|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
โดมอนรีแบรนด์ใหญ่รอบ 30 ปี ทุ่มงบรวม 50 ล้านบาท หวังขยายสู่กลุ่มเป้าหมายวัยรุ่น รื้อฟื้นประกวดโดมอนแมนใหม่ คาดปีนี้เติบโต 15%
นายบุญศักดิ์ วัฒนหฤทัย กรรมการผู้จัดการ และนางสาวบุษบา วัฒนหฤทัย ผู้จัดการฝ่ายพัฒนาธุรกิจ บริษัท โดมอน 1987 จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายเสื้อผ้าแฟชั่นแบรนด์ โดมอน เปิดเผยว่า หลังจากที่แบรนด์โดมอนได้อยู่ในตลาดมานานกว่า 30 ปี แต่ได้หยุดการทำตลาดไปนานกว่า 4-5 ปีที่ผ่านมา ขณะนี้บริษัทได้กลับมารุกตลาดใหม่อีกครั้ง ด้วยการรีแบรนด์ใหม่ทั้งหมด โดยใช้งบการตลาดปีนี้รวม 20 ล้านบาท
แผนการรีแบรนด์นั้น ประกอบด้วย 1.การรื้อฟื้นการจัดประกวดโดมอนแมน ซึ่งหลังจากที่เคยจัดครั้งแรกเมื่อปี 1986 และจัดต่อนเนื่องถึงครั้งสุดท้ายเมื่อปี 1999 2.การจัดกิจกรรมและเป็นสปอนเซอร์งานต่างๆ เช่น ล่าสุด คือ เป็นสปอนเซอร์เสื้อผ้าให้กับเอเอฟ 4 ชุดคอนเสิร์ตและเตรียมสนับสนุนต่อกับเอเอฟ5 3.การลงสื่อโฆษณาประชาสัมพันธ์ในสื่อต่างๆ 4.การพัฒนาสินค้าให้มีไลน์ที่มากขึ้นและครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายด้วยการขยายกลุ่มเป้าหมายสู่กลุ่มวัยรุ่น
นอกจากนั้นยังมีแผนที่จะขยายสาขาเพิ่มขึ้นอีก ลงทุนเฉลี่ย 4-5 ล้านบาทต่อสาขา แบ่งเป็น แบรนด์โดมอนเบสิค 5 แห่ง เปิดแล้วที่ เจอเวนิวพัทยาและจังค์ซีลอนภูเก็ต ร้านดีสแควร์ อีก 2 ชุด ที่เซ็นทรัลบีชและสมุย ส่วนปีนี้มองทำเลที่ เซ็นทรัลแจ้งวัฒนะและขอนแก่น จากปัจจุบันที่มีสาขารวมประมาณ 35 สาขา แบ่งเป็นร้านในกรุงเทพฯ 14 แห่ง และต่างจังหวัด 21 แห่ง แต่เมื่อแยกเป็นแบรนด์คือ ร้านโดมอนมี 30 สาขา แบรนด์ดีสแควร์มี 5 สาขา ในอดีตก่อนที่เศรษฐกิจจะแย่ เคยมีมากถึง 60 สาขา พร้อมกับแผนการรีโนเวตสาขาเดิมด้วย
เป้าหมายของการรีแบรนด์คือ การขยายกลุ่มวัยรุ่นให้มากขึ้น 2.เพื่อสร้างยอดขาย และเพิ่มไลน์สินค้า โดยตั้งเป้าหมายรายได้ปีนี้เติบโตประมาณ 15% จากรายได้ปีที่แล้วประมาณ 100 กว่าล้านบาท ซึ่งมากกว่าปรกติที่เติบโต 10% เท่านั้น เพราะการรุกตลาดเต็มที่จากนี้ไป จากครึ่งปีแรกนี้เติบโต 7%
“สาเหตุที่เราเลิกจัดการประกวดโดมอนแมนไปนั้น เนื่องจากต้นทุนการจัดค่อนข้างสูงมาก กว่า 3 ล้านบาทต่อครั้ง อีกอย่างภาวะเศรษฐกิจค่อนข้างดี และการประกวดสมัยนี้มีมากมาย แต่เมื่อเรารีแบรนด์ เราจึงต้องจัดประกวดอีก เพื่อที่จะใช้เป็นส่วนหนึ่งในการรีแบรนด์ครั้งนี้ด้วย”
ทั้งนี้และแบรนด์มีความแตกต่างกันคือ หากเป็นแบรนด์โดมอนเบสิค เน้นคนทำงาน ลูกค้าทั่วไป ราคาเฉลี่ย 200-2,500 บาท มีสัดส่วนรายได้ 50% ลูกค้า จะเป็นคนไทยกว่า 60% ต่างชาติ 40% ส่วนแบรนด์ดีสแควร์ เน้นกลุ่มอายุ 18 ปีขึ้นไป ที่เป็นวัยรุ่น แนวแฟชั่นและอินดี้ สัดส่วนรายได้ 25% ราคาเฉลี่ย 650-15,000 บาท ลูกค้าคนไทย 40% และลูกค้าต่างชาติ 60% ส่วนแบรนด์โดมอนอูโม จับกลุ่มบีบวก วัตถุดิบนำเข้าจากต่างประเทศ ราคาเฉลี่ย 650-3,000 บาท ลูกค้าคนไทย 60% ต่างชาติ 40%
นอกนั้นก็มีแอสเซทซอรี่ต่างๆที่กลุ่มโดมอนได้พัฒนาขึ้นมาหลากหลายเช่น รองเท้า เข็มขัด ชุดชั้นใน กระเป๋า ถุงเท้า หมวก เป็นต้น โดยชุดชั้นในมียอดขายเติบโตที่ดีที่สุด ขณะที่สัดส่วนลูกค้าเป็นผู้หญิงประมาณ 15% นั้น แม้ว่ากลุ่มนี้จะเติบโตดีและมีการใช้จ่ายมากกว่ากลุ่มผู้ชาย แต่บริษัทฯจะคงสัดส่วนนี้ไว้เพราะตลาดแข่งขันกันสูง แฟชั่นเปลี่ยนแปลงเร็ว ขณะที่ตลาดผู้ชายนั้นเติบโตดี
สำหรับตลาดต่างประเทศนั้น มีแผนที่จะขยายตลาดด้วยการแต่งตั้งดิสทริบิวเตอร์เพิ่มเติมอีก เช่น สเปน เวียดนาม มาเลเซีย เป็นต้น จากเดิมที่มีดิสทริบิวเตอร์อยู่แล้วที่ สิงค์โปร์และฮ่องกง
|
|
|
|
|