|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
ตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปร้อนฉ่า เมื่อยำยำ เข้ามาเปิดศึกรสต้มยำอีกครั้ง ด้วยการเปิดตัว ต้มยำทะเลหม้อไฟ ซีรีส์ 5 ในตระกูลรสชาติต้มยำ งัดไม้เด็ด สื่อสารตำแหน่งสินค้า บะหมี่ที่มีความเปรี้ยวเผ็ดแบบ "เซ็กซี่ สไปซี่ นูดเดิ้ล"ผ่านพรีเซนเตอร์ "เป้ย-ปานวาด" หวังโกยส่วนแบ่งตลาดขึ้นจาก 7% เป็น10 % เขย่าบัลลังก์ของมาม่าเจ้าตลาดบะหมี่รสต้มยำ
หลังจากที่นำ "ยำยำ จัมโบ้" ที่แต้มต่อจุดขายในเรื่องของ Value for Money ซึ่งมีความแตกต่างจากบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปแบรนด์อื่น เข้ามาเปิดศึกในตลาดรสต้มยำ เมื่อปีผ่านมาด้วยการรีลอนซ์ยำยำ จัมโบ้ ตระกูลต้มยำใหม่ทั้งหมด ทั้งการปรับปรุงรสชาติของผลิตภัณฑ์ การปรับปรุงและพัฒนาบรรจุภัณฑ์โฉมใหม่ สร้างภาพลักษณ์สินค้าให้มีความทันสมัยและตรงกับความต้องการของกลุ่มวัยรุ่นและคนเริ่มทำงาน
การเดินหน้าปลุกตลาดเซกเมนต์ต้มยำของ ยำยำ จัมโบ้ ล่าสุดปิดเกมรุกด้วยการแตกรสชาติ ต้มยำทะเลหม้อไฟ เป็นครั้งแรกในปีนี้ เหตุผลของการเข้ามาปักธงในตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปรสต้มยำ นั่นเพราะเป็นรสชาติฮิตที่ติดตลาดครองอันดับหนึ่งในใจคอบะหมี่มานาน ตามติดด้วยหมูสับ เป็นรสชาติที่นิยมรองลงมา ซึ่งมียำยำจัมโบ้หมูสับเป็นสินค้าที่สร้างยอดขายหลัก โดยที่ผ่านมาบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปรสต้มยำ เป็นที่ต้องการของตลาดมาก และยังมีแนวโน้มจะขยายตัวได้มากที่สุดตามพฤติกรรมการบริโภคของคนไทยที่นิยมบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่มีรสจัดยิ่งขึ้น โดยมีขนาดตลาดคิดเป็น 50% หรือมูลค่า 5,000 ล้านบาท
ประการต่อมา ตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป รสต้มยำ ยังเป็นกลุ่มรสชาติที่สร้างรายได้สูงสุดของตระกูลยำยำ จัมโบ้ แบ่งเป็น สัดส่วนรสต้มยำ 60% รสหมูสับ 30% และอื่นๆ 10% อย่างไรก็ตามหลังจากที่ ยำยำ เข้ามาเปิดศึกด้วยรสชาติใหม่ ยำยำ จัมโบ้ ต้มยำทะเลหม้อไฟ คาดหวังจะผลักดันให้ยำยำ มีส่วนแบ่ง 7% เป็น 10% ของตลาดรสชาติต้มยำ
แนวรุกด้วยบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปยำยำ จัมโบ้ ต้มยำทะเลหม้อไฟ ถือว่าเป็นซีรีส์ 5 ในตระกูลต้มยำ เพราะการทำตลาดรสต้มยำของยำยำ จัมโบ้ ที่ผ่านมา จะให้ความสำคัญกับการออกรสชาติใหม่อย่างต่อเนื่อง โดยมีสินค้าวางตลาดถึง 4 รสชาติ ไม่ว่าจะเป็นรสต้มยำกุ้ง ต้มยำกุ้งน้ำข้น ต้มยำหมูสับ และการออกรสชาติล่าสุดคือต้มแซ่บตำรับอีสาน น้องใหม่ในตระกูลต้มยำ ที่เป็นตัวหลักในการผลักดันให้ยำยำ จัมโบ้ตระกูลต้มยำมีอัตราการเติบโตถึง 50% ในขณะที่ตัวเลขของตลาดรวมบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปรสต้มยำเติบโตเพียง 20%
นับว่ารสชาติที่มีความหลากหลายเป็นแรงขับเคลื่อนที่สำคัญที่จะทำให้ ยำยำ จัมโบ้ สามารถเข้าไปร่วมแบ่งเค้กในตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปรสชาติต้มยำได้เป็นอย่างดี เนื่องจากตลาดรสชาติต้มยำเป็นขุมทองในตลาดที่มีการแข่งขันสูง เห็นได้ว่าการแข่งขันของบรรดาแบรนด์หลักทั้ง 3 แบรนด์ในตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่ผ่านมา ต่างมุ่งตรงไปที่ตลาดรสชาติต้มยำ ซึ่งมีแบรนด์ "มาม่า" ครองส่วนแบ่งตลาดกว่า 70 เปอร์เซ็นต์ และถือว่าเป็นผู้นำตลาดที่มีรสต้มยำกุ้ง ซึ่งมีความแข็งแกร่งมากที่สุดในตลาดนี้
ขณะเดียวกัน การเปิดศึกของ ยำยำ ในตลาดรสต้มยำ ยังจะต้องเผชิญกับศึกอีกด้านคือ ไวไว ที่ใช้กลยุทธ์การแตกซับแบรนด์ "ควิก"ออกมาเพื่อสร้างความชัดเจนในการเข้ามาเปิดศึกในตลาดรสต้มยำเพื่อเขย่าบัลลังก์ของมาม่าโดยตรง และจากจุดเด่นที่รูปแบบการทำตลาด ควิก เน้นรสชาติจัดจ้าน ความสะดวกในการรับประทานที่ตรงกับไลฟ์สไตล์ รวมทั้งการสื่อสารการตลาดและแพกเกจจิ้งของสินค้า ที่มุ่งตรงไปถึงกลุ่มเป้าหมายวัยรุ่นและคนรุ่นใหม่ ถือเป็นเครื่องมือสำคัญในการผลักดันทำให้ ควิก ช่วงชิงตลาดมาได้อย่างรวดเร็ว ด้วยส่วนแบ่ง ในตลาดรสต้มยำ
แม้ว่าส่วนแบ่งทางการตลาดมาม่า จะอยู่เหนือกว่าหลายขุม แต่ความพยายามของ ยำยำ ในการจะเข้ามาเปิดเกมรบเพื่อช่วงชิงตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปรสต้มยำของมาม่า มีการทำตลาดอย่างต่อเนื่อง โดยกลยุทธ์การตลาดที่เป็นสูตรสำเร็จตามฟอร์มการทำการตลาดเชิงรุกของยำยำคือการใช้กลยุทธ์พรีเซนเตอร์เพื่อสร้างความจดจำแบรนด์ และเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้เป็นอย่างดี ซึ่งถือเป็นหมัดเด็ดอีกตัวที่ส่งเข้ามาเพื่อสร้างฐานลูกค้าให้กับยำยำมาอย่างต่อเนื่อง เริ่มตั้งแต่เมื่อ 4-5 ปีก่อน ที่ได้ "พลอย-ไลลา บุญยศักดิ์" มาเป็นพรีเซนเตอร์บะหมี่ "ยำยำ รสต้มยำกุ้ง" แซบเผ็ดร้อน
สำหรับการใช้กลยุทธ์พรีเซ็นเตอร์เพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายของยำยำในการเปิดตัวบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปยำยำ จัมโบ้ ต้มยำทะเลหม้อไฟ ล่าสุดเปิดตัวภาพยนตร์โฆษณา "ยำยำ จัมโบ้ ต้มยำทะเลหม้อไฟ"ภายใต้คอนเซ็ปต์ "เต็มรสต้มยำ หอมกลิ่นซีฟู้ด" โดยสื่อสารคุณสมบัติของสินค้าผ่านพรีเซนเตอร์ "เป้ย-ปานวาด เหมมณี" ซึ่งมีภาพลักษณ์เซ็กซี่ และสามารถถ่ายทอดบุคลิกแบรนด์ที่สื่อถึงความเปรี้ยวเผ็ดของสินค้าแบบ "เซ็กซี่ สไปซี่ นูดเดิ้ล" ได้อย่างชัดเจน พร้อมทั้งปรับรูปโฉมแพกเกจจิ้งใหม่ของของยำยำ จัมโบ้ ซีรีส์ 5 ในตระกูลต้มยำให้ดูทันสมัย ร้อนแรง โดยเพิ่มความสดใส สบายๆ ในบรรยากาศทะเล ให้เหมาะกับรสตัมยำทะเลหม้อไฟ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่ต้องการความ "อร่อย" และมีรสนิยมการรับประทานบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่ต้องมีรสจัดยิ่งขึ้น
พร้อมทั้งวางงบการทำตลาดใหญ่ เพื่อโปรโมต ยำยำ จัมโบ้ รสต้มยำทะเลหม้อไฟในช่วงครึ่งปีกว่า 30 ล้านบาท เพื่อทำการตลาดโฆษณาและประชาสัมพันธ์ ทั้งในส่วนของ Above the line (ABL) และ Below the line (BTL)สร้างการรับรู้ถึงผู้บริโภคอย่างทั่วถึง ผ่านรายการที่มีกลุ่มเป้าหมายเป็นวัยรุ่น ทั้งโทรทัศน์ คลื่นวิทยุ หนังสือพิมพ์ และมีการ tie-in สินค้าตัวอย่างพร้อมบทสัมภาษณ์ของพรีเซนเตอร์ในนิตยสารต่างๆ เพื่อเป็นการตอกย้ำและเชื่อมโยง ภาพลักษณ์ของสินค้ากับตัวพรีเซนเตอร์ของเราเองด้วย และสำหรับสื่อออนไลน์ที่เป็นที่นิยมในหมู่วัยรุ่น ซึ่งเป็นลูกค้ากลุ่มเป้าหมายหลัก "ยำยำ" ก็ได้ทำการประชาสัมพันธ์สินค้าใหม่ผ่านทางเว็บไซต์ sanook.com อีกด้วย
สำหรับภาพรวมตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปในปีที่ผ่านมา มูลค่าตลาด 10,000 ล้านบาท และมีอัตราการเติบโต 8% และแบ่งตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปตามบรรจุภัณฑ์ เป็นตลาดพรีเมียม ในบรรจุภัณฑ์ชนิดถ้วยและชาม สัดส่วน 5% และตลาดระดับกลาง ชนิดซอง 95%
การแข่งขันในตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปแบบถ้วย และชาม ซึ่งอยู่ในตลาดพรีเมียม แม้ว่าจะมีแนวโน้มการขยายตัวสูง แต่ในปัจจุบันแต่ละค่ายพักรบการบุกตลาด เนื่องจากมีปัจจัยด้านราคาที่สูงกว่าบะหมี่ซองเป็นอุปสรรคในการทำตลาดในยามที่เศรษฐกิจซบเซา ประกอบกับตัวเลขของบรรจุภัณฑ์ชนิดซองที่มีสัดส่วนใหญ่ในตลาด ก็ส่งผลทำให้การแข่งขันในตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปยังคงมุ่งตรงไปที่ตลาดระดับกลาง ชนิดซอง
ทว่ามีเพียงแบรนด์ "มาม่า" ที่เป็นลีดเดอร์ครองส่วนแบ่งตลาด 50% ที่ยังทำหน้าที่เป็นเทรนด์เซตเตอร์เปิดเกมรุกในตลาดนี้ เพื่อสร้างตลาดใหม่ๆให้บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปด้วยวิธีการขยายการบริโภคของตลาดไปยังเซกเมนต์ที่ยังมีโอกาสในการขยายตัวสูง โดยส่งสินค้าลงมาทำตลาดพรีเมียมอย่างต่อเนื่อง ขณะที่แบรนด์รองๆอย่าง ไวไว ครองเบอร์2 ด้วยส่วนแบ่งตลาด 26% และ "ยำยำ" ซึ่งปีที่ผ่านมามียอดขายเติบโตถึง 11% ครองอันดับ 3 ด้วยส่วนแบ่งทางการตลาด 22% ยังคงให้ความสำคัญกับตลาดบะหมี่ซอง ที่แลกหมัดกันอย่างหนักด้วยกลยุทธ์การแข่งขันด้านการออกรสชาติใหม่เพื่อช่วงชิงภาพในเรื่องของการแนะนำสินค้าที่มีนวัตกรรมใหม่ๆ ออกสู่ตลา
ต้องยอมรับกลยุทธ์การตลาดด้านผลิตภัณฑ์ของการทำตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จ ที่มีการออกรสชาติใหม่ๆ เสมอรวมทั้งให้ความสำคัญกับการปรับปรุงบรรจุภัณฑ์ให้ดูแปลกและสะดุดตา เป็นแนวทางตลาดในการกระตุ้นความอยากลองผลิตภัณฑ์เพื่อสร้างโอกาสให้ผู้บริโภคเกิดการสวิตช์ไปบริโภคแบรนด์ของตนเอง ซึ่งเป็นการมองหาช่องว่างจากพฤติกรรมการบริโภคบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่เป็นสินค้ามีแบรนด์ลอยัลตี้ต่ำ และนั่นเป็นที่มาทำให้กลยุทธ์การส่งเสริมการขายของแต่ละแบรนด์จึงเน้นไปที่การเปิดศึกทลายกำแพงลอยัลตี้กันด้วยกลยุทธ์การตลาดด้านผลิตภัณฑ์ ที่มีการออกรสชาติใหม่ๆเสมอ
|
|
|
|
|