Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน28 กรกฎาคม 2551
แบงก์เล็กหันระดมเงินระยะยาว เตรียมรับผลกระทบพรบ.ประกันฯ             
 


   
search resources

Banking and Finance
มงคล ลีลาธรรม




แบงก์ขนาดเล็กเตรียมพร้อมรับมือพ.ร.บ.คุ้มครองเงินฝาก เผยเน้นให้ความรู้แก่ลูกค้าและพนักงาน พร้อมปรับโครงสร้างเงินฝากให้เป็นเงินฝากระยะยาวเพิ่มขึ้น และจับตาภาวะสภาพคล่องอย่างใกล้ชิด แต่มั่นใจแบงก์เล็กจะยังคงได้ประโยชน์จากการกระจายเงินมายังธนาคารใหม่ ขณะที่การแข่งขันด้านดอกเบี้ยจะมีเพิ่มขึ้น

นายมงคล ลีลาธรรม ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารไทยเครดิต เพื่อรายย่อย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ธนาคารได้ทำการส่งแผนฉุกเฉินเพื่อรองรับการไหลเข้าออกของเงินหลังจากมีการประกาศใช้พ.ร.บ.คุ้มครองเงินฝากส่งให้ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)แล้ว โดยในแผนได้มีการแบ่งออกเป็น 3 ส่วนคือ ผลกระทบต่อธนาคารผลกระทบต่อธนาคารอื่น และผลกระทบต่อระบบธนาคาร ซึ่งจะทำให้ธนาคารทราบว่าจะต้องดำเนินงานอะไรต่อไป

ทั้งนี้ แผนงานสำคัญที่สุดในส่วนของธนาคารนั้น ได้แก่ เน้นการดูแลลูกค้าการรู้จักลูกค้าและให้ความรู้แก่ลูกค้าเกี่ยวกับพ.ร.บ.ดังกล่าว โดยได้มีการให้ความรู้กับพนักงานเกี่ยวกับพ.ร.บ.นี้และพ.ร.บ.สถาบันการเงินไปพร้อมๆกันด้วย เนื่องจากจะมีการประกาศใช้ใกล้เคียงกัน รวมถึงธนาคารจะมีการปรับสัดส่วนเงินฝากให้เป็นรูปแบบเงินฝากระยะยาวให้มากขึ้น

ส่วนเครื่องมือในการบริหารความเสี่ยงและสภาพคล่องที่ทางธปท.ได้กำหนดให้ธนาคารทุกแห่งต้องทำขึ้นมานั้น ขณะนี้ธนาคารก็อยู่ระหว่างการดำเนินงาน โดยเครื่องมือการบริหารความเสี่ยงนั้นที่ธนาคารดำเนินการอยู่นั้น จะมีส่วนช่วยประเมินเพื่อรองรับความเสี่ยง เช่น หากอัตราดอกเบี้ยมีการเปลี่ยนแปลงธนาคารจะมีผลกระทบอยู่ที่ 15% เท่านั้นส่วน 85% จะเป็นส่วนที่ธนาคารได้จัดการความเสี่ยงไว้แล้ว โดยการยอมรับความเสี่ยงที่ 15% นั้นเนื่องจากเป็นการเปิดช่องไว้สำหรับอัตราดอกเบี้ยที่อาจมีการปรับเพิ่มหรือลดนั่นเอง

ส่วนด้านสภาพคล่องนั้น ธนาคารกำลังดำเนินการจัดการเงินฝากและสินเชื่อให้มีความสอดคล้องกันมากขึ้น

"ตอนนี้เราก็เตรียมความพร้อมอยู่ และพยายามดูว่าลูกค้าเงินฝากเป็นอย่างไร สิ่งที่จะได้รับผลกระทบเป็นอย่างไร และได้มีการแบ่งระดับช่วงของเงินฝากออกมาเพื่อให้ง่ายต่อการดูว่าเป็นอย่างไร เพื่อจัดทำกลยุทธ์ธุรกิจให้สอดคล้อง ส่วนต่อจากนี้การแข่งขันเรื่องของอัตราดอกเบี้ยคงมีมากขึ้นอย่างแน่นอนซึ่งจะทำให้ผู้ฝากเงินมีทางเลือกมากขึ้น ส่วนลูกค้ารายใหญ่ก็คงจะเปลี่ยนไปเลือกทางอื่นแทน เช่น อาจจะลงทุนในกองทุนมากขึ้น เป็นต้น"

นายมงคล กล่าวว่า เมื่อมีการประกาศใช้ พ.ร.บ.คุ้มครองเงินฝากแล้ว จะเป็นผลบวกกับธนาคาร เนื่องจากธนาคารได้มีการติดตามดูแลเรื่องนี้อย่างใกล้ชิดแล้วพบว่า ในช่วง 1-2 เดือนที่ผ่านมามีลูกค้าเงินฝากรายใหม่เพิ่มขึ้น เนื่องจากลูกค้าต้องการกระจายฐานเงินมายังธนาคารใหม่ๆ และตัวเลขยอดเงินฝากของธนาคารเมื่อเทียบกับสิ้นปีก่อนมีการขยายตัวถึง 130% โดยกลุ่มเป้าหมายลูกค้าเงินฝากของธนาคารนั้นต้องการลูกค้าที่เป็นรายย่อย

สำหรับปัจจุบันสัดส่วนลูกค้าเงินฝากของธนาคารแบ่งเป็นลูกค้าเงินฝากออมทรัพย์ 30% และเงินฝากประจำ 70% ทั้งนี้ส่วนหนึ่งที่ทำให้ลูกค้าเงินฝากของธนาคารเพิ่มขึ้น เนื่องจากธนาคารได้มีการออกผลิตภัณฑ์เงินฝากออมทรัพย์ที่จะจ่ายอัตราดอกเบี้ยในวันแรกที่ฝากเงินทันที แต่มีเงื่อนไขว่าลูกค้าจะต้องมีการรักษายอดเงินไว้ตลอดเวลา 6-12 เดือน เช่น ลูกค้าฝากเงิน 500,000 บาท และมีการักษายอดเงินไว้เป็นเวลา 12 เดือน จะได้รับดอกเบี้ยทันที 17,000 บาท แต่หากลูกค้าจะเบิกเงินก่อนกำหนดก็สามารถทำได้ แต่จะได้รับอัตราดอกเบี้ยอยู่ที่ 1.25% ซึ่งยังถือว่าสูงกว่าอัตราดอกเบี้ยที่ธนาคารแห่งอื่นให้

นายไชยวัฒน์ ตันชีวะวงศ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารสินเอเชีย จำกัด (มหาชน) หรือ ACL กล่าวว่า ธนาคารสินเอเซียถือว่าเป็นธนาคารที่มีเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง (BIS) สูงที่สุดในระบบ การใช้พ.ร.บ.คุ้มครองเงินฝากนั้นในปีแรกยังไม่มีอะไรที่น่าห่วงเนื่องจากยังมีการคุ้มครองที่เต็มจำนวนและเชื่อว่าน่าจะเป็นผลดีกับธนาคารเนื่องจากจะมีการกระจายเงินฝากไปยังทุกแห่ง แต่หากลูกค้ามีความกังวลและมาถอนเงินนั้นธนาคารได้มีการซ้อมแผนรองรับฉุกเฉินไว้แล้ว โดยจะได้จัดให้ความรู้แก่พนักงานและทำความเข้าใจกับลูกค้าให้มากขึ้น

นอกจากนี้ ธนาคารยังมีแผนรองรับสภาพคล่องไว้ด้วย โดยจะมีคณะกรรมการที่ดูแลเกี่ยวกับสภาพคล่องเป็นรายวัน และหากมีกรณีที่บางสาขามีลูกค้าแห่ถอนเงิน ทางสำนักงานใหญ่ก็จะมีการเพิ่มสภาพคล่องให้ทันที

ส่วนแผนงานระยะยาวนั้นธนาคารจะมีการกระจายรูปแบบเงินฝากให้เล็กลง โดยจะเน้นลูกค้าวงเงินฝาก 1-20 ล้านบาทมากขึ้น และจะมีการชะลอการเปิดสาขาในต่างจังหวัดและหันมาเปิดในกรุงเทพฯให้มากขึ้นเพื่อเจาะกลุ่มลูกค้ากลุ่มดังกล่าว   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us