Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page


ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ
ฉบับ ตุลาคม 2534








 
นิตยสารผู้จัดการ ตุลาคม 2534
รังสฤษฎ์ กาญจนะวณิชย์ "ผมไม่ต้องการล้มเขื่อนปากมูล เพียงแต่…"             
 

   
related stories

พยาธิใบไม้จะล้มเขื่อนปากมูลได้

   
search resources

รังสฤษฎ์ กาญจนะวณิชย์
Environment




คงไม่ใช่เรื่องง่ายนักที่จะลุกขึ้นพูดความจริงให้ปรากฏต่อสาธารณชนในสิ่งที่รู้แก่ใจดีว่าอาจก่อให้เกิดอันตรายแก่ตนไม่ทางใดทางหนึ่ง แม้ว่าคำพูดเหล่านั้นจะมีหลักฐานสนับสนุนทุกประการก็ตาม

นพ.รังสฤษฎ์ กาญจนะวณิชย์ประสบกับภาวะเช่นนี้มาแล้วเมื่อไม่นานนี้เอง

การเข้าร่วมเสวนาครั้งแรกเกี่ยวกับเรื่องเขื่อนปากมูลที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยแล้วพูดว่าโรคพยาธิใบไม้ในเลือดอาจเกิดขึ้นได้ในบริเวณเขื่อนปากมูล ทำให้เขาได้รับการตั้งฉายานามว่า "หมอหอย" จากสายสิทธิ พรแก้ว ผู้ว่าราชการหึงหวัดอุบลราชธานี และหลังจากนั้นไม่นานก็ยังได้รับจดหมายจากกระทรวงสาธาณสุข-หน่วยงานต้นสังกัดให้ชี้แจงเคลียร์ตนเองใน 2 ประเด็นด้วยกันคือ หนึ่ง การไปร่วมเสวนานั้นผิดวินัยข้าราชการหรือไม่ สอง เรื่องที่พูดไปมีความเหมาะสมถูกต้องตามจรรยาแพทย์เพียงใด

"ที่ออกมาพูดเพราะว่าผู้จัดเสวนาหาคนพูดไม่ได้แรกสุดเขาพยายามเชิญนักวิชาการหลายท่านที่ทำวิจัยและรู้เรื่องนี้ดี ก็เผอิญอาจารย์ไม่ค่อยอยากพูดเท่าไร บอกว่าเป็นเรื่องการเมืองไม่อยากยุ่งทางกลุ่มก็มองว่าผมเป็นแพทย์แล้วก็อาจจะสนใจเรื่องนี้ เลยส่งข้อมูลของคณะที่ปรึกษาผลกระทบเขื่อนปากมูลมาให้ศึกษาแล้วผมก็หาอ่านเพิ่มเติมด้วย" นพ.รังสฤษฎ์ เล่าความเป็นมาของการตัดสินใจเข้าร่วมอภิปรายครั้งนั้น ที่นอกจากจะทำให้เขาต้องได้รับปัญหาตามมาแล้วยังทำให้ติดอยู่ในวงโคจรของการคัดค้านเขือนปากมูลอีกด้วย

จากครั้งแรกเมื่อสองเดือนที่แล้ว เขาเป็นผู้ร่วมอภิปรายคนหนึ่ง ในเดือนถัดมาเขาได้รับเชิญให้เป็นผู้ดำเนินการอภิปราย "เขื่อนกับปัญหาสาธารณสุข" อีกครั้งหนึ่งซี่งก็เพราะเหตุผลจากผู้จัดว่าไม่มีใครอีกแล้วทำให้เขาตอบรับอีกจนได้ ทั้ง ๆ ที่แนวทางแบบนี้เขาไม่ถนัด และไม่ใช่ตัวตนแบบที่เป็น

นพ.รังสฤษฎ์หรือ"หมอหม่อง" เป็นลูกชายคนเล็กของ ดร.รชฎ กาญจนะวณิชน์ และ

ม.ร.ว.สมานสนิท สวัสดิวัตน์ ในปัจจุบันทำหน้าที่รักษาคนไข้อยู่ที่อำเภอด่านซ้าย จังหวัดเลยย่างเข้าปีที่ 2 แล้วนับตั้งแต่จบแพทยศาสตรบัณฑิต เกียรตินิยมอันดับหนึ่งมหาวิทยาลัยมหิดล

สมัยเป็นนักศึกษาแพทย์อยู่ชั้นปีที่ 2 เขาคือคนหนึ่งที่ร่วมริเริ่มฟื้นฟูกิจกรรมชมรมอนุรักษ์ขึ้น หลังจากที่กิจกรรมทางด้านนี้ถูกละเลยไปหลังเกิดเหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519

ครั้งนั้นในแวดวงกิจกรรมนักศึกษาของมหิดลจะมองกันว่าชมรมอนุรักษ์เป็นองค์กรของกลุ่มคนชอบเที่ยว ทำกิจกรรมที่ไม่เอื้อประโยชน์กับสังคมแลไม่ค่อยก้าวหน้าสักเท่าไร

"เขายังไม่มองไม่เห็นกันว่าอันนี้คืออะไร เราก็พยายามบอกว่านี่ละคือต้นตอของปัญหาสลัม ต้นต่อของปัญหาชนบทหรืออื่น ๆ ซึ่งตอนนั้นไม่มีใครเชื่อ อาจจะพูดไม่ดีพอก็ได้ แต่ยุคนั้นก็เปลี่ยนไปแล้ว สมัยนี้กลายเป็นว่าทุกคนต้องมีคำว่าสิ่งแวดล้อมห้อยท้ายอยู่ตลอด" รังสฤษฎ์ปิดท้ายประโยคด้วยเสียงหัวเราะขรึม ๆ

ความตื่นตัวเรื่องสิ่งแวดล้อมในมหาวิทยาลัยยุคใหม่เริ่มต้นขึ้นจากกรณีที่รัฐบาลรื้อฟื้นโครงการเขื่อนน้ำโจนขึ้นอีกครั้ง ทำให้มีการประสานงานกันระหว่างชมรมอนุรักษ์ต่างสถาบันก่อตั้งเป็นคณะกรรมการอนุรักษ์ทรัพยากรและสภาพแวดล้อม 16 สถาบัน เพื่อร่วมมือกับประชาชนในท้องถิ่นต่อต้านโครงการนี้ จนที่สุดต้องล้มไปตามประชามติ

สำหรับการตื่นตัวในครั้งนั้น นพ.รังสฤษฎ์ ตั้งข้อสังเกตว่า นักศึกษาทุ่มความสนใจในเรื่องข้อมูลธรรมชาติน้อยเกินไป เมื่อเทียบกับข้อมูลด้านการเมือง

"คือในการต่อต้านเป็นแนวของการเมืองเยอะ ไม่มีใครชี้เน้นเรื่องการศึกษา เรื่องวิชาการ แม้แต่นักศึกษาคนของชมรมอนุรักษ์ก็ยังไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับธรรมชาติ แต่จะรู้เรื่องกฎหมาย เรื่องว่าใครอยู่เบื้องหลังมากกว่า ซึ่งผมไม่รู้และไม่ค่อยสนใจด้วยผมคิดว่าโอเคต้องมีคนสนใจในจุดนี้แต่ตัวเรานี่จะเน้นว่าทำอย่างไรให้คนรู้จักกับธรรมชาติและเข้าใจถึงระบบนิเวศต่าง ๆ มากขึ้น"

ที่ด่านซ้ายนอกจากการทำงานตามอาชีพ รังสฤษฎ์ได้ทำในสิ่งที่เขารักนี้ด้วย โดยได้รับความร่วมมือจากโรงเรียนศรีสองรักษ์วิทยา เปิดชั่วโมงเรียนรู้ธรรมชาติขึ้นสอนเด็กครูผู้สอนก็คือ "หมอหม่อง"

ชื่อ "หมอหม่อง" ยังเป็นที่รู้จักของเด็ก ๆ อื่น ๆ ด้วยจากการที่ได้เข้าร่วมงานค่ายของเขาหรือจากการอ่านหนังสือเด็กบางเล่มที่มีคอลัมน์ของเขาเปิดประจำอยู่ เนื้อหาของค่ายและของคอลัมน์ยังคงว่าด้วยเรื่องการรู้จักธรรมชาติ ความรู้เกี่ยวกับสัตว์ และป่า ฯลฯ

ความเป็นผู้สนใจธรรมชาติในลักษณะที่เป็นวิทยาศาสตร์นับเป็นจุดยืนที่มั่นคงของเขา แม้กระทั่งกับการถกเถียงพยาธิใบไม้ในเลือดที่เขาต้องจับพลัดจับผลูเข้ามาร่วมเกี่ยวข้องด้วย สิ่งที่เขาย้ำและเรียกร้องก็คือ ขอให้มีการวิจัยเรื่องนี้อย่างจริงจัง ไม่ใช่เรียกร้องว่าให้ล้มโครงการการเขื่อนปากมูล

"ผมไม่ได้คาดหวังว่าเขื่อนต้องหยุดหรือไม่หยุด ผมอยากให้มีขบวนการทางวิชาการมากกว่า ผมไม่อยากให้การตัดสินใจใด ๆ เป็นเรื่องของอวิชชาหรือเป็นเรื่องการอิงประโชน์ผมมองว่าบรรยากาศตอนนี้ไม่ได้เป็นบรรยากาศวิชาการผมอยากเน้นตรงนี้ ตัวผมเองไม่ใช่หมอหอย ผมเพียงมาทำหน้าที่ที่เขาขอมา ซึ่งจริง ๆ แล้วผมไม่อยากและไม่เป็นแบบนี้ที่จะต้องขึ้นเวทีอภิปราย ผมสนุกกว่าที่จะพาเด็กเข้าป่า" นั่นคือความรู้สึกแท้ ๆ ของหมอหนุ่มคนนี้

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us