|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
SCC อัดงบ 2,400 ล้านบาท ร่วมลงขันกับ The Dow Chemical Company จากสหรัฐฯ เพื่อผลิตเม็ดพลาสติกที่เป็น Specialty Elastomers ผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีปลายน้ำ คาดเริ่มเดินเครื่องผลิตต้นปี 54 รองรับการส่งออกทั่วเอเชีย
นายกานต์ ตระกูลฮุน กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จํากัด (มหาชน) (SCC) แจ้งว่าขอเรียว่า คณะกรรมการได้เห็นชอบให้เครือซิเมนต์ไทยลงทุนในโครงการร่วมทุนสร้างโรงงานผลิต Specialty Elastomers ที่มีคุณสมบัติคล้ายยาง ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีปลายน้ำ กับ The Dow Chemical Company (Dow) ประเทศสหรัฐอเมริกา ในสัดส่วนการลงทุนร้อยละ 50 ต่อ 50 โดยจะตั้งโรงงานในนิคมอุตสาหกรรมเอเชีย จังหวัดระยอง
ทั้งนี้ การถือหุ้นของ SCC ร้อยละ 50 นั้นคิดเป็นสัดส่วนเงินลงทุนในส่วนของผู้ถือหุ้นมูลค่าประมาณ 2,400 ล้านบาท ซึ่งโรงงาน Specialty Elastomers นี้ จะมีกำลังการผลิต 220,000 ตันต่อปีและคาดว่าจะสามารถเริ่มดำเนินการผลิตเชิงพาณิชย์ได้ในไตรมาสแรกของปี 2554 โดยมีฐานการตลาดทั้งในประเทศและภูมิภาคเอเชีย
สำหรับ Specialty Elastomers ถือเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าเพิ่มสูง (High Value Added Product) โดยเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีคุณสมบัติพิเศษ สำหรับใช้เป็น Sealant Layer ในอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์และเป็นสารเพิ่มความต้านแรงกระแทก (Impact Modification) ในอุตสาหกรรมยานยนต์ ทั้งนี้จะจัดหาวัตถุดิบจาก Naphtha Cracker แห่งที่ 2 ของ SCC (บริษัทมาบตาพุดโอเลฟินส์ จำกัด) ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุน (Joint Venture) ระหว่าง SCC กับ Dow ในสัดส่วนการลงทุนร้อยละ 67 และร้อยละ 33ตามลำดับ มาใช้สำหรับการผลิต Specialty Elastomers นี้
ขณะที่ เมื่อ 23 กรกฎาคม ซึ่งบอร์ดอนุมัติให้บริษัทกระเบื้องกระดาษไทย (กระเบื้องกระดาษ) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ SCC (SCC ถือหุ้นร้อยละ 100)ลงทุนประมาณ 1,000 ล้านบาท เพื่อขยายกำลังการผลิตผลิตภัณฑ์ไม้สังเคราะห์ซึ่งผลิตจากไฟเบอร์ซีเมนต์โดยมีกำลังการผลิตสูงสุดเพิ่มอีก 7.4 ล้านตารางเมตรต่อปี จากกำลังการผลิตเดิมทั้งหมด 100 ล้านตารางเมตร ต่อปี คาดว่าจะสามารถเริ่มดำเนินการผลิตเชิงพาณิชย์ได้ในไตรมาสสุดท้ายของปี 2552 ที่โรงงานท่าหลวง จังหวัดสระบุรี และคาดว่าตลาดสำหรับไม้สังเคราะห์ซึ่งผลิตจากไฟเบอร์ซีเมนต์จะมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องจากคุณสมบัติที่สามารถทดแทนไม้จริง ทั้งในด้านความทนทาน สวยงาม และราคา
|
|
|
|
|