|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
 |
ตลาดหุ้นไทยผันผวนสุดๆ ปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่า 13 จุดในช่วงเข้า ก่อนเจอนักลงทุนต่างชาติกระหน่ำขายกว่า 3.7 พันล้านบาท กดดันดัชนีติดลบ 1.37 จุด ระบุตั้งแต่ต้นปีต่างชาติขายสุทธิแล้วกว่า 6.6 หมื่นล้านบาท ด้าน "ปกรณ์" ชี้ดัชนีตลาดหุ้นมีโอกาสรูดต่อ จากที่ผ่านมาลดลงถึง 17-18%
ภาวะการลงทุนในตลาดหุ้นไทยวานนี้ (9 ก.ค.) ดัชนีตลาดหุ้นไทยเคลื่อนไหวผันผวนค่อนข้างรุนแรง โดยช่วงเช้าปรับตัวเพิ่มขึ้นถึง 13 จุด ตามทิศทางตลาดหุ้นภูมิภาค แต่กลับมีแรงเทขายออกมาในช่วงบ่ายทำให้ดัชนีปรับตัวลดลงมาเคลื่อนไหวอยู่ในแดนลบ มีจุดต่ำสุดที่ 719.65 จุด สูงสุด 736.24 จุด ก่อนจะปิดการซื้อขายที่ 721.13 จุด ลดลง 1.37 จุด หรือ 0.19% มูลค่าการซื้อขาย 17,238.71 ล้านบาท
ทั้งนี้ นักลงทุนต่างประเทศยังคงขายหุ้นออกมาอย่างต่อเนื่อง มียอดขายสุทธิสูงถึง 3,738.19 ล้านบาท นักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิ 1,468.71 ล้านบาท นักลงทุนรายย่อยซื้อสุทธิ 2,269.47 ล้านบาท
นายปกรณ์ มาลากุล ณ อยุธยา ประธานกรรมการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวลดลงจากจุดสูงสุดเดิมแล้วประมาณ 17-18% ซึ่งอยู่ระดับใกล้เคียงกับช่วงที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ประกาศใช้มาตรการกันเงินสำรอง 30% ขณะเดียวกันดัชนีตลาดหุ้นยังมีแนวโน้มปรับตัวลดลงได้อีก แต่คงไม่มากแล้ว เพราะปัจจุบันราคาหุ้นขนาดใหญ่หลายบริษัทมีมูลค่าต่ำกว่าราคาที่เหมาะสมแล้ว
"ดัชนีตลาดหุ้นไทยวานนี้ ครึ่งวันเช้าปรับตัวเพิ่มขึ้นตามตลาดหุ้นดาวโจนส์ และภูมิภาค หลังจากราคาน้ำมันปรับตัวลดลง 10 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล แต่ช่วงบ่ายดัชนีลดลง เพราะนักลงทุนยังไม่ค่อยมั่นใจสถานการณ์ทางการเมือง โดยเฉพาะเรื่องยุบพรรคพลังประชาชน (พปช.) หลังจากศาลฎีกาพิจารณาให้ใบแดงนายยงยุทธ ติยะไพรัช รองหัวหน้าพรรค ไปก่อนหน้าแล้ว"
สำหรับแนวโน้มตลาดหุ้นไทยนั้น นายปกรณ์ กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจน เพราะต้องการประกาศงบการเงินครึ่งปีแรกของสถาบันการเงินสหรัฐฯ จะได้รับผลกระทบจากปัญหาสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์คุณภาพต่ำ (ซับไพรม์) มากน้อยแค่ไหน รวมถึงนโยบายการดูแลและแก้ปัญหาเรื่องอัตราเงินเฟ้อจะดำเนินการอย่างไร หลังจากอัตราเงินเฟ้อสูงกว่ากรอบที่กำหนดไว้ ดังนั้น คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ควรจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
"ดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวลดลงน่าจะมาจากราคาหุ้นกลุ่มพลังงานที่ลดลง ทั้งที่ความจริงแล้วราคาหุ้นพลังงานน่าจะปรับตัวสูงขึ้นตามราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นราคาหุ้นที่ลดลงน่าจะเกิดจากนโยบายพลังงานของรัฐบาลที่ไม่คำนึงถึงประโยชน์ของนักลงทุนที่มีการถือหุ้นในกลุ่มพลังงานมากกว่า 1 แสนคน"
นายปกรณ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบันนักลงทุนต่างชาติขายสุทธิแล้วกว่า 66,299 ล้านบาท ทำให้ค่า P/E ลดลงมาอยู่ที่ 12-13 เท่า และผลตอบแทนจากเงินปันผลที่ประมาณ 4% ซึ่งถือเป็นจุดที่น่าสนใจเข้ามาลงทุนได้แล้ว
"การขายหุ้นของนักลงทุนต่างชาติครั้งนี้แตกต่างจากการขายหุ้นในปีที่ผ่านมา ที่มีการขายแล้วนำเงินไปลงทุนในตลาดตราสารหนี้ แต่ในปีนี้เป็นการขายหุ้นแล้วนำเงินออกนอกประเทศ"
นักลงทุนทิ้งแบงก์พลังงาน
นายอดิศักดิ์ คำมูล ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล) เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ KGI กล่าวว่า ดัชนีตลาดหุ้นไทยวานนี้ผันผวนโดยในช่วงเข้ามีการปรับตัวเพิ่มขึ้นถึง 13 จุด ซึ่งเป็นไปตามทิศทางภูมิภาคและจากปัจจัยทางการเมืองผ่อนคลายลง แต่ในช่วงบ่ายนักลงทุนมีการเทขายหุ้นกลุ่มพลังงาน ออกมาจากราคาน้ำมันปรับตัวลง
ขณะเดียวกัน นักลงทุนยังขายหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์จากความกังวลเงินเฟ้อที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น ทำให้ดอกเบี้ยมีการปรับตัวเพิ่มขึ้น ส่งผลต่อต้นทุนทางการเงินสูงขึ้น แม้ว่าปัจจัยทางการเมืองจะมีการคลี่คลายแต่จากยังมีประเด็นที่เป็นตัวแปรสำคัญที่จะต้องติดตามทำให้นักลงทุนมีความกังวลส่งผลให้ดัชนีปิดลดลง
สำหรับแนวโน้มดัชนีตลาดหุ้นไทยอ่อนตัวได้ แต่หากปรับตัวลดลงคงปรับตัวลดลงไม่มาก จากที่ผ่านมาดัชนีปรับตัวมามากแล้วและหุ้นก็ต่ำกว่าปัจจัยพื้นฐานที่ควรจะเป็น โดยประเมินแนวรับที่ระดับ 720-725 จุด แนวต้านที่ระดับ 730-735 จุด
รอสร้างฐานใหม่
นางสาวสุภากร สุจิรัตนวิมล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บล.เคทีบี กล่าวว่า ดัชนีตลาดห้นไทยผันผวน จากการที่ราคาน้ำมันปรับตัวลดลงทำให้นักลงทนุมีการเข้าเก็งกำไรในหุ้นขนส่ง รวมถึงเก็งกำไรงบการเงินไตรมาส 2/51 ของหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ แต่ในช่วงบ่ายมีแรงเทขายหุ้นออกมา ซึ่งเชื่อว่าเป็นการขายหุ้นของนักลงทุนต่างประเทศทำให้ดัชนีปิดปรับตัวดลลงเล็กน้อย
ทั้งนี้ การที่ดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวเพิ่มไม่สูงจากการที่นักลงทุนยังมีความกังวลในเรื่องการเมืองในช่วงอีก 4-5 เดือนที่จะมีประเด็นในเรื่องการยุบพรรค และรัฐบาลถูแรงกดดันในเรื่องเขาพระวิหารที่จะกดดันให้นายกมีการลากออกทำให้ไม่มีเสถียรภาพการเมือง และแนวโน้มน้ำมันดิบจะปรับตัวเพิ่มขึ้นจากความกังวลที่อิหร่านจะซ้อมรบ
สำหรับแนวโน้มตลาดหุ้นไทยยังคงผันผวนในลักษณะปรับตัวลดลง ต่อเนื่องหากดัชนียังไม่สามารถสร้างฐานได้ ส่วนการที่จะมีการทำกำไรในหุ้นกลุ่มการเมืองเพื่อที่จะนำเงินไปเตรียมหาเสียงเลือกตั้งนั้นขณะนี้ยังไม่เห็นสัญญาณจากที่กระบวนการจนถึงยุบพรรคต้องใช้เวลาอีกระยะ โดยประเมินแนวรับที่ระดับ 700-720 จุด แนวต้านที่ระดับ 736 จุด
|
|
 |
|
|