Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน29 กรกฎาคม 2551
ตั้งแมทชิ่งฟันด์กองทุนฯท่องเที่ยว             
 


   
search resources

Tourism




“ศศิธารา” ฟิต รับหมวกใบใหม่ “ประธานบริหารกองทุนส่งเสริมการท่องเที่ยวไทย” ถ่ายอำนาจภาคการเมืองสู่ข้าราชการแต่ต้องบริหารแบบมืออาชีพ เล็งตั้ง แมทชิ่งฟันด์ ปล่อยกู้ สร้างรายได้หนุนรายจ่าย พร้อมปรับโครงสร้างการทำงาน เน้นโปร่งใส หลังกระทรวงการคลังไม่ปลื้มการใช้เงินในอดีต

นาวสาวศศิธารา พิชัยชาญณรงค์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ได้มีการปรับวิธีการบริหารจัดการกองทุนส่งเสริมการท่องเที่ยวไทยใหม่ ภายใต้ พ.ร.บ.นโยบายการท่องเที่ยวแห่งชาติ พ.ศ.2551 ที่เพิ่งเริ่มมีผลบังคับใช้ ซึ่งมีสาระสำคัญ 3 ประการ กล่าวคือ

1. โครงสร้างการทำงาน ให้ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวเป็นประธานบริหารกองทุนฯ จากเดิม คือรองนายกรัฐมนตรี ที่กำกับดูแลงานด้านการท่องเที่ยว ส่วนกรรมการบริหารกองทุนจะประกอบด้วยตัวแทนจากหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งราชการ เอกชน และนักเศรษฐศาสตร์ จากเดิมมีเพียงข้าราชการ เท่านั้น

2.ต้องจัดทำระเบียบการบริหารกองทุน เพื่อวางแผนงานแนวทางการใช้เงิน และ 3.ปรับวิธีการใช้เงินกองทุนฯ จากเดิมที่เป็นเงินอุดหนุนแบบให้เปล่า แต่เงื่อนไขใหม่ จะแบ่งเป็น 2 รูปแบบ คือ อุดหนุนแบบให้เปล่า และ การให้กู้ยืมและคิดอัตราดอกเบี้ย

ทั้งนี้ได้ประชุมคณะกรรมการบริหารกองทุนฯภายใต้โครงสร้างใหม่ไปแล้ว 1 ครั้ง เพื่อทำความเข้าใจ ร่วมกันในกรอบการทำงาน พร้อมจัดกระบวนการทำงาน ล่าสุด ได้ตั้งคณะกรรมการ 3 ชุด เพื่อให้เงินกองทุน ได้แก่ คณะกรรมการกลั่นกรองโครงการที่จะขอรับเงินอุดหนุนจากกองทุนฯ คณะกรรมการเขียนแผนยุทธศาสตร์ และ คณะกรรมการติดตามประเมินผล เพราะที่ผ่านมา การขอรับเงินกองทุนฯไม่มีระเบียบชัดเจน ไม่มีการติดตามประเมินผล ทำให้หลายโครงการที่นำเงินไปใช้ ไม่เกิดประสิทธิภาพเท่าที่ควร

“เราต้องทำงานให้มีระบบอย่างมืออาชีพ เพราะขณะนี้ การบริหารกองทุนได้เปลี่ยนมือจากภาคการเมือง มาเป็นภาคข้าราชการ ซึ่งทางเราได้เซ็นรับมอบอำนาจตรงนี้มาจากกระทรวงการคลัง พร้อมคำรับรองว่าจะใช้เงินกองทุนให้คุ้มค่า โปร่งใส ตรวจสอบได้ จากนี้จะต้องดำเนินการยกร่างระเบียบการใช้เงินกองทุนมาแก้ไขใหม่ โยกลางเดือนสิงหาคมจะมีการประชุมกันเป็นครั้งที่ 2”

สำหรับหลักเกณฑ์การใช้เงินกองทุน กรอบเบื้องต้น คือ ให้หน่วยงานราชการ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เท่านั้น ที่สามารถขอรับเงิน หากภาคเอกชน หรือสมาคม มีโครงการที่ดี ก็ให้ร่วมกันหน่วยงานภาครัฐดังกล่าว แล้วจึงมาขอรับเงินอุดหนุนได้ ส่วนการให้กู้ยืม มีแนวคิดจัดตั้งเป็นแมทชิ่งฟันด์ ระดมเงินจากกองทุนฯและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น มาปล่อยกู้ให้แก่โครงการด้านการท่องเที่ยว ส่วนอัตราดอกเบี้ย อยู่ระหว่างการหารือซี่งมีผู้เสนอว่าจะคิดอัตราที่ 3.5% ซึ่งการประชุมครั้งหน้าจะหาข้อสรุป

“โครงการที่จะขอใช้เงินจากกองทุนจะแบ่งเป็นหมวดหมู่ เช่น การวิจัย การพัฒนา และ การส่งเสริมการตลาด เป็นต้น ภารกิจของเราคือ ทำกติกาให้ชัดเจน ซึ่งขณะนี้ยังไม่ได้ตัดสินว่า การปล่อยกู้ หรือสนับสนุน จะมีหลักเกณฑ์พิจารณาอย่างไร คาดว่าจะสรุปได้ในการประชุมครั้งต่อไป ดังนั้นในอนาคต กองทุนก็จะมีทั้งรายจ่ายและรายได้เกิดเงินหมุนเวียน”

ปัจจุบัน กองทุนฯมีเงินประมาณ 400 ล้านบาท โดยเป็นเงินจากงบประมาณปี 2548-2551 แต่ในปี 2552 จะไม่ได้รับจัดสรรงบประมาณ เพราะ ยังมีเงินเหลืออยู่ในกองทุนฯ และ ต้องมีแผนการทำงานชัดเจนก่อน   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us