|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
นายกสมาคมอสังหาฯ แนะผู้ประกอบการยืนด้วยลำแข้งระบุเศรษฐกิจมีขึ้น-ลง ช่วงนี้ต้องเตรียมตัวถอย หากเศรษฐกิจดีรีบกอบโกย ชี้รัฐมีหน้าที่สร้างบรรยากาศการลงทุน วอนอย่าออกกฎขวางการดำเนินธุรกิจ ระบุ 6 มาตรการ 6 เดือนดีช่วยคนจน แต่ยังหวั่นรัฐดึงเงินของคนทั้งประเทศละเลงหาเสียง จี้ตรวจงบการเงินของประเทศ
นายสมเชาว์ ตันฑเทอดธรรม นายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย กล่าวว่า ปัจจุบันถือเป็นภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว แต่เชื่อว่ายังไม่ชะงักงัน เพราะในส่วนของภาคอสังหาริมทรัพย์แม้ว่าจะมีการชะลอตัวตั้งแต่ปี 50 จนถึงปัจจุบัน แต่ก็ยังคงมียอดขายต่อเนื่อง เพียงไม่หวือหวาเท่านั้น อีกทั้งภาวะหลายประการยังมีความผันผวนอย่างมาก ดังนั้นการดำเนินธุรกิจจะต้องระมัดระวัง โดยเฉพาะการสต๊อกสินค้าเพื่อไม่ให้แบกภาระต้นทุนไว้มาก
“ตอนนี้ถือเป็นช่วงเตรียมถอย ไม่ใช้ว่าภาวะแย่มาก แต่ต้องเตรียมตัว ช่วงดีเราเร่งเก็บเกี่ยวผลประโยชน์เร่งสร้างเร่งขายแต่ต้องขยายอย่างระวัง แต่เมื่อภาวะไม่ดีเราต้องชะลอเตรียมแผนถอยอย่าไห้มีหนี้มาก ธุรกิจอสังหาฯ เข้าง่ายแต่เวลาถอยเราไม่สามารถโล๊ะสต๊อกได้ กว่าจะขายหมดต้องใช้เวลานาน”
ดังนั้น การพัฒนาโครงการจะต้องเลือกทำเลที่มีคู่แข่งน้อย หาช่องว่างของตลาดที่ยังมีความต้องการสูง หากผู้ประกอบการตอบโจทย์เหล่านี้ ก็จะถือว่าโชคดี อย่าไรก็ตาม ผู้ประกอบการจะต้องปรับตัวให้อยู่ได้ในทุกสภาวะ แม้ว่าเศรษฐกิจจะไม่ดีก็ตาม เมื่อผ่านช่วงไม่ดีมาได้จะทำให้เกิดความเข้มแข็งขององค์กร ช่วงที่เศรษฐกิจดีผู้ประกอบการจะต้องขยายตัวให้ทัน เพื่อเก็บสะสมผละประโยชน์มาใช้ในช่วงเศรษฐกิจไม่ดี
ส่วน 6 มาตรการ 6 อกได้ กว่าจะขายหมดต้องใช้เวลานาน"ต้องงภาวะไมเดือนนั้นถือว่าดี ช่วยประชาชนผู้มีรายได้น้อย ทำให้สถานการณ์ไม่ตรึงตัวไปมากกว่าที่เป็นอยู่ เพราะค่าใช้จ่ายของภาคประชาชนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องหากไม่มีอะไรมาช่วย ผู้มีรายได้น้อยเกิดความขัดสนอาจส่งผลเสียต่อสังคมโดยรวมได้ ในทางอ้อมจะทำให้ประชาชนประหยัดขึ้น เพราะหากใช้น้ำใช้ไฟฟ้าเกินกว่าที่รัฐอุดหนุนจะต้องจ่ายเอง ทำให้เงินที่ซื้อน้ำมัน-พลังงานลดน้อยลงไปด้วย แต่มาตรการดังกล่าวก็มีข้อเสียคือต้องใช้เม็ดเงินจำนวนมาก
“รัฐบาลก็เหมือนพ่อ เมื่อลูกๆโตแต่ยังมาขอเงินพ่ออยู่ตลอดครอบครัวก็ลำบาก อนาคตมีสิทธิ์จนหรือล้อมละลาย แต่ถ้าลูกๆช่วยตัวเองได้ไม่ต้องขอเงินพ่อ บางคนเชื่อเกื้อหนุนส่งเงินให้ก็จะช่วยให้ครอบครัวร่ำรวยได้ ”
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลมีหน้าที่ช่วยให้ประชาชนอยู่ดีกินดี ดูแลประชาชน ในแง่ของธุรกิจรัฐมีหน้าที่สร้างบรรยากาศการลงทุนให้น่าลงทุน เอื้อนักลงทุนทั้งในและนอกประเทศ การออกกฎระเบียบเพื่อให้ผู้ประกอบการดำเนินธุรกิจตามกฎกติกา แต่ไม่ควรออกกฎหรือกติกาที่เป็นอุปสรรต่อการดำเนินธุรกิจ ในภาวะที่เศรษฐกิจตกต่ำควรหามาตรการมากระตุ้น หรือลงทุนในโครงการขนาดใหญ่เพื่อเป็นหัวจักรในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ เพื่อที่เอกชนจะได้ลงทุนตาม
ด้านนายจรัญ เกษร กรรมการบริหาร บริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ราคาที่อยู่อาศัยในปัจจุบันปรับขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่ขึ้นได้ไม่มาก ซึ่งผู้บริโภคเองยอมรับได้ ว่าไม่สามารถหลีกเลี่ยงภาวะนี้ได้ รรต่อการดำเนินธุรกิจ ในภาวะที่เศรษบกิจตกต่ำควรหามาตรการมากระแต่ตลาดบางเซกเตอร์ยังคงดำเนินต่อไปได้อย่างต่อเนื่อง ส่วนภาวะเศรษฐกิจโดยรวมประชาชนอยู่ในภาวะช็อกทำให้เกิดการชะงักงันชั่วขณะเท่านั้น ไม่ได้หยุดไปเลยเหมือนเช่นปี 40
“ตอนนี้ไม่ใช่แค่เตรียมตัว แต่ต้องทำเลย ทำอย่างไรให้สามารถลดต้นทุนได้ ต้องทำทุกวิถีทาง แม้ว่าจะเป็นเรื่องเล็กน้อยก็ตาม” นายจรัญกล่าว
แหล่งข่าวระดับสูงจากวงการอสังหาริมทรัพย์ กล่าวว่า สำหรับ 6 มาตรการที่รัฐบาลออกมานั้น ช่วยในส่วนของรากหญ้าหรือผู้มีรายได้น้อย เป็นนโยบายมวลชน เป็นความพยายามในช่วงที่สามารถจะทำได้ ให้เห็นว่ารัฐบาลชุดนี้ยังมีอะไรดีๆอยู่บ้าง แต่ถามว่า 4 หมื่นกว่าล้านบาทที่เสียไปนั้นคุ้มค่าเพียงใด
สิ่งที่น่าเป็นห่วงที่สุด คือเม็ดเงินของประเทศในปัจจุบันมีเพียงพอหรือไม่ เพราะขณะนี้ไม่มีใครออกมาเปิดเผยงบการเงินของประเทศว่าเป็นอย่างไร มีเหลืออยู่จำนวนเท่าใด เพราะก่อนหน้านี้รัฐบาลออกมาระบุว่าหากลดภาษีรัฐจะสูญเสียรายได้จำนวนมาก แต่มานโยบายปัจจุบันกลับระบุว่ามีเงินเพียงพอที่จะมาอุดหนุน 6 มาตรการ ชึ่งเรื่องนี้จะต้องมีหน่วยงานที่ออกมาเปิดเผยข้อมูลให้ประชาชนได้รับทราบ
“ส่วนการลดภาษีน้ำมันนั้น เชื่อว่าประชาชนไม่รับรู้ เพราะราคาน้ำมันเพียงแค่ไม่กี่เดือนปรับขึ้นกว่า 10 บาท ขณะที่ภาษีน้ำมันลดแค่ 2-3 บาทเท่านั้น ซึ่งการไม่รับรู้นี้เป็นสิ่งที่น่ากลัว เหมือนกบที่กำลังถูกลนไฟ ปล่อยไว้นานๆ กบก็จะแห้งตายในที่สุด ”
|
|
|
|
|