Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน30 กรกฎาคม 2551
เมืองไทยรัชดาลัยฯยอดวูบ40% ปรับราคาบัตรรับพิษเศรษฐกิจ             
 


   
www resources

โฮมเพจ บริษัท เอ็กแซ็กท์ จำกัด

   
search resources

Entertainment and Leisure
เอ็กแซ็กท์, บจก.
ถกลเกียรติ วีรวรรณ




แฟนพันธุ์แท้ละครเวทีระดับกลางโดนพิษเศรษฐกิจเล่นงาน “เมืองไทยรัชดาลัย เธียเตอร์” ขายตั๋วราคา 1,000-1,500 บาท ยากขึ้น เปลี่ยนแผนปรับราคาที่นั่งใหม่ รองรับพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป เผยรายได้จากการผลิตละครเวทีต่อเรื่องยังไปได้ดีอยู่ แม้ครึ่งปีหลังอาจจะได้รับผลกระทบบ้าง โดยทั้งปีรายได้รวมทั้งซีเนริโอและเอ็กแซกท์รวมกัน คาดว่าจะเติบโตขึ้นอีก 10-20% จาก 200 กว่าล้านบาทในปีก่อน

นายถกลเกียรติ วีรวรรณ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็กแซ็กท์ จำกัด และบริษัท ซีเนริโอ จำกัด เปิดเผยว่า หลังจากที่เข้ามาดำเนินธุรกิจโรงละครเมืองไทยรัชดาลัย เธียเตอร์ และผลิตละครเวทีตั้งแต่ช่วงเดือนพ.ค.-ธ.ค.ของปีผ่านมา พบว่า การตอบรับและรายได้เป็นไปตามเป้าที่วางไว้ แต่ในปีนี้ เนื่องจากสถานการณ์ทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้น และราคาน้ำมันที่ขยับตัวเพิ่มสูงขึ้น พบว่าส่งผลกระทบโดยตรงกับกลุ่มลูกค้าที่ซื้อบัตรในราคา 1,000-1,500 บาท ที่ขายได้น้อยลงจากปีก่อนประมาณ 40% ซึ่งกลุ่มผู้ชมที่ซื้อบัตรในราคาดังกล่าวนี้ ส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ และกลุ่มคนเริ่มทำงาน ที่ยังมีรายได้น้อยอยู่ เพราะเป็นกลุ่มที่ได้รับผลกระทบจากพิษเศรษฐกิจโดยตรง

จากเดิมในปีก่อน กลุ่มราคาบัตรดังกล่าวจะเป็นกลุ่มที่ขายดีที่สุด แต่ในปีนี้กลุ่มที่ขายดีสุด คือ 2,000-2,500บาท ดังนั้นเพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว บวกกับการวิจัยที่ทำขึ้นพบว่าราคาบัตรยังแพงอยู่ ปีนี้ทางบริษัทฯได้มีการปรับราคาที่นั่งขึ้นใหม่ โดยแบ่งออกเป็น 6 ระดับราคา คือ 500 บาท ,1,000 บาท ,1,500 บาท ,2,000 บาท ,2,500 บาท และ3,000 บาท โดยในส่วนของบัตรราคา 1,000-1,500 บาท ลดจำนวนลง และเพิ่มบัตรราคา 3,000 บาท เข้ามา รวมถึงจำหน่ายบัตรล่วงหน้านานขึ้น 3 เดือน จากเดิม 2 เดือน โดยกลยุทธ์ดังกล่าวถือเป็นการปรับราคา ตามพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป นอกจากนี้ยังมีกลยุทธ์เมมเบอร์การ์ด “R-Card” ซึ่งมีฐานสมาชิกแล้วประมาณ 3,000 ราย กับกิจกรรมสะสมแต้ม รวมถึงกลยุทธ์การหาสปอนเซอร์ชิฟ ที่สามารถสร้างรายได้ประมาณ 5% ของรายได้จากละครในแต่ละเรื่อง

นายถกลเกียรติ กล่าวต่อว่า ธุรกิจโรงละครเพียงอย่างเดียว ถือว่าอยู่ได้ยาก ยิ่งมีการลงทุนสูงแต่รายได้ที่มามีเพียงให้เช่า ทางบริษัทฯเองจึงต้องมีการผลิตละครเวทีเข้ามาร่วมด้วย ดังนั้นมองว่า จากเดิมถ้าเพียงโรงละครอย่างเดียวกับการลงทุนกว่า 500 ล้านบาท คาดว่าจะคืนทุนใน 10-12ปี แต่เมื่อมีการผลิตละครเวทีเข้ามาช่วย เชื่อว่าคุ้มทุนเร็วขึ้น ในเวลาเพียง 6 ปีเท่านั้น

โดยต่อปีบริษัทฯมีแผนผลิตละครเวทีเฉลี่ยประมาณ 3 เรื่อง ซึ่งตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา มีเรื่อง ก่อนจะถึงบางรักซอย9, สู่ฝันอันยิ่งใหญ่ และที่กำลังเปิดการแสดงอยู่คือ ข้างหลังภาพ ขณะที่ช่วงปลายปี จะมีคอนเสิร์ต 3หนุ่ม3ไมค์ และคอนเสิร์ต 25 ปีแกรมมี่ รวมถึงความร่วมมือกับทางบีอีซีเทโร ในการนำละครเวทีจากต่างประเทศเข้ามาแสดงด้วย

ส่วนปีก่อนบริษัทฯมีการผลิตละครเวทีขึ้น 3 เรื่อง คือ ฟ้าจรดทราย, ลูกคุณหลวง และบัลลังก์เมฆ รวมถึงร่วมกับบีอีซีเทโร นำเข้าละครเวทีเรื่องแคท ซึ่งทั้ง 3 เรื่องนี้ มีการลงทุนด้านโปรดักส์ชั่นแตกต่างกัน และมีทาร์เก็ตกรุ้ปที่แตกต่างกัน แต่โดยรวมแล้วถือว่า รายได้เป็นไปตามเป้า

“การทำละครเวที มองว่าไม่ควรที่จะจับกลุ่มเป้าหมายเพียงกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง ถึงแม้ว่าเศรษฐกิจจะไม่ดี ทั้งนี้เพื่อที่จะทำให้ฐานผู้ชมมีมากขึ้น แต่เป็นการเพิ่มความหลากหลายให้กับธุรกิจดังกล่าว ดังนั้นจะเห็นว่า เราไม่ได้ทำละครเวทีในทิศทางใดทิศทางหนึ่ง แต่จะมีความหลากหลาย ซึ่งบางเรื่องยอมรับว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก ทั้งจำนวนรอบที่แสดง และการจำหน่ายบัตรเข้าชม อย่าง ฟ้าจรดทราย ที่ทำการแสดงได้กว่า 53 รอบ จำหน่ายบัตรเข้าชมได้มากกว่า 80% แต่บางเรื่องก็ต่ำกว่าเป้าที่วางไว้” นายถกลเกียรติ กล่าว

อย่างไรก็ตาม รายได้ของเมืองไทยรัชดาลัย เธียเตอร์ และการผลิตละครเวที คิดเป็น 25% ของรายได้ในบริษัท ซีเนริโอ จำกัด ซึ่งเมื่อรวมรายได้ของซีเนริโอและเอ็กแซ็กท์ เข้าด้วยกัน ปีนี้คาดว่าจะมีการเติบโตขึ้น 10-20% จาก 200 กว่าล้านบาทในปีที่ผ่านมา ซึ่งการเติบโตส่วนใหญ่มาจากละครโทรทัศน์ ที่ขายโฆษณาได้มากขึ้น   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us