Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน25 กรกฎาคม 2551
ไม่มั่นใจศก.สวนทางจีดีพีโตโอสถสภาพึ่งนวัตกรรมดึงยอด             
 


   
www resources

โฮมเพจ บริษัท โอสถสภา จำกัด

   
search resources

โอสถสภา, บจก.
Commercial and business




โอสถสภา ชี้จีดีพีทั้งปีโต 5% แต่ผู้บริโภคกลับไม่มั่นใจเศรษฐกิจ เปิดแผนครึ่งปีหลัง เร่งส่งนวัตกรรมปลุกกำลังซื้อ เทกว่า 70 ล้านบาท ปรับสูตรแป้งเด็กเบบี้มายด์"สวิทติ้ พิงค์" ชูจุดขายมอยซ์เจอไรเซอร์ ขยายฐานกลุ่มผู้ใหญ่ ลั่นปีหน้าโค่นจอห์นสันฯ รั้งอันดับ 2 ครองแชร์ 20% สิ้นปีกลุ่มคอนซูเมอร์โกยรายได้ 6,000 ล้านบาท

นายวิเชียร สันติมหกุลเลิศ ผู้อำนวยการการตลาด บริษัท โอสถสภา จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เด็กเบบี้มายด์ เปิดเผยว่า นโยบายการตลาดในช่วงครึ่งปีหลัง บริษัทจะเร่งเปิดตัวสินค้านวัตกรรมใหม่ลงสู่ตลาด เพื่อกระตุ้นกำลังการซื้อ แม้ว่าปีนี้ผลิตภัณฑ์มวลรวมของประเทศทั้งปีมีอัตราการเติบโต 5% แต่เนื่องจากผู้บริโภคไม่มั่นใจในการจับจ่ายใช้สอย และเริ่มลดปริมาณการใช้สินค้าที่ไม่จำเป็นลง อาทิ โรลออน กลุ่มคอสเมติก โดยพบว่าตลาดโคโลญจ์ติดลบ 10%

ล่าสุดบริษัทได้ทุ่มงบกว่า 70 ล้านบาท เปิดตัวแป้งเด็กเบบี้มายด์"สวิทติ้ พิงค์" ซึ่งเป็นสูตรที่ปรับใหม่โดยเพิ่มคุณค่าเรื่องการบำรุงผิว เพื่อขยายฐานกลุ่มเป้าหมายจากเด็กสู่กลุ่มเป้าหมายผู้หญิงอายุ 18-25 ปี โดยเฉพาะกลุ่มนักศึกษา วัยทำงาน และคุณแม่ยุคใหม่ เนื่องจากพบว่าอัตราการเกิดของเด็กน้อยลง พร้อมกันนี้ยังได้เปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาชุดใหม่ โดยชูจุดเด่นส่วนผสมแป้งด้วยมอยซ์เจอไรเซอร์ ซึ่งนำมาริโอ้ เมาเร่อ และแพท - อังศุมาลิน สิรภัทรศักดิ์เมธา มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ และเตรียมแจกสินค้าตัวอย่าง 1 ล้านชิ้น

นายวิเชียร กล่าวว่า ที่ผ่านมาแป้งเด็กจะชูกลยุทธ์ความเป็นสินค้าสำหรับเด็กเป็นจุดขาย โดยมีหลากหลายกลิ่น ทำให้แย่งลูกค้ากันเอง ซึ่งหลายแบรนด์พยายามวางตำแหน่งแต่ละกลิ่นให้มีความชัดเจน แต่ยังไม่เด่นชัดเท่าที่ควร ดังนั้นบริษัทจึงเล็งเห็นโอกาสทางการตลาด โดยสร้างภาพลักษณ์เบบี้มายด์สวิทตี้ พิงค์ให้มีความชัดเจน โดยการนำเสนอและการสื่อสารจุดขายให้ชัดเจน และแยกกลุ่มลูกค้าให้ชัดเจนยิ่งขึ้น

"เราเลือกที่จะปรับโฉมแป้งเด็กสีชมพู เพราะเป็นสีที่สะท้อนถึงความเป็นผู้หญิง อีกทั้งยังพบว่าเป็นกลิ่นที่มีสัดส่วนกว่า 50% หรือราวกว่า 1,000 ล้านบาท ในตลาดแป้งเด็ก ทำให้หลายแบรนด์โฟกัสที่สีชมพูมากขึ้นในช่วงหลายปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามจากการขยายฐานลูกค้าสู่กลุ่มผู้ใหญ่จะผลักดันให้เบบี้มายด์มีอัตราการเติบโต 20% ในปีนี้"

สำหรับตลาดแป้งเด็กมูลค่า 4,000 ล้านบาท โดยปีนี้คาดว่าตลาดมีอัตราการเติบโต 6-7% โดยเฉพาะแป้งเด็กมูลค่ากว่า 2,000 ล้านบาท เติบโต 9% ขณะที่แป้งเพื่อความงามมูลค่า 300-400 ล้านบาท ติดลบ หลังจากเมื่อ 3-4 ปีที่ผ่านมาเติบโต 100-200% เนื่องจากราคาสูงกว่าแป้งเด็ก ที่เหลือเป็นแป้งเย็นมูลค่ากว่า 1,000 ล้านบาท อย่างไรก็ตามจากการดำเนินการตลาดเชิงรุกตั้งเป้าปีหน้านี้ เบบี้มายด์จะขึ้นเป็นอันดับ 2 ครองส่วนแบ่งเพิ่มจากกว่า 16% เป็น 20% แทนที่จอห์นสัน แอนด์ จอห์สัน ซึ่งมีส่วนแบ่ง 25% ส่วนผู้นำแป้งเด็กแคร์ 44%

นายวิเชียร กล่าวว่า บริษัทวางแผนเปิดตัวโรลออนทเวลฬ์พลัส สูตรใหม่ ป้องกันแบคทีเรีย นวัตกรรมใหม่ทางการตลาด ทั้งนี้เพื่อรักษาอัตราการเติบโตกลุ่มโรลออน ซึ่งในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมามีอัตราการเติบโต 30% ส่วนเรื่องราคาสินค้าบริษัทไม่มีแผนปรับขึ้น ขณะที่การร่วมมือกับภาครัฐลดราคาสินค้า ขณะนี้ยังไม่ได้มีการเจรจา แต่หากร่วมมือได้บริษัทก็ยินดีให้ความร่วมมือ แม้ว่าต้นทุนต่างๆ จะปรับเพิ่มขึ้น ซึ่งรวมถึงการแลกเข้าจำหน่ายผ่านช่องทางโมเดิร์นเทรดที่เพิ่มขึ้น จากคิดในอัตราเป็นหลักล้านบาทต่อสินค้า 1 รายการ ต่อ 1 สาขา

สำหรับผลประกอบการกลุ่มสินค้าอุปโภคให้เป็นไปตามเป้าหมาย โดยมีรายได้ 6,000 ล้านบาท จากในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมามีรายได้ 3,000 ล้านบาท มีอัตราการเติบโต 8% ทั้งกลุ่มเบบี้มายด์ เป็นสินค้าเรือธงสร้างรายได้ 50% หรือราว 3,000 ล้านบาท ที่เหลือเป็นอื่นๆ 3,000 ล้านบาท ส่วนกลุ่มเครื่องดื่มชูกำลังสร้างรายได้บริษัทโอสถสภาราว 1.2-1.3 หมื่นล้านบาท   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us