สยามพิวรรธน์ยังมั่นใจเศรษฐกิจไทยมีอนาคต ชี้ปัญหาต่างๆจะดีขึ้นแน่ ยันไม่ปรับแผนลงทุน พร้อมเปิดตัวโครงการใหม่ปลายปีนี้แน่ หลังครึ่งปีแรกผลประกอบการเติบโต 5%

นางชฎาทิพ จูตระกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด ผู้บริหารสยามดิสคัฟเวอรี่ และสยามเซ็นเตอร์ เปิดเผยว่า ช่วงครึ่งปีแรกของบริษัทฯผลประกอบการยังเติบโต 5% โดยยังมีปริมาณลูกค้าเข้ามาเดินต่อเนื่อง สัดส่วนยังเป็นคนต่างชาติเข้ามาใช้บริการประมาณ 30% แต่มีการใช้จ่ายสูงกว่าคนไทยที่เข้ามาประมาณ 70% จากจำนวนคนเข้าศูนย์ฯทั้งหมด คือ สยามดิสคัฟเวอรี่ ประมาณ 80,000 คนต่อวัน สยามเซ็นเตอร์ประมาณ 100,000 คนต่อวัน และสยามพารากอนประมาณ 120,000-150,000 คนต่อวันในวันธรรมดา

ส่วนช่วงครึ่งปีหลังบริษัทฯยังเชื่อมั่นว่า สถานการณ์ต่างๆน่าจะดีขึ้น แม้ทุกคนเป็นห่วงว่า รายจ่ายของผู้บริโภคเพิ่มขึ้น ราคาน้ำมันแพงขึ้น ค่าขนส่ง ค่าครองชีพพุ่งขึ้นหมด ต้องใช้เวลาปรับตัว กำลังซื้อของคนไทยยังทรงๆอยู่ เป็นปกติที่ในรอบ 6-10 ปี จะต้องมีวิกฤติหรืออะไรเกิดขึ้นแล้วมันก็จะจบลงได้ ซึ่งตอนนี้ที่กระทบมากสุดคือ ราคาน้ำมัน ส่วนเรื่องการเมืองนั้น คาดว่าต้องมีจุดจบอยู่แล้วอยู่ที่จะสั้นหรือยาวเท่านั้นเอง

"เราคงไม่ต้องปรับแผนตลาดอะไร ยังคงดำเนินต่อไป เพราะยังมั่นใจว่า ประเทศไทยต้องเจริญเติบโตต่อไป มีศักยภาพ มาก แผนที่เคยประกาศไว้ก็จะไม่ชะลอ โดยคาดว่าภายในปลายปีนี้จะสามารถประกาศเปิดตัวโครงการใหม่ได้แน่นอน"

นางชฎาทิพ กล่าวต่อถึงแผนการตลาดด้านซีเอสอาร์ว่า ครึ่งปีหลังนี้จะรุกกลยุทธ์การตลาดทุกรูปแบบเพื่อกระตุ้นกำลังซื้อของลูกค้าและทำบี๊กอีเว้นต์อีก ทำกลยุทธ์ซีอาร์เอ็มแบบเอ็กซ์คลูซีฟ ปีนี้บริษัทฯเตรียมแผนสร้างกิจกรรมซีเอสอาร์แสดงความรับผิดชอบต่อสังคมอย่าจงริงจังและต่อเนื่อง ล่าสุดใช้งบ 15 ล้านบาท เปิดตัวโครงการใหญ่ " Siam Discovery ECO Projects" ซึ่งเป็นกิจกรรมครบวงจรคือ Reuse Reduce Recycle ในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม โดยร่วมกับพันธมิตรเช่น กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน), บริษัท แคนนอน (ประเทศไทย) จำกัด, บริษัท เต็ดตร้าแพ็ค (ไทย) จำกัด, นิตยสารลีฟวิ่ง อีทีซี และ วอลล์เปเปอร์, บริษัท ทรูคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน), บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) โดยมี ผศ.ดร.สิงห์ อินทรชูโต หัวหน้าสาขาวิชาเทคโนโลยีทางอาคาร คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เป็นที่ปรึกษาโครงการ

โครงการตัวอย่างเช่น Origami เดือน ส.ค.-ก.ย. ศิลปะการพับกระดาษจากประเทศญี่ปุ่น, ECO MART เดือน ก.ย.-ธ.ค. จัดมหกรรมสินค้ารักษ์สิ่งแวดล้อม , Jeans for Green เดือน ก.ย.-พ.ย. ร่วมบริจาคยีนส์เก่าที่ยังใช้ได้, Scrap Lab Exhibition เดือน ก.ค.-ต.ค.) ให้นักศึกษานำวัสดุเหลือใช้ภายในศูนย์การค้าที่นำกลับมาใช้ได้อีก นำเสนอเป็นโครงการและสร้างสรรค์เป็น Sculpture เพื่อส่งเข้าประกวด