลวงโมเดิร์นเทรด สิ้นปีโกยแชร์ตลาดชาเขียว 4% จาก 2,800 ล้านบาท รั้งเบอร์ 2 ครองแชร์เพิ่ม 44% จาก 4,000 ล้านบาท

นางรัชดา อภิรมย์เดช ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดเครื่องดื่มไม่อัดลม บริษัท เป๊ปซี่-โคล่า (ไทย) เทรดดิ้ง จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทได้ทุ่มงบ 20 ล้านบาท เปิดตัวลิปตัน ไนน์” ชาเขียวพร้อมดื่มโดยวางโพซิชันนิงเป็นชาเขียวเพื่อสุขภาพและงาม เนื่องจากมองว่าเป็นเทรนด์ที่มาแรงและมีศักยภาพ อีกทั้งยังช่วยเสริมการทำตลาดชาดำที่เน้นการทำตลาดด้านความสดชื่นเป็นหลัก ทั้งนี้เพื่อเสริมภาพลักษณ์ในของแบรนด์ลิปตันเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านชาไม่เฉพาะแค่ชาดำอย่างเดียว โดยชาเขียวดังกล่าวถูกพัฒนาขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการกลุ่มเป้าหมายผู้หญิงในเอเชียโดยเฉพาะ และเปิดตัวที่ไทยเป็นประเทศแรก เพื่อเจาะกลุ่มผู้หญิงอายุ 20-35 ปี

ทั้งนี้บริษัทได้เคยเปิดตัวชาเขียวลิปตันเวฟ เมื่อ 4 ปีที่ผ่านมา และนำออกจากตลาดไป โดยการเปิดลิปตัน ไนน์ พัฒนามากว่า 2 ปี โดยมีการวางเซกเมนต์ตลาดที่แตกต่างจากคู่แข่งที่เน้นจุดขายในเรื่องของสุขภาพอย่างเดียว แต่ยังไม่มีแบรนด์ใด ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคด้วยส่วนผสมที่เติมเต็มคุณค่าทั้งด้านสุขภาพและความงามอย่างลงตัว อีกทั้งยังเจาะกลุ่มเป้าหมายผู้หญิงโดยเฉพาะ ซึ่งถือว่าเป็นการพลิกการทำตลาดอีกรูปแบบหนึ่ง โดยจะเน้นวางจำหน่ายผ่านโมเดิร์นเทรดเป็นหลัก มีด้วยกัน 2 ขนาด ได้แก่ แบบกระป๋อง ราคา 14 บาท และแบบขวดเพ็ท ราคา 18 บาท และหากได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจะขยายช่องทางเทรดิชันนัลเทรด

ด้านการตลาด มุ่งเน้นสื่อสารคอนเซปต์ของ “รักตัวเอง โอบกอดตัวเอง ด้วยลิปตัน ไนน์” ผ่านกิจกรรมการตลาด 360 องศา เพื่อเจาะกลุ่มผู้หญิงที่ห่วงใยและใส่ใจต่อสุขภาพและความงามเป็นหลัก นำร่องเปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาชุด “Hug Yourself” โดยนำ “มารีญา ลินน์ เอเรียน” มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ เริ่มออกอากาศวันที่ 1 สิงหาคม นี้ ตลอดจนจัดกิจกรรมให้ผู้บริโภคได้ลิ้มลองทั่วกรุงเทพฯ ถึง 9 แสนคน และเปิดเว็บไซต์ www.lipton9.com เปิดโอกาสให้สาวๆ ได้โพสต์ท่ากอดตัวเองแบบฟรีสไตล์และส่งภายถ่ายมาให้ผู้เข้าชมร่วมโหวตชิงรางวัลต่างๆ

สำหรับตลาดชาพร้อมดื่มมูลค่า 4,000 ล้านบาท ปีนี้เติบโต 10% เท่ากับปีที่ผ่านมา โดยแบ่งเป็น ตลาดชาเขียว 2,800 ล้านบาท หรือคิดเป็น 70% ของตลาดรวม เติบโต 5-7% ชาดำมูลค่า 800 ล้านบาท หรือสัดส่วน 20% เติบโต 30% ที่เหลือชาแดง 480 ล้านบาท หรือ 12% ของตลาด ส่วนชาขาว 120 ล้านบาท หรือสัดส่วน 8% จากตลาดรวม สำหรับคู่แข่งของลิปตัน ไนน์ คือ ชาเขียวพร้อมดื่มเป็นหลัก และเครื่องดื่มนมและน้ำผลไม้ที่ชูจุดขายเพื่อสุขภาพและความงาม

อย่างไรก็ตามจากการเปิดตัวชาเขียวลิปตัน ไนน์ คาดว่าสิ้นปีนี้จะมีส่วนแบ่ง 4% จากตลาดชาเขียวมูลค่า 2,800 ล้านบาท และผลักดันให้รายได้กลุ่มลิปตันจะมีอัตราการเติบโต 30% จากปัจจุบันลิปตันครองส่วนแบ่ง 40% ตลาดรวมมูลค่า 4,000 ล้านบาท เป็นอันดับ 2 ของตลาด และคาดว่าสิ้นปีเพิ่มเป็น 44% ส่วนโออิชิผู้นำตลาดครองส่วนแบ่งเกือบ 60% ขณะที่ตลาดชาดำ ลิปตันยังรั้งตำแหน่งผู้นำตลาดด้วยครองส่วนแบ่ง 70% โดยปัจจุบันลิปตัสขวดคืนสัดส่วน 70% ที่เหลือ 30% เป็นกระป๋องและขวดเพ็ท