|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
*ความสำเร็จของ "ดีแทค" กำลังกลายเป็นต้นแบบสำคัญของกลุ่มเทเลนอร์
*ยักษ์ใหญ่เทเลคอมนอร์เวย์จะยึดเอเชียด้วยโมเดลธุรกิจเช่นเดียวกับในประเทศไทย
*แม่ทัพใหญ่ "ซิคเว่ เบรคเก้" คือหมากรุกในฐานะผู้นำกองทัพไปยังประเทศต่างๆ ทั่วเอเชีย
*จับตา เวียดนาม อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ เป็น 3 ประเทศแรกสำหรับการขยายการลงทุน
*นี่คือการพลิกโฉมอุตสาหกรรมเทเลคอมเอเชียสู่โลกใหม่การสื่อสารอีกครั้ง
"เอเชียจะเป็นหัวใจสำคัญของกลุ่มเทเลนอร์ในอนาคต"
เป็นคำกล่าวของ ซิคเว่ เบรคเก้ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือดีแทค และว่าที่ซีอีโอคนใหม่ของเทเลนอร์เอเชีย รวมถึงการเป็นว่าที่หนึ่งในผู้บริหารระดับสูงของเทเลนอร์ที่นอร์เวย์
ซิคเว่กำลังจะก้าวจากการเป็นซีอีโอดีแทค ไปสู่ความท้าทายครั้งใหม่ในวันที่ 31 สิงหาคม 2551 นี้ ที่เขาบอกว่านี่คือช่วงเวลาและโอกาสที่ดีที่สุดสำหรับการไปเป็นซีอีโอเทเลนอร์เอเชีย และการได้รับตำแหน่งเป็นหนึ่งในผู้บริหารระดับสูงของเทเลนอร์ที่นอร์เวย์
และอะไรเป็นแรงผลักดันให้ "ซิคเว่" ได้รับความไว้วางใจมากจากทางเทเลนอร์ให้ขึ้นไปเป็นแม่ทัพที่จะควบคุมดูแลธุรกิจของกลุ่มเทเลนอร์ในภูมิภาคเอเชียทั้งหมด แม้ว่าในวันนี้กลุ่มเทเลนอร์ที่ซิคเว่จะไปดูแลนั้นมีเพียง 4 ประเทศ ได้แก่ ไทย บังกลาเทศ ปากีสถาน และมาเลเซีย แต่เหนืออื่นใดนั้น ความต้องการของกลุ่มเทเลนอร์ คือการอาศัยวิสัยทัศน์และความสามารถของซิคเว่ในการมองหาลู่ทางการลงทุนใหม่ในประเทศอื่นๆ ทั่วเอเชียมากกว่า เนื่องจากวันนี้ทั้ง 4 ประเทศที่เทเลนอร์ได้มีการลงทุนแล้วนั้น ถือว่ามีความแข็งแกร่งในระดับหนึ่ง
แต่ประเทศที่กลุ่มเทเลนอร์มองว่าแข็งแกร่งและน่าจะนำโมเดลธุรกิจมาเป็นต้นแบบในการเปิดตลาดขยายการลงทุนไปทั่วเอเชียนั้น คือโมเดลธุรกิจของดีแทคนั่นเอง เพราะตลอดระยะเวลาที่ "ซิคเว่" ได้เข้ามาบริหารธุรกิจในช่วง 5-6 ปีที่ผ่านมา ทุกคนต่างยอมรับว่าซิคเว่คือดีแทค และดีแทคก็คือซิคเว่ ภาพของซีอีโอที่พร้อมจะกระโดดไปทำอะไรใหม่ๆ และสิ่งที่เหนือความหมายเกิดขึ้นได้ตลอดเวลากับผู้ชายที่ชื่อ "ซิคเว่" และด้วยวิสัยทัศน์และการบริหารของซิคเว่นี้เอง กับการผลักดันเหล่าผู้บริหารคนรุ่นใหม่ในดีแทค ช่วยให้ดีแทคเปลี่ยนจากวิกฤตที่ย่ำแย่มีปัญหาทางด้านการเงินอย่างมาก การแข่งขันที่ไม่อาจจะสู้กับคู่แข่งได้ ให้กลายเป็นศัตรูตัวฉกาจที่ผู้ให้บริการรายอื่น ต้องจับตามองทุกย่างก้าวสำหรับการเปลี่ยนแปลงในองค์กรแห่งนี้
"ในวันที่เราแย่สุดๆ จนมีข่าวว่าแม้แต่ออเร้นจ์ในขณะนั้น ที่ปัจจุบันคือทรูมูฟจะเข้ามาซื้อกิจการของเรา" ธนา เธียรอัจฉริยะ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารดีแทค กล่าว และว่า "ดีแทคมีการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่องในช่วงหลายปีที่ผ่านมา และหนึ่งในความเปลี่ยนแปลงที่ทำให้ดีแทคสามารถมีทุกวันนี้ก็คือคุณซิคเว่"
ภายในองค์กรดีแทคมองเรื่องของการเปลี่ยนแปลงเป็นเรื่องธรรมดาไปแล้ว เนื่องจากพวกเขาคิดว่าการเปลี่ยนแปลงในแต่ละครั้งจะช่วยให้องค์กรแห่งนี้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น และไม่ใช่จุดอ่อนที่คู่แข่งขันจะใช้ช่วงเวลาของการเปลี่ยนแปลงมาโจมตีดีแทคได้
เช่นเดียวกัน การที่ซิคเว่ซึ่งถือว่าเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของดีแทคกำลังจะก้าวออกไป แต่ดีแทคก็มองว่านี่เป็นเพียงการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่อีกครั้งเท่านั้น เพราะในความเป็นจริงคือดีแทคจะได้ผู้บริหารที่มีความสามารถเข้ามาเป็นแม่ทัพใหม่เพิ่มอีกคนหนึ่ง คือ ทอเร่ จอห์นเซ่น ผู้บริหารที่คลุกคลีกกับการบริหารงานในเอเชียมากว่า 10 ปี จะเข้ามาสานต่อความสำเร็จของดีแทคต่อจากซิคเว่
"ซิคเว่ไม่ได้ไปไหนและเขาก็จะเป็นส่วนหนึ่งในคณะกรรมการบริหารของดีแทคที่จะคอยให้คำปรึกษาและชี้แนะ จึงไม่อาจกล่าวได้ว่าซิคเว่จากดีแทคไป แต่ต้องบอกว่าดีแทคได้ผู้บริหารมือดีเข้ามาเพิ่มอีก 1 คนคือทอเร่" บุญชัย เบญจรงคกุล ประธานคณะกรรมการดีแทค กล่าว
การก้าวขึ้นไปเป็นซีอีโอเทเลนอร์และผู้บริหารคนสำคัญของเทเลนอร์ ซิคเว่ มองว่านี่ไม่ใช่ตัวเขาที่ได้รับการโปรโมตเพียงคนเดียว แต่เป็นดีแทคที่ได้รับการโปรโมตด้วย เนื่องจากผลงานของดีแทคในช่วง 5-6 ปีทำให้ผู้บริหารระดับสูงของเทเลนอร์เห็นถึงความสำเร็จของดีแทค และเห็นว่าน่าจะนำความสำเร็จของดีแทคไปใช้ในประเทศอื่นๆ ต่อไป
หนึ่งในเหตุผลสำคัญที่ซิคเว่พร้อมจะไปเริ่มงานใหม่ นอกจากตำแหน่งที่สูงขึ้น ความรับผิดชอบที่สูงขึ้นแล้ว เขามองว่าตลาดเอเชียเป็นงานที่ท้าทายความสามารถของเขาอย่างมาก ประกอบกับเขามองว่าดีแทค ณ วันนี้เป็นบริษัทที่แข็งแกร่งแล้ว และเชื่อว่าในอนาคตอันใกล้ดีแทคจะกลายเป็นบริษัทที่ดีที่สุดในประเทศไทยและในภูมิภาคด้วย
ความสำเร็จที่ซิคเว่คิดว่าการที่เขาเสมือนกับการเป็นโค้ชให้กับพนักงาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับเหล่าผู้บริหารของดีแทคนั้นคือความสำเร็จ เพราะเขารู้ว่าวันหนึ่งเขาจะต้องออกจากดีแทค การสร้างให้พนักงานทุกคนมีความแข็งแกร่งจึงเป็นสิ่งที่จำเป็นที่สุด ซึ่งวันนี้จุดแข็งอย่างหนึ่งของดีแทคก็คือเรื่องของคนและผู้บริหาร ทุกคนมีการเติบโตขึ้นและมีการเปลี่ยนแปลงในทิศทางที่ดีขึ้น
บุญชัย ให้ทรรศนะว่ากลุ่มเทเลนอร์จะได้รับสิ่งต่างๆ มากมายจากซิคเว่ จากการที่เขาเคยเป็นอดีตรัฐมนตรีช่วยการกระทรวงกลาโหมของนอร์เวย์ และการเข้ามาเป็นผู้บริหารของเทเลนอร์ เขาคือนักบริหารอย่างแท้จริง สิ่งที่พิสูจน์ซิคเว่ได้ดีคือการเข้ามาบริหารงานของเขาในดีแทค ซิคเว่ไม่เคยอยู่เฉยๆ เขาพร้อมที่จะเปลี่ยนแปลงกำลังพล โยกย้ายพนักงาน ผู้บริหารตลอดเวลา เปลี่ยนแปลงออฟฟิศในแบบที่ไม่มีใครทำได้ จนดีแทคกลายเป็นบริษัทที่พร้อมรุกในทุกเรื่อง มีการสร้างการเรียนรู้อุปสรรคและมองโอกาสที่ดี น่าจะเป็นจุดดีที่ซิคเว่สามารถนำไปใช้กับการบริหารงานในประเทศต่างๆ นอกเหนือจากทั้ง 4 ประเทศ
ต้นแบบจากดีแทคที่ซิคเว่จะนำไปปรับใช้ในการบริหารประเทศต่างๆ รวมทั้งประเทศที่เทเลนอร์จะขยายการลงทุนไป คือการนำเรื่องของความกระตือรือร้น ความกระหายที่จะทำงานไปสู่องค์กรเหล่านั้น ประการที่สองคือเรื่องคัสตอมเมอร์โฟกัส เขามองว่าการที่ดีแทคประสบความสำเร็จทุกวันนี้เพราะมุ่งคิดทำสินค้าและบริการโดยมองที่ลูกค้าเป็นหลัก และประการสุดท้ายการนำเรื่องการบริหารและการจัดการเรื่องของคนของดีแทคไปใช้ เพราะซิคเว่มองว่า ไม่ว่าธุรกิจนั้นจะนำเสนอเรื่องเทคโนโลยีที่ทันสมัยล่าสุดเพียงไร มีสินค้าและบริการ มีโปรโมชั่นมากมาย แต่ทั้งหมดทั้งสิ้นก็ต้องมาจากคนภายในบริษัท การพัฒนาคนให้มีศักยภาพจึงเป็นสิ่งที่ซิคเว่ให้ความสำคัญอย่างมาก
ต้นแบบทั้งสามประการนี้ ซิคเว่มองว่าคือสิ่งสำคัญที่เขาได้จากดีแทค และพร้อมที่จะนำจุดเด่นเรื่องนี้ไปใช้ นอกเหนือจากการทำธุรกิจในสไตล์ที่แปลกใหม่ตลอดเวลาของดีแทค
ซิคเว่ ทิ้งท้ายไว้ว่า "วันนี้ดีแทคยังเป็นบริษัทคนไทย และเขาก็รักเมืองไทย วันนี้เขาไม่ได้ไปไหน เพราะสำนักงานใหญ่ประจำภูมิภาคเอเชียของเทเลนอร์อยู่ที่เมืองไทย และเขาเชื่อว่าดีแทคจะเป็นโมเดิร์นไทยคอมปะนีที่ดี"
ส่วนบุญชัยในฐานะพี่ใหญ่ของดีแทคมาตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทจนถึงทุกวันนี้ เขาได้มองไว้ว่าดีแทคเข้าสู่ยุคที่ท้าทายที่สุดอีกครั้ง และจังหวะนี้ถือเป็นช่วงจังหวะและโอกาสที่ดีมากสำหรับการเปลี่ยนแปลง โดยอาศัยความรู้ความสามารถของซีอีโอใหม่ทอเร่ ให้เป็นประโยชน์ที่สุด เพราะเขาคือผู้หนึ่งที่มีความเชี่ยวชาญเรื่องของ 3G ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้ให้บริการทุกรายกำลังเดินหน้าไป และอาจส่งผลให้ดีแทคพลิกโอกาสทางธุรกิจมาไล่บี้กับผู้นำตลาดได้ใกล้เคียงยิ่งขึ้น และทิ้งห่างผู้ให้บริการที่ไล่ตามมาแบบไม่ต้องหายใจรดต้นคอในอนาคตอันใกล้นี้
|
|
|
|
|