Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน21 กรกฎาคม 2551
IHL ตั้งเป้าโกยรายได้ปีนี้1,800 ล.             
 


   
search resources

Auto-parts
อินเตอร์ไฮด์, บมจ.




IHL ตั้งเป้าโกยรายได้ปีนี้ 1,800 ล้านบาท หลังโชว์ผลงานไตรมาสแรกกำไรโตเหตุยอดจองเบาะหนังเพิ่ม และแผนการออกรถยนต์รุ่นใหม่ของผู้ผลิตยังมีต่อเนื่อง เผยไม่ได้สนเรื่องราคาหุ้นที่ขณะนี้เทรดต่ำกว่า 10 บาท เพราะผู้บริหารเน้นการบริหารงานเพื่อให้ผลประกอบการออกมาดี

แหล่งข่าวระดับสูง บริษัท อินเตอร์ไฮด์ จำกัด (มหาชน) ( IHL ) เปิดเผยว่าปีนี้ บริษัทตั้งเป้าการ เติบโตของรายได้ไว้ที่ระดับ 1,800 ล้านบาทหรือเพิ่มจากปีก่อน 20% อันเป็นผลจากยอดสั่งซื้อเบาะหนัง ของผู้ประกอบการรถยนต์ค่ายต่าง ๆ ที่พบว่ายังเพิ่มต่อเนื่อง โดยเฉพาะค่ายรถญี่ปุ่น ล่าสุดคือการรถยนต์ ยี่ห้อโตโยต้า อัลติสและฮอนด้า แอคคอร์ด ส่งผลให้ยอดขายเพิ่มสูงมาก บริษัทจึงมั่นใจว่าผลงานจะทำได้ ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้

โดยจากผลงานไตรมาสแรกปีนี้บริษัทมีกำไรสุทธิ 51.73 ล้านบาท เปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันปี 2550 บริษัทมีกำไรสุทธิ 36.78 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14.95 ล้านบาทหรือ คิดเป็น 40.67 % ซึ่งบริษัทมียอดราย ได้รวม 500.24 ล้านบาท เปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันปี 50 ที่มี 333.69 ล้านบาท บริษัทมียอดรายได้เพิ่มขึ้น 166.55 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 49.91 % เนื่องจากไตรมาสแรกปีนี้บริษัทยังคงรักษาความสามารถในการขาย ได้อย่างต่อเนื่อง จากคำสั่งซื้อต่างๆที่เกิดขึ้นตั้งแต่ปลายปี 50 ขณะที่ต้นทุนขายไตรมาสแรกนี้ขยับเพิ่มเล็กน้อย ของยอดขายรวม

แหล่งข่าวกล่าวว่าหลายคนอาจมองว่า IHL จะย่ำแย่ เพราะเชื่อตามอุตสาหกรรมรถยนต์ซบเซาลง รวมทั้งราคาน้ำมันทะยานต่อเนื่องมาจากปีที่แล้วและยังคงผันผวนหนักแต่ตัวเลขขออร์เดอร์และการผลิตของบริษัทยังคงมีต่อเนื่อง ตามกลยุทธและแผนการตลาดของรถยนต์แต่ละยี่ห้อ

" เราก็ผลิตตามออร์เดอร์ และผู้ผลิตรถยนต์ก็ต้องคิดค้นผลิตรถยนต์รุ่นใหม่ ๆ ออกมา เพื่อเพิ่มความหลากหลายให้กับผู้บริโภค แม้ว่าราคาน้ำมันพุ่ง แต่ผู้ผลิตก็ต้องหาวิธีการผลิตรถรุ่นใหม่ ๆ ออกมา ให้ ทันกับเหตุการณ์ ไม่ว่าจะเป็นรถที่ใช้พลังงานอื่นทดแทน นอกเหนือจากน้ำมัน " แหล่งข่าวกล่าว

ปัจจุบัน มีการผลิตรถที่เป็นลักเซอร์ลี่คาร์ (luxery car ) ก็ต้องหันมาใช้เบาะหนังมากขึ้น รวมทั้งการผลิต ไฮบริดจ์คาร์ อีโกคาร์ เป็นต้น ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการผลิตรถยนต์รุ่นใหม่ ๆ ออกมาต่อเนื่อง รวมทั้งรถยนต์ประหยัดน้ำมัน เป็นการเพิ่มทางเลือกให้กับผู้บริโภค นั่นก็ย่อมส่งผลดีต่อผู้ผลิตเบาะหนังด้วยเช่นกัน

แหล่งข่าวรายเดิมกล่าวถึงในส่วนของต้นทุนการผลิตว่าบริษัทจะสั่งซื้อวัตถุดิบจากต่างประเทศ เข้ามาด้วย ซึ่งค่าเงินไม่ได้ส่งผลกระทบต่อยอดขาย เพราะการนำเข้าวัตถุดิบและขายเป็นเงินสกุลดอลลาร์ สหรัฐฯนั้น จะทำการเฮจจิ้งหรือป้องกันความเสี่ยงโดยอัตโนมัติ

" เราส่งออกและขายในต่างประเทศเท่ากันคือ 50 % และเราจะหาตลาดใหม่เพิ่ม โดยตลาดที่ เราคิดว่าดีมากคือ ตลาดย่านเอเชีย แต่ก็มีส่งไปที่สหรัฐฯ ออสเตรเลีย ส่วนยุโรปไม่ได้ส่งออก ล่าสุดบริษัทได้ลูกค้ารายใหม่ที่บริษัทได้มาคือผู้ผลิตรถยนต์ฮุนได" แหล่งข่าวกล่าว

สำหรับราคาหุ้นของ IHL นั้น ผู้บริหารไม่ได้ให้ความสนใจมากนัก แม้ปัจจุบันเทรดกันต่ำกว่าที่ราคา 10 บาท แต่ผู้บริหารต่างให้ความสำคัญกับการบริหารเพื่อสร้างรายได้บริษัทให้เติบโตตามเป้าหมาย หลังจากปี 50 บริษัทมีผลขาดทุนสุทธิ 40 ล้านบาท อันเป็นผลจากต้นทุนเพิ่มขึ้นจากการสั่งซื้อวัตถุดิบบางรายการ และ มี ต้นทุนส่วนเพิ่มจากการปรับเปลี่ยนกระบวนการผลิตในบางส่วนงาน ซึ่งปัจจุบันบริษัทฯได้ต่อรองราคาการสั่งซื้อ ควบคู่กับการปรับปรุงกระบวนการเชิงคุณภาพอย่างต่อเนื่อง และคาดว่าในปี 51 อัตราต้นทุนดังกล่าวกลับเข้าสู่ภาวะปกติได้ รวมทั้งการตั้งสำรองค่าเผื่อการฟ้องร้องจาก บรรษัทบริหารสินทรัพย์ไทย (บสท.) 105 ล้านบาท อันเป็นผลจากการปรับโครงสร้างหนี้ ซึ่งปีนี้ไม่มีตัวเลขดังกล่าวแล้ว   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us