|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
แอนลีน ยันไม่ขึ้นราคา กัดฟันแบกรับภาระต้นทุนน้ำนมดิบขึ้นราคา 1 ส.ค. นี้ เดินหน้าอัดฉีด 120 ล้านบาท ยกเครื่องสูตรใหม่ครั้งใหญ่รอบ 2 ปี รับตลาดแข่งดุส่งนวัตกรรมเทคโนโลยีนาโน”แคลเซียม-10” ชูจุดขายแคลเซียมขนาดเล็ก 10 เท่า จับหญิงไทยอายุ 30 ปี สิ้นปีตอกย้ำบัลลังก์ผู้นำตลาดแคลเซียมกวาดแชร์จาก 51% เป็น 55% ทิ้งห่างแคลซีเม็กซ์
นางสาวลลนา บุญงามศรี ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท ฟอนเทียร่า แบรนด์ส (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายนมแอนลีน เปิดเผยว่า บริษัทได้ปรับสูตรนมแคลเซียมครั้งใหญ่ในรอบ 2 ปี โดยนำเทคโนโลยีนาโนมาพัฒนาสูตรเฉพาะ “แอนลีน แคลเซียม-10” นวัตกรรมนมที่มีนมแคลเซียมขนาดเล็กกว่าแคลเซียมทั่วไปถึง 10 เท่า แทนที่สูตรเดิมซึ่งเป็นแคลเซียมธรรมดา ซึ่งสามารถดูดซึมกระดูกชั้นในได้ดีกว่า โดยเป็นการปรับสูตรใหม่ทุกกลุ่มผลิตภัณฑ์ ได้แก่ นมผง นมยูเอชที โยเกิร์ตพร้อมดื่ม นมถั่วเหลือง เป็นต้น
ทั้งนี้บริษัทได้ใช้งบการตลาด 120 ล้านบาท ในการเปิดตัวสินค้าใหม่ ผ่านการทำสื่อโฆษณาประชาสัมพันธ์และกิจกรรมการตลาดอย่างครบวงจร ประเดิมเปิดตัวแคมเปญโฆษณาชุดใหม่”แคลเซียมเล็ก” 2 เรื่อง โดยนำมาช่า วัฒนพาณิช มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ปีที่ 2 เพื่อตอกย้ำการรับรู้อย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังจัดทำสื่อโฆษณากลางแจ้ง บนรถไฟฟ้า และสื่อโฆษณา ณ จุดขาย ตลอดจนการจัดชิมสินค้า ณ จุดขาย และบริการตรวจเช็คสุขภาพกระดูกบูธแอนลีนตามห้างสรรพสินค้า
สำหรับตลาดนมแคลเซียมมูลค่า 1,600 ล้านบาท ในปีนี้คาดว่าจะมีอัตราการเติบโต 10% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา มีอัตราการเติบโต 7% เนื่องจากพบว่าผู้หญิงไทยใส่ใจในเรื่องของสุขภาพ โดยมีพฤติกรรมเลือกดื่มนมแคลเซียม 25% ส่วนนมทั่วไป 50% ซึ่งเป็นเทรนด์เดียวที่สอดคล้องกับ ผู้หญิงทั่วโลกในกลุ่มวัยทำงานมักจะมีชีวิตที่เร่งรีบ แต่ขณะเดียวกันก็ยังเป็นกลุ่มที่พิถีพิถันกับการดูแลตัวเองและสุขภาพ ขณะที่ตลาดรวมนมพร้อมดื่มมูลค่า 30,000 ล้านบาท มีอัตราการเติบโต 2-3%
“ปีนี้ตลาดนมแคลเซียมมีการแข่งขันที่รุนแรงมากขึ้น เนื่องจากเป็นตลาดที่มีการขยายตัวสูง โดยมีผู้ประกอบการเปิดตัวสินค้าลงสู่ตลาดมากขึ้น แต่เรามั่นใจว่าการเปิดตัวแอนลีน แคลเซียม – 10 ในประเทศไทย คาดว่าจะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีโดยเฉพาะกลุ่มเป้าหมายผู้หญิงอายุ 30 ปีขึ้นไป ที่ใส่ใจในเรื่องของสุขภาพ เช่นเดียวกับประเทศมาเลเซีย สิงคโปร์ และอินโดนีเซีย”
ส่วนด้านต้นทุนการผลิตแม้ว่าวันที่ 1 สิงหาคม น้ำนมดิบจะปรับราคาขึ้นจากลิตรละ 14.50 บาท เพิ่มเป็นลิตรละ 18 บาท หรือเพิ่มขึ้น 3.50 บาท แต่บริษัทยังคงตรึงราคาไว้ และไม่มีแผนปรับราคาสินค้าขึ้น หลังจากปีที่ผ่านมาได้ปรับขึ้นไปแล้ว โดยบริษัทจะเน้นบริหารการจัดการด้านระบบขนส่ง เพื่อลดต้นทุนต่างๆ
นางสาวลลนา กล่าวเพิ่มเติมว่า ตลาดนมแคลเซียมมูลค่า 1,600 ล้านบาท แบ่งเป็น เซกเมนต์ยูเอชทีมูลค่า 1,000 ล้านบาท หรือคิดเป็น 65% จากตลาดรวม มีอัตราการเติบโต 16 % เนื่องจากผู้บริโภคต้องการความสะดวกสบาย ขณะที่เซกเมนต์นมผงมูลค่า 400 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 25% เติบโต 5% และเซกเมนต์โยเกิร์ตพร้อมดื่มมูลค่า 200 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 10%
สำหรับปีที่ผ่านมาบริษัทได้เปิดตัวสูตรเข้มข้น 4 เท่า ส่งผลให้แอนลีนโดยรวมโต 26% ส่วนแบ่งเพิ่มจาก 44% เป็น 51% โดยยูเอชทีเติบโตถึง 79% ส่วนแบ่งเพิ่มจาก 17% เป็น 38% จากมูลค่า 1,000 ล้านบาท และจากการดำเนินการตลาดเชิงรุกปีนี้กลุ่มแอนลีนตั้งเป้ามีอัตราการเติบโต 20% หรือมีส่วนแบ่งเพิ่มจาก 51% เป็น 55% รั้งตำแหน่งผู้นำตลาดและทิ้งห่างแคลซีเม็กซ์ซึ่งมีส่วนแบ่ง 42% โดยคาดว่ายูเอชทีมีส่วนแบ่งเพิ่มจาก 38% เป็น 45% ส่วนนมผงมูลค่า 400 ล้านบาท มีส่วนแบ่งกว่า 90%
|
|
|
|
|